มหาดไทย รับ 5 ข้อเสนอ ส.อ.ท. เร่งประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ/เอกชนทั่วประเทศ เน้น Workshop การให้ใบอนุญาต- ข้อบังคับ หลังผู้ประกอบการภาคใต้ ฟ้องถูกเจ้าหน้าที่รัฐ หอบหมายศาล บุกสถานประกอบการ-โรงงาน ตรวจค้นเอกสารแบบไม่ทันตั้งตัว ตลอดไตรมาส 2-3 ปี 2568 หวั่นไม่เป็นธรรมเกิดความคลาดเคลื่อนในทางปฏิบัติ ชี้อาจกระทบภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในพื้นที่
วันนี้ (24 ธ.ค.2568) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ทำหนังสือถึง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย แจ้งประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการตรวจสอบการประกอบกิจการโรงงาน
ส.อ.ท. ระบุว่า สมาชิกผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคใต้ แจ้งว่า ในช่วงไตรมาสที่ 2-3 ของปี 2568 (ม.ค-มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทําลายป่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (ศปทส.ตร.)
ได้ดําเนินการเข้าตรวจค้นสถานประกอบการโรงงานหลายแห่ง โดยมีหมายศาล ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการเกิดข้อสงสัยและมีความกังวล เกี่ยวกับกระบวนการตรวจค้น การเตรียมเอกสาร และความเข้าใจในหลักเกณฑ์ทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ส.อ.ท. มีความเห็นว่า การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเป็นสิ่งสําคัญ เพื่อให้สถานประกอบการดําเนินกิจการเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่กําหนด
อย่างไรก็ดี จากกรณีดังกล่าว ผู้ประกอบการในพื้นที่ เห็นว่า อาจมีความคลาดเคลื่อนในแนวทางปฏิบัติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในพื้นที่ได้
เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นธรรม ส.อ.ท. จึงขอเสนอแนวทางสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ดังต่อไปนี้
1. ขอให้หน่วยงานภาครัฐจัดประชุมชี้แจงแนวทางการตรวจสอบ แก่ผู้ประกอบการ เพื่อสร้าง ความเข้าใจร่วมกันในประเด็นกฎหมาย ใบอนุญาต และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการโรงงาน
2. ขอให้พิจารณาจัดอบรมหรือสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับ ขั้นตอนการขออนุญาตและการต่อใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน การก่อสร้างอาคาร และ ข้อกําหนดด้านสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุข
3. ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการภาคอุตสาหกรรมบูรณาการ การทํางานร่วมกัน เพื่อสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องระหว่างหน่วยงาน
รวมถึงร่วมมือกับ ส.อ.ท. จัดทําแนวปฏิบัติ (Guideline) สําหรับผู้ประกอบการ ใช้เป็นคู่มือในการตรวจสอบเอกสารและ กระบวนการภายในโรงงานก่อนการตรวจสอบ
4. ขอให้พิจารณากําหนดกระบวนการแจ้งล่วงหน้าก่อนการตรวจสอบ (ในกรณีที่ไม่ใช่ความผิดอาญาร้ายแรง) เพื่อให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมด้านเอกสารและบุคลากร
5. ขอให้พิจารณาจัดตั้ง “คลินิกให้คําปรึกษาด้านการขอและต่อใบอนุญาตโรงงาน” ในระดับ พื้นที่แบบรายไตรมาสหรือรายครึ่งปี
เพื่อให้คําปรึกษาเรื่องการอนุญาตประกอบกิจการโรงงานและ อาคาร การต่อใบอนุญาต การตรวจเอกสาร การตีความกฎหมายที่เป็นประเด็น และการวางแผน แก้ไขข้อบกพร่องในการดําเนินกิจการ
ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย เวียนหนังสือถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ รับข้อเสนอ ของ ส.อ.ท. ไปปรับใช้ ประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน
เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการตรวจสอบการประกอบกิจการโรงงาน ขอให้จังหวัด พิจารณาดําเนินการตามประเด็นดังกล่าวตามอํานาจหน้าที่
โดยบูรณาการการดําเนินงานระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจให้ผู้ประกอบการดําเนินกิจการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ลดปัญหา อุปสรรคในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม อันจะส่งผลให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป ทั้งนี้ ให้คํานึงถึงความถูกต้อง กฎหมาย ระเบียบ และหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
มีรายงานว่า ที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ระดมกำลังลงพื้นที่กวดขันตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง จำนวน 7 จังหวัด ประกอบด้วย สงขลา สตูล ตรัง พัทลุง ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส
ที่ดําเนินกิจการสุ่มเสี่ยงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และ ก่อให้เกิดการฟุ้งกระจายของฝุ่น เพื่อป้องกันและลดปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมและมลพิษ PM 2.5 เป็นต้น
"มีการเชิญตัวเจ้าของกิจการ มาดำเนินคดีในความผิดฐาน“ประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต”.


