กทม.จัดประชุมลดโลกร้อนเชิญผู้นำ 15 เมืองใหญ่ถกแนวทางแก้วิกฤตโลกร้อน พร้อมลงนามปฏิญญากรุงเทพฯนำมาใช้อย่างจริงจัง
วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่สวนสราญรมย์ เขตพระนคร นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานแถลงข่าวการประชุม ASEAN+6 City Forum on Climate Change Bangkok 2008 ซึ่งกทม.ร่วมกับ UNEP, UNDP, UNESCAP, Holcim Foundation สถาบันพัฒนาเมือง สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายนนี้ ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ โดยจะมีผู้นำจากเมืองต่างประมาณ 15 ประเทศเข้าร่วม
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า การประชุมครั้งมีผู้นำจากกลุ่มประเทศอาเซียน ประกอบด้วย กัมพูชา ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม ลาว อินโดนีเซีย ไทย และอีก 4 ประเทศในภูมิภาค คือ เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น และ อินเดีย รวมถึงมีผู้แทนที่รับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมจากสถานทูตชาติต่างๆ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อแสวงหาความร่วมมือและแนวทางในการลดภาวะโลกร้อนระดับภูมิภาคอาเซียน ในวันที่ 26 มิ.ย.ภาคเช้าเปิดการประชุมด้วยปาฐกถาพิเศษจาก ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน และการบรรยายเรื่อง อาเซียนเมืองแห่งสีเขียว โดยตนจะนำ Bangkok Green Agenda หรือวาระกรุงเทพฯสีเขียว 6 ด้าน ได้แก่ Green Generation สานฝันคนรุ่นใหม่ เรียนรู้ทันโลก Green Society สังคมสะดวก ประหยัดทันสมัย ซึ่ง กทม.จะดำเนินการผลักดันให้เป็น Bangkok WIFI ในย่านธุรกิจการค้า Green Community ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนผูกพัน Green Living สุขภาวะสมบูรณ์ ชีวิตมั่นคง Green Economy เศรษฐกิจชุมชนเมือง บนความพอเพียง
ซึ่งต่างประเทศได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้มาก โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์ที่เน้นการนำมารีไซเคิลใช้ได้อีก และ Green Zone ธรรมชาติสะอาด อากาศสดใส โดยเริ่มนำร่องในพื้นที่กรีนโซน บริเวณถนนสาทร สีลม ซึ่งทั้งหมดนี้ตนจะนำเสนอต่อที่ประชุมหลังจากที่ กทม.ได้ดำเนินโครงการรณรงค์ลดโลกร้อนมาครบ 1 ปี เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ จะมีผู้แทนจาก UNEP คือ Mr.Hiroshi Nishimiya และผู้แทนจาก Holcim Foundation ร่วมบรรยายด้วย นอกจากนี้ยังมีการบรรยายเรื่อง การกำหนดนโยบาย และกลยุทธ์ในการพัฒนาเมือง ซึ่งจะมีการนำเสนอใน 2 ส่วน คือ 1.การพัฒนาเมืองด้านการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการเมืองภายใต้การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดย ศาสตราจารย์ลอร์เรนซ์ เวลล์ (Lawrence Vale) จากสถาบัน MIT และ Mr.Takei Takeji ผู้นำเมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น และ 2.มุมมองภาคเอกชนในการดำเนินธุรกิจในภาวะโลกร้อน โดยเชิญผู้บริหารจากภาคเอกชนนำกรณีศึกษาที่แต่ละบริษัทได้ทดลองและดำเนินการมาร่วมให้ความรู้
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนภาคบ่าย จะมีการอภิปรายใน 2 หัวข้อ คือ 1.การปฏิวัติพลังงาน ด้วยการนำเสนอทิศทางการพัฒนาพลังงานทดแทน ทั้งพลังงานลม คลื่นน้ำ และแสงอาทิตย์ โดย ท่านบุนจัน สินทะวง ผู้นำเมืองจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว Mr.Fauzi Bowo ผู้นำเมืองจากอินโดนีเซีย Mr.Mann Chhoeurn ผู้นำเมืองจากกัมพูชา Mr.Zhang Gang ผู้นำเมืองจากสาธารณรับประชาชนจีน Mr.Thiyagarajan Velumail จาก UNDP และ Mr.Masakasu Ichimura จาก UNESCAP ส่วนหัวข้อที่ 2 ได้แก่ การปรับปรุงระบบการจราจรและขนส่งด้วยการใช้เชื้อเพลิงสะอาด เพื่อสิ่งแวดล้อมสีเขียว โดย Mr.Jose Sarte Salceda ผู้นำจากฟิลิปปินส์ Mr.Arti Mehra ผู้นำเมืองจากอินเดีย Mr.Salleh Yusup ผู้นำเมืองจากมาเลเซีย พร้อมด้วยผู้นำเมืองจากเกาหลีใต้ Dr.Nat Pinnoi จากธนาคารโลก และผู้บริหารจากปตท.คาร์ฟูร์ ส่วนในวันที่ 27 มิ.ย.จะเป็นการไปดูงานอาคารประหยัดพลังงาน ทั้งนี้ ในการประชุมจะมีการลงนามในปฏิญญากรุงเทพฯ Bangkok Declaration for ASEAN+6 City Forum ซึ่งกทม.จะนำมาปรับใช้ พร้อมทั้งจะมีการกำหนดวาระในการลดโลกร้อนเพื่อนำไปประชุมอาเซียนที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปลายปีนี้ อีกด้วย
วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่สวนสราญรมย์ เขตพระนคร นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานแถลงข่าวการประชุม ASEAN+6 City Forum on Climate Change Bangkok 2008 ซึ่งกทม.ร่วมกับ UNEP, UNDP, UNESCAP, Holcim Foundation สถาบันพัฒนาเมือง สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายนนี้ ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ โดยจะมีผู้นำจากเมืองต่างประมาณ 15 ประเทศเข้าร่วม
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า การประชุมครั้งมีผู้นำจากกลุ่มประเทศอาเซียน ประกอบด้วย กัมพูชา ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม ลาว อินโดนีเซีย ไทย และอีก 4 ประเทศในภูมิภาค คือ เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น และ อินเดีย รวมถึงมีผู้แทนที่รับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมจากสถานทูตชาติต่างๆ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อแสวงหาความร่วมมือและแนวทางในการลดภาวะโลกร้อนระดับภูมิภาคอาเซียน ในวันที่ 26 มิ.ย.ภาคเช้าเปิดการประชุมด้วยปาฐกถาพิเศษจาก ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน และการบรรยายเรื่อง อาเซียนเมืองแห่งสีเขียว โดยตนจะนำ Bangkok Green Agenda หรือวาระกรุงเทพฯสีเขียว 6 ด้าน ได้แก่ Green Generation สานฝันคนรุ่นใหม่ เรียนรู้ทันโลก Green Society สังคมสะดวก ประหยัดทันสมัย ซึ่ง กทม.จะดำเนินการผลักดันให้เป็น Bangkok WIFI ในย่านธุรกิจการค้า Green Community ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนผูกพัน Green Living สุขภาวะสมบูรณ์ ชีวิตมั่นคง Green Economy เศรษฐกิจชุมชนเมือง บนความพอเพียง
ซึ่งต่างประเทศได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้มาก โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์ที่เน้นการนำมารีไซเคิลใช้ได้อีก และ Green Zone ธรรมชาติสะอาด อากาศสดใส โดยเริ่มนำร่องในพื้นที่กรีนโซน บริเวณถนนสาทร สีลม ซึ่งทั้งหมดนี้ตนจะนำเสนอต่อที่ประชุมหลังจากที่ กทม.ได้ดำเนินโครงการรณรงค์ลดโลกร้อนมาครบ 1 ปี เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ จะมีผู้แทนจาก UNEP คือ Mr.Hiroshi Nishimiya และผู้แทนจาก Holcim Foundation ร่วมบรรยายด้วย นอกจากนี้ยังมีการบรรยายเรื่อง การกำหนดนโยบาย และกลยุทธ์ในการพัฒนาเมือง ซึ่งจะมีการนำเสนอใน 2 ส่วน คือ 1.การพัฒนาเมืองด้านการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการเมืองภายใต้การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดย ศาสตราจารย์ลอร์เรนซ์ เวลล์ (Lawrence Vale) จากสถาบัน MIT และ Mr.Takei Takeji ผู้นำเมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น และ 2.มุมมองภาคเอกชนในการดำเนินธุรกิจในภาวะโลกร้อน โดยเชิญผู้บริหารจากภาคเอกชนนำกรณีศึกษาที่แต่ละบริษัทได้ทดลองและดำเนินการมาร่วมให้ความรู้
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนภาคบ่าย จะมีการอภิปรายใน 2 หัวข้อ คือ 1.การปฏิวัติพลังงาน ด้วยการนำเสนอทิศทางการพัฒนาพลังงานทดแทน ทั้งพลังงานลม คลื่นน้ำ และแสงอาทิตย์ โดย ท่านบุนจัน สินทะวง ผู้นำเมืองจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว Mr.Fauzi Bowo ผู้นำเมืองจากอินโดนีเซีย Mr.Mann Chhoeurn ผู้นำเมืองจากกัมพูชา Mr.Zhang Gang ผู้นำเมืองจากสาธารณรับประชาชนจีน Mr.Thiyagarajan Velumail จาก UNDP และ Mr.Masakasu Ichimura จาก UNESCAP ส่วนหัวข้อที่ 2 ได้แก่ การปรับปรุงระบบการจราจรและขนส่งด้วยการใช้เชื้อเพลิงสะอาด เพื่อสิ่งแวดล้อมสีเขียว โดย Mr.Jose Sarte Salceda ผู้นำจากฟิลิปปินส์ Mr.Arti Mehra ผู้นำเมืองจากอินเดีย Mr.Salleh Yusup ผู้นำเมืองจากมาเลเซีย พร้อมด้วยผู้นำเมืองจากเกาหลีใต้ Dr.Nat Pinnoi จากธนาคารโลก และผู้บริหารจากปตท.คาร์ฟูร์ ส่วนในวันที่ 27 มิ.ย.จะเป็นการไปดูงานอาคารประหยัดพลังงาน ทั้งนี้ ในการประชุมจะมีการลงนามในปฏิญญากรุงเทพฯ Bangkok Declaration for ASEAN+6 City Forum ซึ่งกทม.จะนำมาปรับใช้ พร้อมทั้งจะมีการกำหนดวาระในการลดโลกร้อนเพื่อนำไปประชุมอาเซียนที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปลายปีนี้ อีกด้วย
