xs
xsm
sm
md
lg

เกมขู่ ยื้อซักฟอก ยุบสภาหลังปีใหม่!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา


การเมืองกำลังเดินเข้าสู่สถานการณ์สำคัญที่ไม่อาจละสายตาได้อีกครั้ง เพียงแต่ว่างานนี้เป็นเพียงแค่ “เกมการเมือง” จากทั้งสองฝ่ายที่ “จ้องคุมเชิง” เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายขยับก่อนเท่านั้น เพื่อเป้าหมายข้างหน้า คือการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่หวังให้ตัวเองได้เปรียบมากที่สุดเท่านั้น


หากพิจารณากันถึงสถานการณ์ก่อนไปถึงการเลือกตั้ง ก็ต้องจับตาดูข้ออ้างในเรื่อง “การตรวจสอบ” ที่ถูกนำมาใช้ อย่างไรก็ดีหากต้องจับตากันจริงๆแล้วเรื่องการยื่น “ญัตติซักฟอก” ถือว่าน่าติดตามมากที่สุด เพราะมันเกี่ยวพันทั้งฝ่ายค้านคือพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก และฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมมหาดไทย ว่าใครจะลงมือก่อน และใครจะได้ประโยชน์มากกว่ากัน

โฟกัสกันที่ พรรคเพื่อไทยก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้บอกว่าพวกเขาจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือ นายกรัฐมนตรี แต่หลังจากนั้น เมื่อเจอคำขู่จาก นายกรัฐมนตรีว่ายื่นมาเมื่อไหร่ ก็ยุบสภาทันที นั่นคือ เปิดสภาวันที่ 12 ธันวาคม ก็จะยุบทันที อะไรประมาณนั้น พร้อมทั้งยังบอกว่าให้พรรคร่วมรัฐบาลเตรียมตัวเอาไว้ให้พร้อม 

ในเวลานั้นคำพูดของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล กับสถานการณ์ของพรรคภูมิใจไทยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น คะแนนนิยมกำลังไหลมา แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ทางภาคใต้ ทั้งรัฐบาลและตัวนายอนุทิน ถูกวิจารณ์อย่างหนัก ทำให้เสียความนิยมลงไป ทำให้มองว่าสถานการณ์และบรรยากาศกำลังเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และที่ผ่านมา ผลสำรวจในช่วงน้ำท่วมก็พิสูจน์ออกมาชัดเจน

ดังนั้น หากถามกลับไปยังพรรคเพื่อไทยในเวลานี้ พวกเขามีความพร้อมที่จะเลือกตั้งมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ และมีความกล้าที่จะยื่นญัตติซักฟอกหรือไม่ เพราะถ้ายื่นเมื่อไหร่ เชื่อว่านายกรัฐมนตรีต้องยุบสภาทันที เหมือนกับที่เคยลั่นวาจาเอาไว้ว่า “ไม่ยอมให้ถูกด่าฟรี” นั่นแหละ

แต่จากคำพูดล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมาของ นายสรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับการยื่นซักฟอก ก็ยังไม่มีคำตอบชัดเจนว่าจะยื่นเมื่อไหร่กันแน่ เพียงแต่บอกว่า “ยื่นแน่” แต่ไม่บอกว่าเป็นช่วงไหน

นายสรวงศ์ กล่าวว่า ว่า เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งเราพร้อมที่จะทำการยื่นอภิปราย แต่กำลังดูช่วงเวลา เพราะเราไม่อยากเป็นแพะในเรื่องของการถูกโยงว่า เป็นเพราะพรรคเพื่อไทยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วทำให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการแก้ไขปัญหาในการเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในภาคใต้ไม่สำเร็จ ดังนั้น เราจึงต้องดูช่วงเวลาที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุด เพราะเขาขู่ฟอดๆ ว่าถ้าเรายื่นก็จะยุบสภา ซึ่งถ้าจะยุบก็ยุบ เราไม่ได้กลัว เพราะเราทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน

เขากล่าวว่า ขอทำความเข้าใจกับประชาชนว่า การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน และทุกครั้งที่มีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ยังไม่เคยเห็นใครยุบสภาหนี ซึ่งหากยืนยันที่จะทำการยุบสภา นั่นคือ เพราะไม่อยากให้ถูกตรวจสอบ

นายสรวงศ์ กล่าวอีกว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่จำเป็นจะต้องยุบสภา เพราะการที่คุณได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น มีเสียงสนับสนุนถึง 311 เสียง ถ้าคิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิด หรือทำอะไรแล้วประเทศชาติไม่ได้รับความเสียหาย ก็ควรจะไปโน้มน้าวคนที่โหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีให้สนับสนุนต่อ ไม่ใช่ถึงเวลาแล้วก็มาขู่ว่า ถ้ามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็จะยุบสภา ซึ่งพรรคเพื่อไทย มีคะแนนเสียงเพียง 141 เสียง พวกตนก็ไม่สามารถที่จะล้มรัฐบาลได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากพรรคประชาชน

ถามว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ได้มีการหารือว่านายอนุทิน ยุบสภาหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันภายในพรรค ไม่ใช่แค่กรรมการบริหาร โดยมีความคิดเห็นที่หลากหลายว่านายกรัฐมนตรี จะยุบสภาหรือไม่ จะกล้ายุบหรือไม่ แต่ขณะนี้ ยังไม่มีผลสรุปออกมาว่าจะยื่นอภิปรายฯ เมื่อไหร่ เพราะเราก็อยากให้รัฐบาลได้แก้ไขและเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ให้เต็มที่ อย่างไรก็ตามก็เป็นคนละเรื่องกับการตรวจสอบ

“เพราะการที่รัฐบาลบริหารบ้านเมือง แล้วมีพี่น้องประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก หากฝ่ายค้านไม่ยื่นอภิปรายนั่นคือเรื่องแปลก และในฐานะฝ่ายค้านเราไม่สามารถให้รัฐบาลนี้บริหารประเทศต่อไปได้แม้แต่วันเดียว เพราะขณะนี้ประเทศเกิดความเสียหายขึ้นมาแล้ว”

ถามว่า มี สส.บางกลุ่ม ไม่เห็นด้วย เพราะเกรงจะกระทบกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า คำที่บอกว่า ไม่เห็นด้วย เขาอาจจะมองว่า หากยื่นไปแล้วอาจจะถูกกล่าวหาว่าไม่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือถูกกล่าวหาว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จเป็นเพราะพรรคเพื่อไทย แต่ยืนยันว่าภายในพรรคไม่มีคนเห็นแย้ง และเสียงภายในพรรคไปในทิศทางเดียวกัน ไม่มีเสียงแตกว่าจะยื่นหรือไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ

นายสรวงศ์ ยังกล่าวอีกว่า การที่มีคนมาตั้งคำถามว่า จะยื่นไม่ไว้วางใจทำไมเพราะอีก 1 เดือน ก็จะมีการยุบสภาแล้ว แต่อีก 1 เดือนนั้น รัฐบาลอาจจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างมหาศาล ดังนั้นพวกตนจึงไม่สามารถปล่อยไปได้

อย่างไรก็ดี เมื่อฟังคำพูดกันแบบละเอียด ก็ยังไม่พบว่าพรรคเพื่อไทยมีกำหนดจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตอนไหน หรือแม้แต่ช่วงไหนก็ไม่บอก บอกแค่เพียงว่ายื่นแน่ ยื่นแน่ เท่านั้น

ดังนั้น หากพิจารณาจากท่าทีแล้ว เริ่มจากฝ่ายค้าน คือ พรรคเพื่อไทยก่อนก็ต้องบอกว่าเวลานี้เชื่อว่าพวกเขายังไม่พร้อมสำหรับการเลือกตั้ง สังเกตได้จากเวลานี้ยังหาตัวคนที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไม่ได้เลย ที่ผ่านมามีการ “โยนหิน” เอาคนในครอบครัวชินวัตรที่เหลือมาหยั่งเชิงดูก่อน เช่น ลูกเขย , “ลูกเจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็ยังไม่ได้การตอบรับจากสังคม หรือแม้แต่บรรดาแฟนคลับได้มากพอ ทำให้ต้องชะลอออกไปก่อน

ขณะเดียวกัน หากพิจารณาจากบรรยากาศการเมืองในเวลานี้ก็พอมองออกว่า แต่ละฝ่ายต้องการให้ “ยืดเวลา” ออกไปอีกระยะหนึ่ง อย่างน้อยก็ต้องหลังวันที่ 26 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระสาม เสร็จสิ้นไปก่อน อีกทั้งยังมีกรณี “ภาพหลุด” ที่เกี่ยวข้องกับ “เบน สมิธ” ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) อายัดทรัพย์สิน ที่มีทั้งฝ่าย นายอนุทิน และนายทักษิณ ชินวัตร งานนี้ยิ่งไม่มีใครได้แต้ม

ดังนั้นหากพิจารณากันตามนี้ ยังเชื่อว่าพรรคเพื่อไทย คงจะไม่ยื่นญัตติซักฟอกรัฐบาล หรือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในช่วงเปิดสภาสมัยสามัญในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ แน่นอน เพราะนอกจากความไม่พร้อมสำหรับการเลือกตั้งแล้ว ยังมองว่าต้องปล่อยให้รัฐบาลบริหารไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อตอกย้ำความผิดพลาดในเรื่องน้ำท่วมภาคใต้ ขณะเดียวกัน ยังมองไม่เห็นแต้มบวกเรื่อง “สแกมเมอร์” ที่มีภาพปล่อยออกมา ทำให้มั่นใจว่านี่เป็นแค่ “เกมขู่” เพื่อยืดเวลา ทำให้โอกาสยุบสภา ที่น่าจะเกิดขึ้นหลังปีใหม่ หรือเป็นไปได้สูงเหมือนกันที่จะว่ากันตามไทม์ไลน์ คือ ยุบสภาวันที่ 31 มกราคม ปีหน้า !!



กำลังโหลดความคิดเห็น