xs
xsm
sm
md
lg

สสส.ห่วงปัญหาม้วนบุหรี่สูบเองพุ่งเฉียด 50% เหตุไทยไม่มีกฎหมาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สสส.สำรวจพบหญิงรากหญ้าสูบบุหรี่เพิ่มน่าห่วง ขณะที่ยอดม้วนบุหรี่สูบเองพุ่งเฉียด 50% เหตุไทยไม่มีกฎหมายป้องกัน แถมบริษัทบุหรี่ข้ามชาติยังเล่ห์ร้าย เป็นสปอนเซอร์หนุนกิจกรรมเยาวชน ทำเสื้อยืด หมวกแจง หวังเพิ่มนักสูบหน้าใหม่

รศ.ดร.วิลาสินี อดุลยานนท์ ผอ.สำนักรณรงค์และสื่อสารสาธารณะเพื่อสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การรณรงค์เรื่องภัยจากการสูบบุหรี่ เพื่อลดอิทธิพลของการโฆษณาจูงใจให้สูบบุหรี่ และเพิ่มโฆษณารณรงค์เพื่อสุขภาพ มาต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปีนั้น สสส.ได้ประเมินผล พบว่า ประชาชนยอมรับและพร้อมจะเปลี่ยนแปลง เพื่อสุขภาพหลังจากทราบข้อมูลผ่านการรณรงค์ กลุ่มตัวอย่าง 88.9% เห็นว่า การสูบบุหรี่ในที่สาธารณะเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะ และควรมีเขตปลอดบุหรี่ ขณะที่ 86.9% เห็นว่าบ้านควรเป็นเขตปลอดบุหรี่เพื่อไม่ให้ลูกเลียนแบบพฤติกรรม จึงเห็นได้ว่าการใช้สื่อรณรงค์ได้ช่วยทำให้กฎหมายต่างๆ มีความเข้มแข็งและเป็นที่ยอมรับจากประชาชนมากขึ้น

รศ.ดร.วิลาสินี กล่าวอีกว่า ประชาชนทั่วไปเกือบ 70% รับรู้การสื่อสารรณรงค์ได้จากทางโทรทัศน์มากที่สุด รองลงมาคือ การประชาสัมพันธ์แทรกในรายการโทรทัศน์ อีก 40% การรณณงค์โดยใช้พรีเซ็นเตอร์ ดารานักแสดง และ 25% จากข่าว คอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ สำหรับแคมเปญ ประชาสัมพันธ์ที่ประชาชนจดจำมากที่สุด คือ ควันบุหรี่ทำร้ายคนใกล้ชิด 75% ตามด้วยสุขภาพดีต้องปลอดบุหรี่และสุรา และเลิกบุหรี่เพื่อลูก 60% แม้การรณรงค์แบบพุ่งเป้าไปที่กลุ่มเสี่ยง คือ เยาวชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัทบุหรี่ จะได้รับผลตอบรับที่ดี แต่กลุ่มเป้าหมายอีกกลุ่ม คือ กลุ่มผู้หญิงที่มีเศรษฐสถานะต่ำ หรือรากหญ้า ยังมีการสูบบุหรี่ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งน่าเป็นห่วงมาก

“มีข้อมูลการสำรวจรูปแบบการสื่อสารของกลุ่มผู้หญิงรากหญ้า 5 ประเทศ พบสื่อรณรงค์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด คือ รณรงค์ผ่านภาพยนตร์ เวทีละคร ป้ายโฆษณา โปสเตอร์ รายการวิทยุ และในโรงหนัง รองลงมา คือ ผ่านโทรศัพท์ เนื้อเพลง และโทรทัศน์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ สสส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องหาช่องทางในการรณรงค์ที่เหมาะสมต่อไป แต่อีกปัญหาคือ บริษัทบุหรี่ข้ามชาติใช้กลยุทธ์โฆษณาแฝง เข้าไปเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนกิจกรรมของเยาวชน ทำเสื้อยืด หมวก เป็นของแจก ซึ่งต้องรณรงค์ให้ผู้รับการสนับสนุนรู้เท่าทันเล่ห์กลเหล่านี้”รศ.ดร.วิลาสินี กล่าว

รศ.ดร.วิลาสินี กล่าวด้วยว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงอีกเรื่อง คือ การสูบบุหรี่แบบม้วนเอง หรือยาเส้น มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เมื่อ 12 ปีที่แล้ว พบว่า คนไทยสูบบุหรี่ม้วนเอง 41.2% แต่เมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา มีคนสูบบุหรี่ม้วนเองเพิ่มขึ้นเป็น 49.6% สอดคล้องกับจำนวนผู้สูบบุหรี่แบบซองที่ลดลง เมื่อปี 2539 มีคนสูบบุหรี่แบบซอง 58.25% แต่ในปี 2547 ลดลงเหลือเพียง 47.3% และมีการสูบบุหรี่ประเภทอื่นๆ อีก 3.13% สาเหตุที่คนหันมาสูบบุหรี่แบบม้วนเองเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากไทยยังไม่มีมาตรการควบคุมบุหรี่แบบม้วนเอง โดยเฉพาะมาตรการทางภาษี
กำลังโหลดความคิดเห็น