“เบสท์ลิน” เตรียมใช้จีนเป็นฐานผลิตและประกอบชิ้นส่วนรถบีอาร์ทีของ กทม.พร้อมยัน ก.ค.นี้โครงการบีอาร์ทีสำเร็จเต็มสูบ โดยบีอาร์ที 3 คันแรก ทางบริษัทจะสามารถจัดส่งให้ กทม.ใน 120 วัน
นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษ หรือ บีอาร์ที สายช่องนนทรี-ราชพฤกษ์ ว่า หลังจากที่ กทม.ได้ประกวดราคาได้บริษัท เบสท์ลิน กรุ๊ป เพื่อจัดหารถโดยสารจำนวน 45 คัน ในกรอบวงเงิน 387 ล้านบาท นั้น ขณะนี้ กทม.ได้ออกจดหมายให้เอกชนรายดังกล่าวมาลงนามในสัญญาว่าจ้าง พร้อมจัดหาแบงก์การันตีมาให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถลงนามได้ภายในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ในการจัดหารถโดยสารนั้นทางบริษัท เบสท์ลิน แจ้งให้ทราบว่าจะผลิตชิ้นส่วนและประกอบตัวรถให้แล้วเสร็จที่สาธารณรัฐประชาชนจีนแล้วค่อยส่งเข้ามาที่ประเทศไทย ซึ่งสเปกรถโดยสารที่ กทม.ได้กำหนดไว้นั้นจะต้องมีความยาวไม่น้อยกว่า 11 เมตร แต่ไม่เกิน 12 เมตร เครื่องยนต์ไม่น้อยกว่า 170 กิโลวัตต์ หรือ 230 แรงม้า (ISO) ใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติมาตรฐาน ISO 2006 น้ำหนักบรรทุกรถไม่เกิน 18,000 กิโลกรัม มาตรฐานไอเสียไม่ต่ำกว่ายูโร 3 ประตูกว้างไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร และสูงไม่น้อยกว่า 1.80 เมตร บันไดขั้นต่ำสุดสูงจากพื้นไม่เกิน 0.40 เมตร ส่วนพื้นรถสูงกว่าพื้นถนนประมาณ 90 เซนติเมตร และต้องสามารถปรับระดับพื้นรถได้ 85-95 เซนติเมตร ระบบห้ามล้อเป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ ส่วนเกียร์ใช้แบบอัตโนมัติสามารถเดินหน้าไม่น้อยกว่า 4 จังหวะ และถอยหลัง 1 จังหวะ
นายพนิช กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะต้องมีป้าย LCD บริเวณหน้ารถ มีป้ายเข้า-ออก ข้างประตูติดภายในตัวรถโดยสาร รวมถึงมีป้ายแสดงข้อมูลสถานีที่จะถึงบอกอีกด้วยที่สำคัญจะต้องมีที่ล๊อคสำหรับผู้พิการ 1 ที่ ส่วนจำนวนที่นั่งจะต้องไม่น้อยกว่า 20 ที่นั่ง แต่ต้องสามารถจุผู้โดยสารได้ 80 คน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบว่าทางเบสท์ลินได้ดำเนินการออกแบบตัวรถแล้ว ทั้งนี้ รถโดยสารบีอาร์ที 3 คันแรก ทางบริษัทจะสามารถจัดส่งให้ กทม.ใน 120 วัน หรือ 4 เดือน และจะแล้วเสร็จทั้งโครงการประมาณเดือนกรกฎาคมนี้
