xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการก่น “นพดล” ทำไทยเสียเปรียบ เสี่ยงเสียดินแดนรอบสอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพมุมสูงประสาทเขาพระวิหารของกัมพูชาและพื้นที่ฝั่งไทย
นักวิชาการไทยคดีศึกษา มธ.ตบหน้า “นพดล” ไทยเสียเปรียบทุกประตู หากไม่ยืนยันหลักเขตแดนไทยต่อกัมพูชา แม้แผนที่แนบท้ายคำขอขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกจะไม่กินพื้นที่ฝั่งไทย แต่จะมีผลทำให้หลักปักปันเขตแดนของไทยเลือนลง หนำซ้ำรัฐบาลปล่อยให้กัมพูชาเข้ามาตั้งชุมชนฝั่งไทยเป็นการครอบครองทางพฤตินัย เข้าหลักกฎหมายปิดปาก เสี่ยงต่อการเสียดินแดนอีกรอบ

ร้านค้า,ชุมชนของชาวกัมพูชาที่อยู่ในฝั่งไทย
นายประกาสิทธิ์ แก้วมงคล ผู้ช่วยนักวิจัย สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในการแถลงข่าวข้อเท็จจริงจากพื้นที่กรณีขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกของมนุษย์ว่า รัฐบาลกัมพูชาได้ยื่นจดทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารต่อยูเนสโก เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2550 ซึ่งฝ่ายไทยได้เตรียมกำหนดท่าทีที่เหมาะสมต่อกรณีดังกล่าว โดยเสนอให้มีการจดทะเบียนร่วมกัน

ต่อมาเมื่อวันที่ 12-13 ม.ค.2551 ผลการประชุมที่เมืองเสียมราฐอย่างไม่เป็นทางการโดย ฯพณฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แสดงท่าทีไม่ยอมรับข้อเสนอของฝ่ายไทย โดยย้ำเส้นเขตแดนที่ปรากฎในแผนที่ของฝรั่งเศส และจะเสนอเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว และในวันที่ 15 พ.ค.2551 นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ได้หารือกับนายสก อัน รองนายก และรมต.ประจำสำนักนายกฯของกัมพูชา
ประชาชนกัมพูชาเข้ามาตั้งชุมชน,ร้านค้าในพื้นที่ฝั่งไทย
“จากนั้นวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา กัมพูชาร่างแผนที่แนบท้ายคำขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกขึ้นมาใหม่ โดยไม่เกินขอบเขตพื้นที่ของไทยตามมติ ครม.ไทย พ.ศ.2505 และเสนอให้รัฐบาลไทยพิจารณา การกระทำดังกล่าวเห็นได้อย่างชัดเจนว่า กัมพูชาไม่ยอมรับการปักปันเขตแดนของไทย และในการประชุม ครม.ของไทยเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2551 ครม.มีมติยอมรับการรับรองแผนที่แนบท้ายการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกของกัมพูชา โดยนายนพดลยืนยันว่าไทยไม่เสียดินแดนอย่างแน่นอน แต่ยังไม่มีใครเห็นแผนที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การที่ไทยไม่ยืนยันหลักเขตแดนของไทยตามมติ ครม.ปี 2505 กลับไป แต่ยอมรับแผนที่ของกัมพูชานั้น แม้ว่าจะไม่เสียดินแดนตามที่นายนพดลกล่าวอ้าง แต่จะมีผลทำให้หลักปักปันเขตแดนไทยเลือนลงและไม่แน่นอน ซึ่งเท่ากับว่ารัฐบาลไทยยอมรับอธิปไตยของฝ่ายกัมพูชา อันจะทำให้เกิดช่องว่างของเส้นเขตแดนไทยขึ้น”


นายประกาสิทธิ์ กล่าวว่า คณะวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าขณะนี้เรื่องพื้นที่ทับซ้อนเป็นประเด็นทางมิติความคิด ไทยมีแผนที่ L7017 และมติ ครม.พ.ศ.2505 ที่แสดงเส้นอาณาเขตชัดเจน แต่รัฐบาลไทยพยายามบิดเบือนความเข้าใจของสังคมไทยเสมอมาว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน ในขณะที่กัมพูชามีความชัดเจนว่าเป็นพื้นที่ของกัมพูชาโดยสมบูรณ์ ยึดถือตามแผนที่ฝรั่งเศส นอกจากนี้รัฐบาลไทยยังปล่อยปละละเลยให้กัมพูชากระทำการละเมิดอธิปไตยของไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างชุมชน ร้านค้า ชุมชนวัด การตัดถนนรุกล้ำเข้ามาในไทย โดยที่ไทยไม่พยายามต่อต้านอย่างแข็งขัน ต่อเนื่อง ถือว่าเป็นการยอมรับอธิปไตยของกัมพูชาเหนือพื้นที่ของไทยโดยพฤตินัย และเข้าหลักเกณฑ์ของกฎหมายปิดปาก ซึ่งเสี่ยงต่อการที่ไทยจะต้องสูญเสียดินแดน

“การที่นายนพดลออกมาระบุว่ากัมพูชายอมถอย ให้ตามข้อเรียกร้องของไทย และเรากำลังอยู่ในฐานะได้เปรียบกัมพูชานั้น จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด แต่เป็นการสร้างภาพให้คนไทยทั้งประเทศหลงดีใจและตกหลุมพรางที่กัมพูชาสร้างขึ้น อาจทำให้ไทยต้องเสียดินแดนให้แก่กัมพูชาอีกครั้งหนึ่ง” นายประกาสิทธิ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น