กลุ่มแพทย์เปิดรับสมัครนักศึกษาแพทย์ 1,340 คน เริ่มรับสมัคร 1 สิงหาคมนี้ ดูรายละเอียดจาก www.si.mahidol.ac.th/consortium ด้าน “นพ.อาวุธ” ระบุการปรับนักเรียนทุนแพทย์ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา เพราะมีคนพร้อมจ่ายให้ ควรปลูกจิตสำนึกแพทย์ดูแลสุขภาพทุกคน
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ร่วมกับ กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์ แห่งประเทศไทย (กสพท.) ร่วมกันแถลงข่าวการสมัครคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตและหลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต ปีการศึกษา 2552 โดย นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวว่า กสพท.ได้รับมอบอำนาจจากคณะแพทยศาสตร์ 12 สถาบัน ได้แก่ จุฬาฯ ม.ขอนแก่น ม.เชียงใหม่ ม.ธรรมศาสตร์ ม.นเรศวร โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ม.รังสิต ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ม.สงขลานครินทร์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล และวิทยาลัยแพทยศาสตรพระมงกุฎเกล้า และคณะทันตแพทยศาสตร์ 5 สถาบัน ได้แก่ จุฬาฯ ม.มหิดล ม.เชียงใหม่ ม.สงขลานครินทร์ และ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ โดยวิธีการรับตรง ประมาณ 1,340 คน
ทั้งนี้ ผู้สมัครสามารถดูรายละเอียดว่าแต่ละสถาบันรับจำนวนเท่าไหร่ และสมัครสอบได้ที่ www.si.mahidol.ac.th/consortium โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1-31 สิงหาคม 51 ผ่าน ชำระเงินค่าสมัคร 1 สิงหาคม ถึง 8 กันยายน ผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารไทยพาณิชย์ และส่งใบสมัครและเอกสารประกอบภายใน 4 กันยายนนี้ ทางไปรษณีย์เท่านั้น โดยจะสอบวิชาเฉพาะวันที่ 1 พฤศจิกายน ประกาศผลเดือนธันวาคม จากนั้นจะประกาศรายชื่อเพื่อตรวจสุขภาพ และประกาศผลขั้นสุดท้าย ภายใน 18 เมษายน 2552 แล้วจะให้ระยะเวลาในการยืนยันสิทธิ์
สำหรับปีนี้ให้ผู้สมัครมีสิทธิ์เลือกคณะ หรือสถาบัน ได้ไม่เกิน 4 ลำดับ เพิ่มจากปีที่ผ่านมา 1 ลำดับ ส่วนนักศึกษาที่กำลังศึกษาในหลักสูตรแพทย์ ปี 1 ที่ต้องการมาสอบแพทย์อีก เราจะไม่อนุญาตให้สอบ ยกเว้น นักศึกษาแพทย์ ต้องการเรียนทันตแพทย์ หรือ เรียนทันตแพทย์อยู่ต้องการเปลี่ยนมาเรียนแพทย์ ตรงนี้เราอนุญาตให้สมัครสอบ และนักศึกษาเรียนปี 2 ขึ้นไป ต้องการมาสมัครสอบต้องลาออกจากสถาบันที่เรียนอยู่ หากสอบไม่ติดจะกลับไปเรียนที่เดิมอีกไม่ได้
ศ.พญ.บุญมี สถาปัตยวงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการสอบคัดเลือกกสพท.กล่าวถึงการเตรียมตัวสำหรับการรับนักศึกษาในปีการศึกษา 2553 ทางกลุ่มสถาบันแพทย์ฯ หารือร่วมกัน โดยจะรับตรงเช่นเดิม เมื่อไม่มีการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (เอเน็ต) แล้ว ทางกลุ่มก็กำลังพิจารณา โดยจะรอความชัดเจนของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร
“การรับนักศึกษาแพทย์นั้น กลุ่มแพทย์จัดสอบเองเหมือนเดิม แต่ต้องรอผลการสอบความถนัดทั่วไป (General Aptitude Test หรือ GAT) และความถนัดเฉพาะด้านวิชาการ (Professional A Aptitude Test หรือ PAT)ก่อนเพื่อวิเคราะห์ว่ามีความเหมาะสมกับกลุ่มแพทย์แค่ไหน ซึ่ง ทปอ.จะจัดสอบ GAT และ PAT ปีละ 3 ครั้ง โดยจะเริ่มสอบครั้งแรกในเดือนมีนาคม กรกฎาคม และตุลาคม ปี 2552 เพื่อดูผลการสอบครั้งแรกแล้วมาวิเคราะห์ว่าจะใช้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม มีเวลาเตรียมตัวอีก 2 ครั้ง”
เมื่อถามการปรับเพิ่มค่าชดเชยแทนการใช้ทุนของนิสิต นักศึกษาแพทย์ ศ.นพ.อาวุธ ศรีศุกรี เลขาธิการกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การปรับเงินไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ตรงจุด แต่เป็นเรื่องระบบการใช้แพทย์ของประเทศ ต้องปลูกจิตสำนึกให้นักเรียนแพทย์ดูแลสุขภาพของประชาชน
“การเพิ่มค่าปรับไม่ใช่ทางแก้ปัญหา เพราะมีคนพร้อมที่จะให้อยู่แล้ว ซึ่งแพทย์จะกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล หรือเมืองใหญ่ๆ เท่าไหร่ ไม่มีการกระจายตัวไปตามต่างจังหวัด ดังนั้น รัฐควรหาวิธีจูงใจและปลูกจิตสำนึกให้ทำเพื่อประชาชน”
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ร่วมกับ กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์ แห่งประเทศไทย (กสพท.) ร่วมกันแถลงข่าวการสมัครคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตและหลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต ปีการศึกษา 2552 โดย นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวว่า กสพท.ได้รับมอบอำนาจจากคณะแพทยศาสตร์ 12 สถาบัน ได้แก่ จุฬาฯ ม.ขอนแก่น ม.เชียงใหม่ ม.ธรรมศาสตร์ ม.นเรศวร โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ม.รังสิต ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ม.สงขลานครินทร์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล และวิทยาลัยแพทยศาสตรพระมงกุฎเกล้า และคณะทันตแพทยศาสตร์ 5 สถาบัน ได้แก่ จุฬาฯ ม.มหิดล ม.เชียงใหม่ ม.สงขลานครินทร์ และ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ โดยวิธีการรับตรง ประมาณ 1,340 คน
ทั้งนี้ ผู้สมัครสามารถดูรายละเอียดว่าแต่ละสถาบันรับจำนวนเท่าไหร่ และสมัครสอบได้ที่ www.si.mahidol.ac.th/consortium โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1-31 สิงหาคม 51 ผ่าน ชำระเงินค่าสมัคร 1 สิงหาคม ถึง 8 กันยายน ผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารไทยพาณิชย์ และส่งใบสมัครและเอกสารประกอบภายใน 4 กันยายนนี้ ทางไปรษณีย์เท่านั้น โดยจะสอบวิชาเฉพาะวันที่ 1 พฤศจิกายน ประกาศผลเดือนธันวาคม จากนั้นจะประกาศรายชื่อเพื่อตรวจสุขภาพ และประกาศผลขั้นสุดท้าย ภายใน 18 เมษายน 2552 แล้วจะให้ระยะเวลาในการยืนยันสิทธิ์
สำหรับปีนี้ให้ผู้สมัครมีสิทธิ์เลือกคณะ หรือสถาบัน ได้ไม่เกิน 4 ลำดับ เพิ่มจากปีที่ผ่านมา 1 ลำดับ ส่วนนักศึกษาที่กำลังศึกษาในหลักสูตรแพทย์ ปี 1 ที่ต้องการมาสอบแพทย์อีก เราจะไม่อนุญาตให้สอบ ยกเว้น นักศึกษาแพทย์ ต้องการเรียนทันตแพทย์ หรือ เรียนทันตแพทย์อยู่ต้องการเปลี่ยนมาเรียนแพทย์ ตรงนี้เราอนุญาตให้สมัครสอบ และนักศึกษาเรียนปี 2 ขึ้นไป ต้องการมาสมัครสอบต้องลาออกจากสถาบันที่เรียนอยู่ หากสอบไม่ติดจะกลับไปเรียนที่เดิมอีกไม่ได้
ศ.พญ.บุญมี สถาปัตยวงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการสอบคัดเลือกกสพท.กล่าวถึงการเตรียมตัวสำหรับการรับนักศึกษาในปีการศึกษา 2553 ทางกลุ่มสถาบันแพทย์ฯ หารือร่วมกัน โดยจะรับตรงเช่นเดิม เมื่อไม่มีการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (เอเน็ต) แล้ว ทางกลุ่มก็กำลังพิจารณา โดยจะรอความชัดเจนของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร
“การรับนักศึกษาแพทย์นั้น กลุ่มแพทย์จัดสอบเองเหมือนเดิม แต่ต้องรอผลการสอบความถนัดทั่วไป (General Aptitude Test หรือ GAT) และความถนัดเฉพาะด้านวิชาการ (Professional A Aptitude Test หรือ PAT)ก่อนเพื่อวิเคราะห์ว่ามีความเหมาะสมกับกลุ่มแพทย์แค่ไหน ซึ่ง ทปอ.จะจัดสอบ GAT และ PAT ปีละ 3 ครั้ง โดยจะเริ่มสอบครั้งแรกในเดือนมีนาคม กรกฎาคม และตุลาคม ปี 2552 เพื่อดูผลการสอบครั้งแรกแล้วมาวิเคราะห์ว่าจะใช้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม มีเวลาเตรียมตัวอีก 2 ครั้ง”
เมื่อถามการปรับเพิ่มค่าชดเชยแทนการใช้ทุนของนิสิต นักศึกษาแพทย์ ศ.นพ.อาวุธ ศรีศุกรี เลขาธิการกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การปรับเงินไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ตรงจุด แต่เป็นเรื่องระบบการใช้แพทย์ของประเทศ ต้องปลูกจิตสำนึกให้นักเรียนแพทย์ดูแลสุขภาพของประชาชน
“การเพิ่มค่าปรับไม่ใช่ทางแก้ปัญหา เพราะมีคนพร้อมที่จะให้อยู่แล้ว ซึ่งแพทย์จะกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล หรือเมืองใหญ่ๆ เท่าไหร่ ไม่มีการกระจายตัวไปตามต่างจังหวัด ดังนั้น รัฐควรหาวิธีจูงใจและปลูกจิตสำนึกให้ทำเพื่อประชาชน”
