“แกนนำพันธมิตรฯ” ถกท่าทีรับมือ หลังลูกกรอก ลุกลี้ลุกลนออกมติเห็นชอบยอมให้เขมรขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร โดยยังไม่มีการเปิดเผยแผนที่ต่อสาธารณชน และไม่ผ่านความเห็นชอบรัฐสภา หวั่นเสียค่าโง่ครั้งใหญ่ “จำลอง” จวก ชาติเสียหายใหญ่หลวง เพราะมี “นายกฯ-รมว.ตปท.” โง่กว่าเขมร เย้ย แม้วไม่ต้องรอ 2 ก.ค.ยังช้าไป
วันนี้ (17 มิ.ย.) เมื่อเวลา 18.00 พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ร่วมกันแถลงข่าวที่ศูนย์ข่าวหลังเวทีบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์
นายสุริยะใส กล่าวว่า คืนนี้จะมีการประชุม 5 แกนนำพันธมิตรฯ เพื่อปรับเปลี่ยนการชุมนุมให้มีทิศทางที่ยุติเร็วขึ้น เพราะว่าสถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไปในแนวทางที่เลวร้าย โดยเฉพาะตามมติ ครม.ในวันนี้ ที่ยินยอมให้ประเทศกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ทั้งที่ผ่านมายังมีประเด็นที่เคลือบแคลงสงสัยจากหลายฝ่าย ว่า มีผลประโยชน์แลกเปลี่ยน ทั้งด้านพลังงานในอ่าวไทย และการลงทุนในเกาะกง
“การมีมติ ครม.ในครั้งนี้เป็นการสร้างเงื่อนงำให้กับสังคมว่า เหตุใด ครม.จึงลุกลี้ลุกลน มีมติเห็นชอบทั้งที่มีข้อโต้แย้งและข้อกังหามากมาย อีกทั้งมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ 2550 ยังได้ระบุว่า ข้อตกลงระหว่างประเทศใดๆ ที่สะเทือนต่อความมั่นคงของไทยจะต้องเข้าที่ประชุมสภาเสียก่อน แต่กลับมารับรองโดยไม่ฟังเสียงทักท้วง อาจเรียกได้ว่า เป็นการเสียค่าโง่ครั้งใหญ่ โดยที่ยังไม่แก้ปัญหาพื้นที่ซับซ้อนก่อนหน้านี้ เพราะขณะนี้กัมพูชาได้รุกล้ำเข้ามาในเขตแดนของไทยประมาณ 1 กิโลเมตร อีกทั้งยังมีร้านค้าของชาวกัมพูชากว่า 300 ร้านค้า อยู่ในเขตแดนไทย แต่ก็ยังไม่มีการแก้ไขปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น” นายสุริยะใส กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า มติ ครม.ในครั้งนี้ ทำให้เราเสียเปรียบ และไม่มีทางที่จะได้ดินแดนคืนเสียแล้ว เพราะว่าแผนที่ต่างๆ ก็ถูกปิดบังซ่อนเร้น รมว.ต่างประเทศ เอง ก็ไม่เปิดเผย เพราะต้องการให้ดำเนินการสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ก่อน
“ถือได้ว่ามติ ครม.ในครั้งนี้ ประเทศไทยได้เสียอธิปไตยไปแล้ว รัฐบาลชุดนี้จึงไม่มีความชอบธรรมที่จะปกป้องอธิปไตยอีกต่อไป การสูญเสียดินแดนในครั้งนี้เลวร้ายกว่าการขายหุ้นชินคอร์ป ใน 2 ปีที่แล้ว” นายสุริยะใส กล่าว และว่า เพราะการขายหุ้นเป็นเพียงการขายวงโคจรของดาวเที่ยม แต่ครั้งนี้ถือว่าเอาประเทศชาติไปขายเลย เชื่อว่า วันศุกร์นี้ (20 มิ.ย.) หากมีการนัดดีเดย์พันธมิตรฯ น่าจะมีคนเข้าร่วมเป็นแสน
ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การที่ประเทศกัมพูชาเสนอให้เขาพระวิหารเป็นมรดกโลก นั้น เหตุใดเราต้องทำตามด้วย ไม่ได้ไปขอข้าวเขากินเสียหน่อย เหตุใดต้องไปเชื่อเขา ที่ไม่เปิดเผยแผนที่ และข้อเท็จจริง ทั้งๆ ที่เป็นผลประโยชน์ของเรา ซ้ำร้ายยังพยายามให้ทหารหุบปาก ทั้งๆ ที่ผู้บัญชาการทหารสูดสุด มีศักดิ์และศรีสูงกว่า รมว.ต่างประเทศ เพราะหากดูตามประวัติแล้วรัฐมนตรีคนนี้ไม่ได้ทำอะไรให้กับประเทศชาติเท่าใด เป็นเพียงทนายความให้แก่อดีต นายกฯ เท่านั้น
พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้พยายามจะยั่วยุ แต่ถ้าหากวัดกำลังกันแล้ว ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ เรามีกำลังเหนือกว่าประเทศกัมพูชาทุกด้าน เหตุใดจึงไปหงอให้กับกัมพูชาด้วย เมื่อไม่นานนี้มีชาวบ้าน อ.กันทลักษ์ มาให้ข้อมูลว่า มีชาวกัมพูชา ประมาณ 500 ครอบครัว เข้ามาอาศัยอยู่ในเขตประเทศไทย
“ปัญหานี้จะทำอย่างไร รัฐบาลเองก็ไม่สนใจ แต่กลับบอกให้ทหารปิดปาก ทั้งหมดนี้เป็นการเสียหายอย่างใหญ่หลวงของประเทศ ที่มีนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ที่โง่กว่าเขมร” พล.ต.จำลอง ระบุ
นอกจากนี้ พล.ต.จำลอง ยังกล่าวถึงกรณีปัญหาของเขาพระวิหารเมื่อ 46 ปีที่แล้ว เราเคยมีอดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ เอาข้อมูลการต่อสู้ด้านคดีความไปขายให้กับประเทศกัมพูชา และทำให้เราเพลี่ยงพล้ำจนต้องเสียดินแดน แม้ว่าจะข้าราชการคนนั้นจะถูกลงโทษแล้ว และออกจากคุมมาแล้วก็ตาม ตนไม่อย่าให้มีการเพรี่ยงพร้ำเช่นนั้นอีก
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ จะมีการประชุม 5 แกนนำ เพื่อกำหนดมาตรการในการเคลื่อนไหวใหม่ และเชื่อว่า จะจบการชุมนุมก่อนวันที่ 2 กรกฎาคม ตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวไว้ เพราะส่วนตัวคิดว่านานเกินไป อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมในคืนนี้