“พงศกร” เตรียมลงนามความร่วมมือกับสถาบันการเงิน สางหนี้ครู สัปดาห์นี้ พร้อมเชิญ ผอ.สพท.ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ ที่ตึกสันติไมตรี โดยมี “สมัคร” เป็นประธาน
นายพงศกร อรรณพพร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้าแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินครูว่า ขณะนี้คณะทำงานคณะกรรมการกำกับนโยบายการพัฒนาคุณภาพชีวิตครูได้เสนอรูปแบบการแก้ปัญหาหนี้สินครู โดยมีขอบเขตในการดำเนินการคือ พัฒนาการคุณภาพชีวิตครูที่มีหนี้สินในระบบ โดยบริหารจัดการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับหนี้สินครูแบบองค์รวม พร้อมทั้งพัฒนาเพิ่มรายได้เสริมให้กับครู ซึ่งแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินครูครั้งนี้จะมีการปรับลดดอกเบี้ยให้แก่ครูที่มีประวัติชำระหนี้ดี หรือขยายระยะเวลาการกู้ให้ยาวขึ้น และผ่อนชำระคืนอัตราต่ำเพื่อให้เหมาะสมกับรายได้
นอกจากนี้ ยังได้กำหนดแนวทางแก้ไขสินเชื่อแต่ละประเภทไว้ด้วย เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเพื่อการศึกษาบุตร สินเชื่อการลงทุน และจะกำหนดวงเงินกู้ต่อราย ทั้งรายที่มีหลักทรัพย์และไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน พร้อมทั้งหาอาชีพเสริมให้แก่ครูตามความถนัด เพื่อลดภาระหนี้สินในระยะยาว
นายพงศกร กล่าวว่า ขณะนี้เรายังไม่ได้สรุปว่าจะให้ครูที่มีหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ ตั้งแต่ 31 ธันวาคม 2550 เรื่อยลงมาถึงปี 2531 สามารถขอกู้เงินจากสถาบันการเงินที่กระทรวงศึกษาธิการ กำลังจะลงนามความร่วมมือกับสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารกรุงเทพ และสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ภายในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าจะใช้ชื่อกองทุน “พัฒนาคุณภาพชีวิตครู” เพื่อให้ครูกู้เงินจากกองทุนไปสะสางหนี้เก่า ขณะเดียวกันวิธีนี้จะช่วยปลดล็อกเครดิตบูโรให้แก่ครูด้วย และภายหลังที่ลงนามความร่วมมือกับสถาบันการเงินเรียบร้อยแล้ว จะประชุมเชิงปฏิบัติการที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยเชิญผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั้ง 185 เขต เข้าร่วมหารือ ซึ่งจะเชิญนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานด้วย
นายพงศกร อรรณพพร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้าแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินครูว่า ขณะนี้คณะทำงานคณะกรรมการกำกับนโยบายการพัฒนาคุณภาพชีวิตครูได้เสนอรูปแบบการแก้ปัญหาหนี้สินครู โดยมีขอบเขตในการดำเนินการคือ พัฒนาการคุณภาพชีวิตครูที่มีหนี้สินในระบบ โดยบริหารจัดการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับหนี้สินครูแบบองค์รวม พร้อมทั้งพัฒนาเพิ่มรายได้เสริมให้กับครู ซึ่งแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินครูครั้งนี้จะมีการปรับลดดอกเบี้ยให้แก่ครูที่มีประวัติชำระหนี้ดี หรือขยายระยะเวลาการกู้ให้ยาวขึ้น และผ่อนชำระคืนอัตราต่ำเพื่อให้เหมาะสมกับรายได้
นอกจากนี้ ยังได้กำหนดแนวทางแก้ไขสินเชื่อแต่ละประเภทไว้ด้วย เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเพื่อการศึกษาบุตร สินเชื่อการลงทุน และจะกำหนดวงเงินกู้ต่อราย ทั้งรายที่มีหลักทรัพย์และไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน พร้อมทั้งหาอาชีพเสริมให้แก่ครูตามความถนัด เพื่อลดภาระหนี้สินในระยะยาว
นายพงศกร กล่าวว่า ขณะนี้เรายังไม่ได้สรุปว่าจะให้ครูที่มีหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ ตั้งแต่ 31 ธันวาคม 2550 เรื่อยลงมาถึงปี 2531 สามารถขอกู้เงินจากสถาบันการเงินที่กระทรวงศึกษาธิการ กำลังจะลงนามความร่วมมือกับสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารกรุงเทพ และสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ภายในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าจะใช้ชื่อกองทุน “พัฒนาคุณภาพชีวิตครู” เพื่อให้ครูกู้เงินจากกองทุนไปสะสางหนี้เก่า ขณะเดียวกันวิธีนี้จะช่วยปลดล็อกเครดิตบูโรให้แก่ครูด้วย และภายหลังที่ลงนามความร่วมมือกับสถาบันการเงินเรียบร้อยแล้ว จะประชุมเชิงปฏิบัติการที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยเชิญผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั้ง 185 เขต เข้าร่วมหารือ ซึ่งจะเชิญนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานด้วย
