เลขา สปสช.ขอเข้าพบ “ไชยา” เคลียร์ทำความเข้าใจ หลักการทำงานของ สปสช.พรุ่งนี้ ยันระบบบริหารจัดการงบประมาณ เป็นความตั้งใจของกฎหมายที่เกิดตั้งแต่สมัย “แม้ว” เป็นนายกรัฐมนตรี ด้าน “ไชยา” เลี่ยงไม่กล้าสู้หน้าบอร์ด สปสช.อ้างจัดสรรเวลาไม่ลงตัว ไม่ได้ไม่พอใจ แต่ไปงานส้วมดีกว่า
วันนี้ (27 พ.ค.) ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีนายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าววิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ สปสช.ว่า ยังแก้ไขปัญหาสุขภาพประชาชนไม่ตรงจุด และมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการบริหารจัดการงบประมาณ ว่า ได้ขอเข้าพบ นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สธ.ในวันที่ 28 พฤษภาคม เวลา 14.00 น.เพื่ออธิบายชี้แจงเรื่องการทำงานที่อาจยังไม่ชัดเจน และยังมีข้อสงสัย โดยเฉพาะเรื่องการบริหารงบประมาณ และเบี้ยประชุมบอร์ด สปสช.ซึ่งรัฐมนตรีได้เสนอให้มีการลดเบี้ยประชุมก่อนหน้านี้นั้น แท้จริงแล้วระบบการบริหารจัดการนี้เป็นความตั้งใจเขียนกฎหมายให้ออกมาเป็นเช่นนั้น ในสมัยพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
“ที่สำคัญ เราไม่เคยอยากเป็นผู้ให้บริการเอง ไม่เช่นนั้น คงจะต้องสร้างโรงพยาบาลเอง สปสช.มีหน้าที่ในการดูแลประชาชนในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง ให้ได้รับบริการที่มีคุณภาพ ซึ่งไม่ต่างจากสำนักงานประกันสังคมที่ดูแลลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตน ซึ่งทั้งหมดก็ทำการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในส่วนของโรงพยาบาลภาครัฐ ขณะที่โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพฯ และโรงพยาบาลเอกชนก็ให้การสนับสนุนส่งเสริมเช่นกัน”นพ.วินัย กล่าว
นพ.วินัย กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องงบประมาณ ซึ่ง สธ.เกรงว่า จะทำให้โครงการต่างๆ หยุดชะงักไปนั้น ที่ผ่านมา ได้มีการหารือทำความเข้าใจกับผู้บริหาร สธ.แล้วหลายครั้ง เนื่องจากงบลงทุนที่ สปสช.มีอยู่นั้น เป็นงบลงทุนที่ใช้เพื่อการทดแทน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ส่วนการลงทุนใหม่ๆ นั้นไม่เกี่ยวข้องกับ สปสช.แต่อย่างใด นอกจากนี้ ในการจัดทำงบประมาณสปสช.ก็มีการหารือกับสธ.ทุกครั้งเพราะหากงบลงทุนใหม่อยู่ที่ สปสช.จะทำให้สำนักงบประมาณไม่จัดสรรงบลงทุนใหม่ให้กับ สธ.เนื่องจากเห็นว่างบลงทุนใหม่มีอยู่แล้วใน สปสช.
ด้านนายไชยา สะสมทรัพย์ กล่าวว่า สาเหตุที่ไม่เข้าร่วมประชุมบอร์ด สปสช. ได้ เนื่องจากติดภารกิจการรณรงค์เรื่องส้วมสะอาด ซึ่งเดิมเป็นหน้าที่ของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) แต่ยังไมได้เข้าพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ ตนจึงเห็นว่าไม่เหมาะสมหากจะออกมาปฏิบัติหน้าที่งานราชการในระหว่างนี้ ตนจึงต้องมาทำหน้าที่แทน จึงทำให้ไม่สามารถจัดสรรเวลาได้ลงตัว
“ผมไม่มีอะไรไม่พอใจบอร์ด สปสช.จนถึงกับไม่เข้าร่วมประชุมด้วย แต่จังหวะมีงานชนกันพอดี ซึ่งผมไม่อยากพูดว่าบอร์ด สปสช.มากเดี๋ยวพวกเขาจะไปลงชื่อไล่ผมอีก ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีข่าวลือว่าผมจะลาออกก็ไม่จริง ไม่เคยพูด และไม่รู้สึกกดดันอะไร ขอบอกว่าการทำงานอะไรก็ตามอย่าไปยึดติดมากนัก” นายไชยา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ สปสช.ในวันนี้ มี ศ.(พิเศษ) นพ.ไพจิตร ปวบุตร คณะกรรมการบริการ สปสช.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการ สปสช.แทนนายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการประทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งแจ้งกะทันหันว่าติดภารกิจไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ โดยในเวลาเดียวกัน นายไชยา ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดงานรณรงค์ “คนไทยรักส้วมสะอาด” ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน อีกทั้งก่อนหน้านี้นายไชยา ได้ขอให้มีการเลื่อนประชุมบอร์ดจากวันที่ 12 พ.ค.มาเป็นวันที่ 28 พ.ค.ด้วย
วันนี้ (27 พ.ค.) ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีนายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าววิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ สปสช.ว่า ยังแก้ไขปัญหาสุขภาพประชาชนไม่ตรงจุด และมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการบริหารจัดการงบประมาณ ว่า ได้ขอเข้าพบ นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สธ.ในวันที่ 28 พฤษภาคม เวลา 14.00 น.เพื่ออธิบายชี้แจงเรื่องการทำงานที่อาจยังไม่ชัดเจน และยังมีข้อสงสัย โดยเฉพาะเรื่องการบริหารงบประมาณ และเบี้ยประชุมบอร์ด สปสช.ซึ่งรัฐมนตรีได้เสนอให้มีการลดเบี้ยประชุมก่อนหน้านี้นั้น แท้จริงแล้วระบบการบริหารจัดการนี้เป็นความตั้งใจเขียนกฎหมายให้ออกมาเป็นเช่นนั้น ในสมัยพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
“ที่สำคัญ เราไม่เคยอยากเป็นผู้ให้บริการเอง ไม่เช่นนั้น คงจะต้องสร้างโรงพยาบาลเอง สปสช.มีหน้าที่ในการดูแลประชาชนในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง ให้ได้รับบริการที่มีคุณภาพ ซึ่งไม่ต่างจากสำนักงานประกันสังคมที่ดูแลลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตน ซึ่งทั้งหมดก็ทำการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในส่วนของโรงพยาบาลภาครัฐ ขณะที่โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพฯ และโรงพยาบาลเอกชนก็ให้การสนับสนุนส่งเสริมเช่นกัน”นพ.วินัย กล่าว
นพ.วินัย กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องงบประมาณ ซึ่ง สธ.เกรงว่า จะทำให้โครงการต่างๆ หยุดชะงักไปนั้น ที่ผ่านมา ได้มีการหารือทำความเข้าใจกับผู้บริหาร สธ.แล้วหลายครั้ง เนื่องจากงบลงทุนที่ สปสช.มีอยู่นั้น เป็นงบลงทุนที่ใช้เพื่อการทดแทน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ส่วนการลงทุนใหม่ๆ นั้นไม่เกี่ยวข้องกับ สปสช.แต่อย่างใด นอกจากนี้ ในการจัดทำงบประมาณสปสช.ก็มีการหารือกับสธ.ทุกครั้งเพราะหากงบลงทุนใหม่อยู่ที่ สปสช.จะทำให้สำนักงบประมาณไม่จัดสรรงบลงทุนใหม่ให้กับ สธ.เนื่องจากเห็นว่างบลงทุนใหม่มีอยู่แล้วใน สปสช.
ด้านนายไชยา สะสมทรัพย์ กล่าวว่า สาเหตุที่ไม่เข้าร่วมประชุมบอร์ด สปสช. ได้ เนื่องจากติดภารกิจการรณรงค์เรื่องส้วมสะอาด ซึ่งเดิมเป็นหน้าที่ของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) แต่ยังไมได้เข้าพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ ตนจึงเห็นว่าไม่เหมาะสมหากจะออกมาปฏิบัติหน้าที่งานราชการในระหว่างนี้ ตนจึงต้องมาทำหน้าที่แทน จึงทำให้ไม่สามารถจัดสรรเวลาได้ลงตัว
“ผมไม่มีอะไรไม่พอใจบอร์ด สปสช.จนถึงกับไม่เข้าร่วมประชุมด้วย แต่จังหวะมีงานชนกันพอดี ซึ่งผมไม่อยากพูดว่าบอร์ด สปสช.มากเดี๋ยวพวกเขาจะไปลงชื่อไล่ผมอีก ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีข่าวลือว่าผมจะลาออกก็ไม่จริง ไม่เคยพูด และไม่รู้สึกกดดันอะไร ขอบอกว่าการทำงานอะไรก็ตามอย่าไปยึดติดมากนัก” นายไชยา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ สปสช.ในวันนี้ มี ศ.(พิเศษ) นพ.ไพจิตร ปวบุตร คณะกรรมการบริการ สปสช.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการ สปสช.แทนนายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการประทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งแจ้งกะทันหันว่าติดภารกิจไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ โดยในเวลาเดียวกัน นายไชยา ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดงานรณรงค์ “คนไทยรักส้วมสะอาด” ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน อีกทั้งก่อนหน้านี้นายไชยา ได้ขอให้มีการเลื่อนประชุมบอร์ดจากวันที่ 12 พ.ค.มาเป็นวันที่ 28 พ.ค.ด้วย
