xs
xsm
sm
md
lg

“วิชาญ” ส่ายหัวพร้อมลั่นไม่เคยหนีม็อบ ย้ำไม่มีปัญหากับพันธมิตรฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“วิชาญ” ลั่นไม่เคยหนีม็อบ ไม่มีปัญหาขัดแย้งส่วนตัวกับพันธมิตรฯ ชี้ความคิดเห็นแตกต่างกันได้ แต่ควรเคารพซึ่งกันและกัน เตรียมหารือ 5 กรม ที่รับผิดชอบ แก้ปัญหางบประมาณมีจำกัด เสนอโครงการรวมทีเดียว ไม่ขอหลายครั้ง นัดประชุมองค์กรสุขภาพตระกูล ส.เร็วๆ นี้

วันนี้ (8 ก.ค.) นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรณีที่วานนี้ (7 ก.ค.) ได้เดินทางตรวจเยี่ยมราชการและมอบนโยบายที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา มีกลุ่มผู้ชุมนุมมาประท้วงอยู่ที่บริเวณหน้าโรงพยาบาล และภายหลังจากเสร็จภารกิจก็เดินทางกลับ ซึ่งระบุว่าตนตั้งใจหนีม็อบนั้น ยืนยันว่าไม่ได้หนีกลุ่มผู้มาชุมนุม แต่เนื่องจากมีทางออกอยู่ 2 ประตู และเห็นว่าประตูด้านหน้านั้นมีผู้ป่วยที่มารอตรวจรักษาอยู่เป็นจำนวนมากจึงไม่สะดวก จึงเลือกที่จะออกจากประตูอีกด้านหนึ่งแทน

“วันนี้ผมก็ได้พูดคุยกันใน ครม.ด้วยว่า ผมไม่เคยหนีกลุ่มพันธมิตร เพราะกับพันธมิตรก็ไม่มีอะไร บอกตรงๆ ว่าผมก็ไม่ได้ทำอะไร ไม่มีปัญหา เป็นคนไทยเหมือนกันคุยกันได้ ไม่มีความขัดแย้งส่วนตัว แม้มีความเห็นแตกต่างกันก็ควรที่จะเคารพซึ่งกันและกัน โดยช่วงที่เดินลงทางด้านข้างอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อเดินทางกลับ ก็ได้พบกลุ่มพันธมิตรที่มารออยู่ ทุกคนน่ารักหมด ไม่มีการหยาบคาย เพียงแต่ฝากให้ดูแลเรื่องซีแอล (การบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร) ส่วนเรื่องอื่นๆ อย่างปราสาทพระวิหาร ซึ่งไม่เกี่ยวกับงานกระทรวงที่ดูแลก็จะนำเรื่องเข้าสู่ ครม.” นายวิชาญกล่าว

นายวิชาญ กล่าวด้วยว่า ในการประชุม ครม.ในส่วนของ สธ.มีการหารือเกี่ยวกับงบประมาณที่จะขอแปรญัตติเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ และโครงการก่อสร้างที่ยังค้างคาอยู่ ส่วนการหารือเกี่ยวกับงบประมาณ การสนับสนุนโครงการต่างๆ ทีมีความจำเป็นของหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย 5 กรมนั้น ขณะนี้เตรียมที่จะประชุมหารือ ทุกหน่วยงานเกี่ยวกับโครงการที่มีความจำเป็น เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะหารือกับองค์กรด้านสุขภาพที่เป็นองค์การอิสระทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

คุยกับ นพ.ปราชญ์ บุยญวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ.แล้ว ว่าจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมหารือกันเร็วๆนี้ แต่เนื่องจากองค์กรต่างๆ เหล่านี้เป็นองค์กรอิสระจึงไม่สามารถก้าวล่วงในเรื่องงบประมาณได้ อย่างไรก็ตาม สธ.มีหน้าที่ภารกิจหน้าที่มากงบประมาณอาจไม่เพียงพอหรือมีงบประมาณจำกัดแม้จะมีการถ่ายโอนภารกิจให้กับท้องถิ่นไปบ้างแล้ว แต่การกำหนดนโยบายก็จำเป็นที่จะต้องมีงบในการดำเนินการขับเคลื่อน โดยเฉพาะอุปกรณ์การแพทย์ ที่เครื่องฟองไตยังขาดอยู่เป็นจำนวนมาก และหากชักช้าอาจไม่ทันการณ์ ในการดูแลผู้ป่วย”นายวิชาญกล่าว

นายวิชาญ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ปัญหาจึงขึ้นอยู่กับแต่ละหน่วยงานว่ามีโครงการหรืองานที่มีความจำเป็นมีประโยชน์ต่อประชาชน หรือกิจกรรมที่มีความจำเป็นใดบ้าง ที่ควรได้รับการสนับสนุนการดำเนินการแม้ว่าเดิมจะมีการให้การสนับสนุนอยู่แล้ว แต่จะมีการรวบรวมโครงการต่างๆ ทั้งหมด เพื่อหารือกับหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนงบประมาณ โดยไม่ร้องของบประมาณเป็นครั้งๆ เนื่องจาก สธ.อาจถูกมองว่าไม่มีแผนการทำงานที่ชัดเจน นอกจากนี้การต้องของบประมาณสนับสนุนแต่ละครั้งมักทำให้เกิดความลำบากใจด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น