xs
xsm
sm
md
lg

กทม.ปล่อยเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย 6 ปี ใจดีให้ผ่อนเงินต้นในปีที่ 4

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กทม.ปล่อยเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย 6 ปี ผ่อนชำระเงินต้นปีที่ 4 สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยในชุมชน ขณะที่ตั้งเป้าเปิดร้านข้าวแกงกทม 100 จุดกระจายทั้ง 50 เขต พร้อมเตรียมนำขึ้นห้างเร็วๆ นี้เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน ส่วนตลาดนัดสินค้าราประหยัดถูกกว่าท้องตลอด 20-40 % ข้าวสารขายเท่าข้าวถุงธงฟ้า 120 บาท

ที่ศาลาว่าการ กทม.วันนี้ (8 พ.ค.) ได้มีการจัดประชุมการกำหนดแนวทางช่วยเหลือประชาชนในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ โดยมีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุม และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ-เอกชน เช่น กทม.กรมการค้าภายใน กรมการจัดหางาน กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) หอการค้าไทย บ.เรือด่วนเจ้าพระยา บ.เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) บ.เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ร่วมประชุม

นายอภิรักษ์ เปิดเผยภายหลังว่า ในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ค.) จะมีการเปิดตลาดนัดขายสินค้าอุปโภค-บริโภคราคาประหยัดราคาถูกกว่าท้องตลาด 20-40% หรือจำหน่ายในราคาต้นทุน เช่น ข้าวสารจะจำหน่ายในราคาเดียวกับข้าวถุงธงฟ้า 120 บาท หรือราคาใกล้เคียง กระจายทั้ง 50 เขต รวมถึงมีการจำหน่ายสินค้าชุมชนของ กทม. มีซุ้มศูนย์เงินออมไว้สำหรับแนะนำประชาชน และจะมีการจัดมหกรรมสินค้าราคาประหยัดขึ้นที่ส่วนกลางเดือนละ 1 ครั้ง

ขณะที่ศูนย์เกื้อกูลผู้ประกอบการรายย่อยจะมีการจัดประชุมสัมมนาการอยู่รอดในภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองโดยจะเชิญผู้ประกอบการรายย่อยที่อยากเปลี่ยนธุรกิจ หรือไม่ประสบความสำเร็จในธุรกิจทำ รวมถึงประชาชนที่อยากมีอาชีพเสริมเข้าร่วมสัมมนาซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการเงินต่างๆ ร่วมให้ข้อมูล

ส่วนกองทุนเพื่อเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 50 ล้านบาท ซึ่ง กทม.ได้เพิ่มเงินสนับสนุนในการกู้เงิน สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยในชุมชนนั้น ล่าสุด กทม.ได้มีมาตรการให้การช่วยเหลือโดย 2-3 ปีแรกไม่ต้องผ่อนชำระเงินต้น เมื่อเข้าสู่ปีที่ 4 จึงค่อยผ่อนชำระ ขณะเดียวกันจะปลอดจากภาวะดอกเบี้ยถึง 6 ปี โดยประชาชนที่สนใจสามารถติดต่อขอกู้ยืมได้ที่สำนักพัฒนาสังคม ศาลาว่าการ กทม.2 นอกจากนี้ กทม.ยังได้ขอความร่วมมือในการจัดทำคูปองส่วนลดรถโดยสารรถไฟฟ้า รถเมล์ เรือด่วน ซึ่งทางผู้ประกอบพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ส่วนโครงการร้านข้าวแกง กทม.อนาคตจะให้ประชาชนสามารถซื้อใส่ถุงกลับบ้านได้ด้วย

ด้านนางเพียงใจ วิศรุตรัตน ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม กทม. กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมชี้แจงผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขตถึงแนวทางการจำหน่ายข้าวแกง กทม. พร้อมทั้งสรุปจัดในการตั้งร้านข้าวแกง และจุดตั้งตลาดนัดสินค้าราคาประหยัด ทั้งนี้ในการเปิดร้านข้าวแกง กทม. แต่ละเขตสามารถมีร้านข้าวแกงได้มากกว่า 1 จุด หากมีผู้ประกอบการให้ความสนใจมากกว่า 1 ราย หรือมีความเหมาะสมมากกว่า 1 ราย โดยทางสำนักพัฒนาสังคมตั้งเป้าว่าจะให้มีร้านข้าวแกง กทม. 100 ร้านกระจายทั้ง 50 เขต และในอนาคตจะมีการเปิดร้านข้าวแกง กทม.ภายในศูนย์อาหารของห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัล ทั้ง TOP ซูเปอร์มาเก็ต บิ๊กซี ซึ่งทางผู้แทนจากห้างได้เสนอพื้นที่ให้กทม. โดยกทม.ไม่ต้องลงทุนเพราะทางห้างมีโต๊ะ เก้าอี้ เรียบร้อยแล้ว รวมถึงเสนอให้พื้นที่ว่างด้านหน้าของห้าง เช่น TOP ซูเปอร์มาร์เกต สาขาสะพานสูง สามารถที่จะเปิดร้านข้าวแกง กทม.ได้ทันที ซึ่งจะไม่เป็นปัญหากับร้านอาหารที่เปิดในศูนย์การค้าเพราะอาหารแตกต่างกัน อย่างไรก็ตามจะต้องมีการหารือกันอีกครั้งหนึ่ง

นางเพียงใจ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้รูปแบบร้านข้าวแกง กทม. จะมีการนำเต็นท์ขนาดใหญ่มาตั้งเป็นตัวร้าน มีการติดตั้งป้ายร้านค้า สัญลักษณ์ที่ชัดเจน และอุปกรณ์ต่างๆ โดยส่วนนี้จะใช้งบประมาณจำนวน 1 ล้านบาทโดยทุกร้านจะมีลักษณะเหมือนกันทั้งหมด ส่วนโต๊ะ เก้าอี้ เบื้องต้นทางเขตจะเป็นผู้จัดหาเพราะหากจัดซื้อราคาค่อนข้างแพงนอกจากนี้ ภายในเต็นท์จำหน่ายข้าวแกง กทม.จะไม่อนุญาตให้นำถังแก๊สมาวางในร้าน หรือมีการประกอบอาหารภายในร้าน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยเบื้องต้นจะจัดจำหน่ายในวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไปเพื่อบริการสำหรับประชาชนที่ต้องรับประทานอาหารก่อนทำงาน โดยจะเปิดขายไปจนถึงช่วงเย็น โดยอาหารที่ปรุงจำหน่ายจะต้องมีคุณภาพ ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ได้สารอาหารที่ครบถ้วน 

ส่วนประชาชนที่สนใจจะกู้ยืมเงินจากกองทุนเศรษฐกิจพอเพียง จะต้องเป็นสมาชิกของกองทุนในชุมชนตั้งอยู่ มีเอกสารรับรองที่ชัดเจน ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2548 ที่ได้มีการตั้งกองทุนขึ้นมีประชาชนให้ความสนใจกู้ยืมเงินเพียง 98 ราย และนอกจากนี้ ตนจะไปหารือกับสถาบันการเงินทั้ง 16 แห่ง ในเรื่องการจัดตั้งศูนย์เกื้อกูลเพื่อการบริหารเงินทุนในการประกอบการในภาวะวิกฤติ รวมถึงแนวทางที่จะให้สถาบันการเงินร่วมสมทบเงินในการปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการ
กำลังโหลดความคิดเห็น