xs
xsm
sm
md
lg

บุกถก “ชวรัตน์” เร่งขยายฟอกไต สปสช.เมิน รพ.เอกชน ไม่เข้าร่วม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สปสช.ปัดเคลียร์ความขัดแย้งราคาค่าฟอกไตกับ รพ.เอกชน 17 ก.ย.นี้ แค่หารือขยายบริการฟอกไตครอบคลุมมากขึ้น ชี้ ให้มูลนิธิโรคไตฯ บริหารจัดการค่าใช้จ่ายการให้บริการนอกเวลาราชการในราคา 1,500 บาท ไม่กังวล รพ.เอกชนเข้าร่วมโครงการหรือไม่ เผยเตรียมจับมือ สธ.-มูลนิธิโรคไตฯ ขยายการบริการฟอกไตใน รพ.รัฐเพิ่ม ขณะที่ชมรมเพื่อนโรคไต เผย รพ.ห่วง สปสช.จ่ายเงินช้ากระทบการบริหารงานเพราะฟอกเลือกมีค่าใช้จ่ายสูง

วันที่ 16 กันยายน นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการ สปสช.กล่าวว่า ในวันที่ 17 ก.ย.จะเข้าหารือกับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข เกี่ยวกับแนวทางการขยายการบริการฟอกไตในสถานพยาบาลภาครัฐ เพื่อรองรับการสิทธิผู้ป่วยโรคไตวายให้ครอบคลุม และมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งในเร็วๆ นี้ จะมีการลงนามความร่วมมือระหว่าง สธ.สปสช.และมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทยอีกครั้งด้วย

“การหารือในครั้งนี้ไม่ใช่การมาหาทางออกในเรื่องความขัดแย้งเรื่องราคากลางของการฟอกเลือดผ่านเครื่องไตเทียมที่ สปสช.เสนอในราคา 1,500 บาท ที่สถานพยาบาลเอกชนไม่ยอมรับ และไม่ได้ถือว่าการหารือครั้งนี้เป็นการเคลียร์เรื่องดังกล่าวด้วย เข้าใจว่าจะมีการนัดคุยกันใหม่อีกครั้ง แต่ไม่ใช่ในครั้ง” นพ.ประทีป กล่าว

นพ.ประทีป กล่าวต่อว่า เครื่องฟอกเลือดในสถานพยาบาลรัฐใช้งานเฉลี่ยวันละ 1-2 รอบต่อวัน ทั้งที่ปกติแล้วสามารถให้บริการได้ 3-4 รอบต่อวัน ซึ่งจะให้มูลนิธิโรคไตเข้ามาบริหารจัดการในเรื่องค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าบุคลากร ฯลฯ ที่จะเปิดให้บริการนอกเวลาราชการในราคากลางที่กำหนดจำนวน 1,500 บาทต่อครั้ง เพื่อให้เครื่องฟอกได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพสามารถรองรับผู้ป่วยที่มาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสถานพยาบาลเอกชนจะร่วมโครงการหรือไม่

นายสุบิล นกสกุล ประธานชมรมเพื่อนโรคไต กล่าวว่า ขณะนี้ไม่กังวลว่าสถานพยาบาลเอกชนจะไม่เข้าร่วมโครงการของ สปสช.ในเรื่องสิทธิการฟอกเลือดผ่านเครื่องไตเทียม เพราะมีสถานพยาบาลเอกชนกว่า 160 แห่ง จาก200 กว่าแห่ง ที่เข้าร่วมโครงการแล้ว ทั้งนี้ สปสช.มีแผนในการรองรับการใช้บริการ โดยจะเพิ่มการให้บริการที่โรงพยาบาลศูนย์ในแต่ละจังหวัด ขณะเดียวกัน หากขาดแคลนบุคลากรก็จะให้มูลนิธิโรคไตฯ เข้าไปช่วยสนับสนุนได้

“ปัญหาขณะนี้ไม่ได้อยู่ที่สถานพยาบาลเอกชนจะเข้าร่วมโครงการหรือไม่ แต่เป็นเรื่องความกังวลใจของสถานพยาบาล ว่า ทาง สปสช.จะจัดสรรงบประมาณช้าหรือไม่ เพราะหากจ่ายช้าเช่นเดิมที่ผ่านมา อาจจะทำให้กระทบต่อการบริหารงานของสถานพยาบาลได้ เพราะงบประมาณที่ใช้กับการให้บริการฟอกเลือดนั้นมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง” นายสุบิล กล่าว

นายสุบิล กล่าวว่า ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ พร้อมตัวแทนประมาณ 4-5 คนจะเดินทางไปยังแพทยสภาเพื่อให้แพทยสภาสอบจรรยาบรรณวิชาชีพของ นพ.เอื้อชาติ และ นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ เจ้าของเครือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และในฐานะกรรมการหลักประกันตัวแทนสมาคมที่ได้ทำหนังสือถึงสมาชิกโรงพยาบาลที่ได้ทำหนังสือแนะนำไม่ให้ร่วมโครงการดังกล่าว รวมถึง นพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี ประธานชมรมโรงพยาบาลเอกชนเพื่อการพัฒนาระบบบริการประกันสังคมที่ได้ออกหนังสือขอความร่วมมือจากสมาชิกให้พิจารณาสนับสนุนตามที่สมาคมโรงพยาบาลเอกชนได้ทำหนังสือดังกล่าวด้วย เพราะการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการขัดต่อจริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์ ที่กระทำการเป็นปฏิปักษ์กับสุขภาพของประชาชน

ด้านนพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน และประธานคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขของ คณะกรรมการบริหารสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ขอให้สัมภาษณ์อะไรอีกแล้ว เพราะถือว่าได้ทำหน้าที่ของนายกสมาคม เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถือว่าจบเรื่อง ดังนั้น หากมีปัญหาอะไรอีกก็ไม่เกี่ยวข้องกับตน ส่วนกลุ่มเครือข่ายผู้ป่วยลงชื่อขอให้แพทยสภาตรวจสอบจริยธรรมของตนนั้น ก็ไม่รู้สึกหนักใจอะไร ไม่ต้องมาห่วงอะไรตน

“ขอขอบคุณในความหวังดี แต่จะให้ดีไม่ต้องมาห่วงผมดีกว่า” นพ.เอื้อชาติ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น