“อภิรักษ์” ยันซื้อรถบีอาร์ทีโปร่งใส ระบุ จ้างกรุงเทพธนาคม ผ่านกฤษฎีกาตีความแล้ว ย้ำเคลียร์ดีเอสไอได้ทุกประเด็น พร้อมมอบปลัด-ปธ.คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการจัดซื้อรถบีอาร์ทีแจงต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผย มั่นใจไม่กระทบคะแนนเสียง เพราะประชาชนคิดเองได้
จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีมติรับคดีทุจริตโครงการจัดซื้อรถเมล์ด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากคดีมีพฤติการณ์ส่อว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นในการฮั้วประมูล ภายหลังการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากการร้องทุกข์กล่าวโทษของ คุณหญิงณัษฐนนท ทวีสิน อดีตปลัด กทม.และทางดีเอสไอเตรียมออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องโครงการทุกรายมาชี้แจงนั้น
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ที่ผ่านมา กทม.ได้ดำเนินโครงการอย่างตรงไปตรงมา และตั้งแต่ที่คุณหญิงณัษฐนนท ได้เข้าร้องเรียนต่อดีเอสไอ กทม.ก็ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยมีนางวรรณวิไล พรหมลักขโณ รองปลัด กทม.เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกทั้งสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) สภาทนายความ และกรมบัญชีกลาง ร่วมเป็นกรรมการซึ่งจากการตรวจสอบคุณสมบัติผู้เสนอราคาทั้ง 2 ราย พบว่า ผู้ถือหุ้นใน บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะการประมูล และบริษัท ปรินทร์ อิมพอร์ต เอ็กซ์พอร์ต จำกัด ณ วันที่ยื่นเอกสารไม่มีผลประโยชน์ร่วมกัน คุณสมบัติครบตามที่เงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) กำหนดและไม่ผิดระเบียบพัสดุ กทม.แต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้ผู้ทรงคุณวุฒิจาก อสส.ระบุว่า กทม.ดำเนินการถูกต้อง แต่ทาง กทม.ยังเห็นว่าจากการตรวจสอบของคณะกรรมการ พบความผิดปกติที่ผู้ถือหุ้นของทั้ง 2 บริษัทไปมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นร่วมกันในบริษัทที่ 3 คือ บริษัท ซันลอง มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ดังนั้น กทม.จึงได้ส่งให้ อสส.พิจารณา เพราะกรรมการไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าความผิดปกติที่เกิดขึ้นจะเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 หรือ พ.ร.บ.ฮั้ว หรือไม่
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า มีการล็อกสเปกให้บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งเป็นวิสาหกิจของ กทม.เป็นผู้บริหารจัดการโครงการบีอาร์ทีทั้งที่ไม่มีประสบการณ์การทำงานด้านการเดินรถสาธารณะมาก่อนนั้น ก็ไม่มีปัญหา ตนสามารถชี้แจงได้ และก่อนที่จะว่าจ้างให้กรุงเทพธนาคม เข้ามาบริหารโครงการดังกล่าวก็ได้ให้สำนักงานกฎหมายและคดี กทม.สอบถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อตีความสถานะของบริษัท กรุงเทพธนาคม ซึ่งทางกฤษฎีกาตีความว่าบริษัท กรุงเทพธนาคม สามารถดำเนินการว่าจ้างเอกชนเดินรถบีอาร์ทีได้ไมเข้าข่ายร่วมทุน ไม่เช่นนั้น กทม.คงไม่ว่าจ้างให้บริษัทดังกล่าวมาบริหารโครงการ
“ประเด็นสำคัญอยู่ที่ข้อร้องเรียนของ คุณหญิงณัษฐนนท ที่ไปร้องต่อดีเอสไอ ซึ่ง กทม.ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้วไปชี้แจง รวมถึงประสานไปยังดีเอสไอว่ามีประเด็นอะไรบ้างที่ต้องชี้แจงซึ่งได้จะมอบหมายให้ นางวรรณวิไล ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบ และ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม.ไปชี้แจงในทุกๆ ประเด็น ส่วนที่เรื่องดังกล่าวออกมาในช่วงตนจะหมดวาระ และจะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.อีกครั้งก็ไม่เป็นไร เพราะผมคิดว่าประชาชนตัดสินได้ ประชาชนก็คงคิดเองได้” นายอภิรักษ์ กล่าว