xs
xsm
sm
md
lg

ครูตีกัน “นายทุน-นักวิชาการจ๋า” นั่ง รมว.ศธ. ชี้ชัดต้องการคนจาก “พปช.”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตัวแทนครูปฏิเสธ “นายทุน- นักวิชาการจ๋า” ขอคนแวดวงการศึกษา รู้กฎหมายการศึกษา นั่งเก้าอี้ รมว.ศธ.จะได้เดินหน้าการศึกษาทันที ไม่ใช่ใช้เวลา 3-6 เดือนฮันนีมูนเรียนรู้งาน ส่วนตัวแทนครูใต้ วอนดูแลครูใต้

นายนิพนธ์ ชื่นตา ประธานสภาสหภาพครูแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้ที่จะมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ควรเป็นพรรคแกนนำที่จัดตั้งรัฐบาล จะได้ผลักดันนโยบายการศึกษาสำคัญๆ ได้อย่างรวดเร็ว และนโยบายการศึกษาเหล่านี้จะได้นำไปพัฒนาคนทั้งประเทศ นอกจากนี้ ครูอยากได้คนรู้ระบบการศึกษาเป็นอย่างดี รู้กฎหมายการศึกษาและรัฐธรรมนูญ จะได้ไม่เสียเวลามาหาข้อมูลหรือเรียนรู้งาน ที่สำคัญจะได้ไม่ต้องทำอะไรผิดๆ ถูกๆ อีก

“คุณสมบัติของผู้ที่จะมานั่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ต้องการรู้เรื่องการศึกษาเป็นอย่างดี รู้กฎหมาย จะได้ขับเคลื่อนการศึกษา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 303 ซึ่งได้กำหนดไว้ว่ากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาจะต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ปี ”

ด้านนายธนารัชต์ สมคเณ นายกสมาคมนักพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อพรรคพลังประชาชน (พปช.) เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และมีนโยบายที่จะพัฒนาและดูแลงานด้านการศึกษาเอง ตนในฐานะตัวแทนสมาคมฯ จึงเสนอลักษณะของ รมว.ศธ. ที่ครูต้องการ และเมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้มีโอกาสหารือร่วม นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการ พปช. และได้เสนอว่า ศธ.ต้องการผู้ที่เคยเป็นครูหรือคนที่เข้าใจครูมาทำหน้าที่ รมว.ศธ. มีความเก่งและเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องกฎหมาย เนื่องจากยังมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่ยังเป็นปัญหาอยู่แม้จะมีการแก้ไปบางส่วนแล้วก็ตาม

พร้อมกันนี้ยังได้ฝากให้ พปช.ดูแลการศึกษาในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ที่สำคัญ รมว.ศธ.คนใหม่จะต้องกล้าตัดสินใจ กล้าเดินหน้าทำงาน ไม่ใช่ทำงานเหมือนช่วงกำลังฮันนีมูน คือนั่งศึกษางาน 3-6 เดือนกว่าจะลงมือทำ รวมถึงขอให้สานต่อเรื่องที่พรรคไทยรักไทย (ทรท.) เดิมเมื่อครั้งนายอดิศัย โพธารามิก อดีต รมว.ศธ.ได้เคยให้งบประมาณสนับสนุนในการจัดทำประกอบวิชาชีพให้ครูคนละ 500 บาทแก่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา แต่เมื่อหมดสมัยนายอดิศัย โพธารามิก ก็ไม่มีการสานต่อเรื่องดังกล่าว ทำให้คุรุสภาต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าวนี้ เพื่อดำเนินการให้ครู 800,000 คน รวมเป็นเงิน 400 ล้านบาท

“เคยคุยเรื่องลักษณะ รมว.ศธ.กับคุณหมอ ชี้แจงไปว่าอยากได้ครูมาเป็นผู้นำ ไม่ต้องการผู้ที่เป็นนายทุน หรือเป็นนักวิชาการ เพราะที่ผ่านมาเราเห็นมาหมดแล้วในเรื่องการทำงานโดยบุคคลทั้ง 2 กลุ่มนี้ โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าผู้ที่ทำงานในอาชีพครูที่คิดว่าจะสามารถดำรงตำแหน่ง รมว.ศธ.ได้ ยกตัวอย่างนายสุชน ชาลีเครือ นายโสภณ ซารัมย์ นายพีรพันธุ์ พาลุสุข นายนิสิต สินธุไพร เป็นต้น ผมยกตัวอย่างนะไม่ได้เสนอชื่อบุคคลเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เราเปิดกว้างที่จะรับทุกคน เพียงแต่ขอให้ พปช.เข้าไปมีส่วนสำคัญที่จะเลือกเฟ้นผู้ที่จะมารับหน้าที่นี้” นายธนารัชต์ กล่าว

นายเพิ่ม หลวงแก้ว ประธานสหภาพครูแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้ที่จะมาเป็น รมว.ศธ.คนใหม่จะต้องมีความรู้ และเข้าใจบริบทของการศึกษา และก็อยากให้พรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลฟันธงมาเลยว่าจะให้ใครนั่งเก้าอี้ รมว.ศธ.แล้วเลือกคนนี้มาเพื่ออะไร และจะให้ดำเนินนโยบายหรือมีแผนการดำเนินงานอย่างไร เพราะปัจจุบัน กระทรวงศึกษามีปัญหาหลายจุดที่ต้องแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องกฎหมาย เรื่องคุณภาพการศึกษา เรื่องบุคลากร และที่สำคัญอยากให้ รมว.ศธ.คนใหม่จะต้องทำงานประสานงานกับบุคลากรทั้งในและนอกกระทรวงได้อย่างดีด้วย

นายสงวน อินทรักษ์ เลขาธิการสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ความเห็นว่ารัฐมนตรีว่าการ ศธ.คนต่อไปต้องเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายการแก้ปัญหาของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และต้องอยู่ในการดูแลของหน่วยงานเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ เพื่อให้การพัฒนาการศึกษาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลถึงการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต

“โดยส่วนตัวแล้วผมต้องการให้พรรคการเมืองเดียวมาดูแล ศธ. เพราะจะทำให้สามารถดำเนินงานร่วมกันได้อย่างมีเอกภาพ และสามารถแก้ไขปัญหาการศึกษาได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะการพัฒนาคุณภาพการศึกษา และมาตรการรักษาความปลอดของบุคลากรทางการศึกษา”

“คุณภาพการศึกษาของเด็กและเยาวชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตกต่ำมาก เพราะครูและบุคลากรทางการศึกษาขาดขวัญและกำลังใจ รวมทั้งความมั่นคงในการดำรงชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย ที่ผ่านมาการดำเนินตามยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ของ ศธ. ยังไม่เป็นรูปธรรม เพราะยุทธศาสตร์ไม่สอดคล้องกับแนวทางการปฏิบัติในพื้นที่ที่มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”

นายสงวน กล่าวต่อว่า รัฐมนตรีว่าการ ศธ.คนใหม่ต้องมีความรู้ความเข้าใจ และสนองความต้องการการจัดการศึกษาของคนในพื้นที่ อย่างการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาไม่ควรให้บุคลากรทางการศึกษาเดินทางไปแสวงหาความรู้นอกพื้นที่ แต่ต้องจัดการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ เชื่อว่าครูในพื้นที่ทุกคนรอการดูแลจากรัฐมนตรีว่าการฯ ศธ.คนใหม่ ซึ่งผมเข้าใจว่า พปช.จะดูแล ศธ.เองจึงขอเสนอให้ รมว.ศธ.ประสาน ความมั่นคงเพื่อครูและลูกศิษย์ด้วย

นายบำเหน็จ ทิพย์อักษร รองเลขาธิการ สกสค.กล่าวว่า ทุกครั้งที่เปลี่ยนรัฐบาลชุดใหม่มาดำรงตำแหน่ง ข้าราชการจะเจอปัญหาอย่างหนึ่ง นั่นคือไม่สานต่อนโยบายรัฐบาลเดิม ซึ่งบางครั้งเป็นนโยบายที่ดี มีประโยชน์ต่อนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา จึงอยากฝากไปยัง รมว.ศธ.คนใหม่ ขอให้ศึกษานโยบายเก่า หากนโยบายนั้นดีก็ขอให้สานต่อ ส่วนนโยบายไหนไม่ดีค่อยตัด ไม่ใช่ทั้งหมดเพราะไม่ใช่นโยบายของรัฐบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น