xs
xsm
sm
md
lg

เบื้องหลัง “บิ๊กอรรถ-พล.ต.ท.ไตรรงค์" -บ้านพระอาทิตย์-สนธิ" แบ็กทำความจริงให้ปรากฏ สู้ความเท็จ "โจ๊ก" ! ** “เสี่ยหนู” ฝันอร่อย! ขออนุมัติทิ้งทวนเมกะโปรเจกต์บริหารจัดการน้ำแสนล้าน ก่อนยุบสภา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ - สนธิ ลิ้มทองกุล- พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล - อนุทิน ชาญวีรกูล
ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ เบื้องหลัง “บิ๊กอรรถ-พล.ต.ท.ไตรรงค์" -บ้านพระอาทิตย์-สนธิ" แบ็กทำความจริงให้ปรากฏ สู้ความเท็จ "โจ๊ก" !

เป็นประเด็นร้อนขึ้นมาพลัน เมื่อ"บิ๊กอรรถ" พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองจเรตำรวจแห่งชาติ ใช้สิทธิชี้แจงแถลงใหญ่ กรณีที่ถูก “โจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร. พาดพิงให้ร้าย โดยเลือกที่จะเจอกับสื่อที่ "บ้านพระอาทิตย์"

แน่นอนว่า เมื่อพูดถึงสถานที่บ้านพระทิตย์ ย่อมคิดถึง "สนธิ ลิ้มทองกุล" ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และปัจจุบันเป็นสื่อมวลชนอาวุโส ที่รับรู้กันในสังคมว่า ทำงานบนพื้นฐานของสื่อที่ขุดค้นหาความจริง ตามวลีที่เจ้าตัวย้ำว่า "ความจริงมีหนึ่งเดียว"

"สนธิ" ให้สัมภาษณ์กับสื่อ บอกถึงการมาแถลงข่าวของ “พล.ต.ท.ไตรรงค์” ภายใต้ชายคาบ้านพระอาทิตย์ ว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ เป็นการตอกย้ำหลักการที่ตนเองและบ้านพระอาทิตย์ทำมาตลอด คือ ใครก็ตามที่ถูกกระทำจากการกล่าวหาลอยๆ ไม่มีข้อมูลหลักฐาน ก็พร้อมจะยืนเคียงข้างต่อสู้ไปด้วยกับคนๆ นั้น และพร้อมเปิดพื้นที่สื่อให้มีโอกาสได้นำหลักฐานต่างๆ มาสู้กลับ

พร้อมกันนี้ "สนธิ" ในฐานะสื่อ ได้วิเคราะห์การออกมาเคลื่อนไหวของ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” กล่าวหาโจมตีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ตั้งแต่ "บิ๊กต่าย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มาจนถึง “พล.ต.ท ไตรรงค์” เลยเถิดถึงการเหมารวมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะ "ความแค้นส่วนตัว" ที่ถูกดำเนินคดีและอยู่ระหว่างการพิจารณา "ไล่ออก" โดยการใส่ร้ายป้ายสี ที่ไม่มีหลักฐาน ขณะที่นายตำรวจที่ถูกโจ๊กกล่าวหา ไม่มีโอกาสได้ชี้แจงและมีพื้นที่สื่อให้ตอบโต้ด้วยข้อจำกัด

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ
และนี่คือเหตุที่ "บิ๊กอรรถ" เลือกบ้านพระอาทิตย์ เป็นสถานที่ที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งแสดงออกถึงความตั้งใจจริง พร้อมกับความประทับใจในตัว "ลุงสนธิ" ที่ทำหน้าที่สื่อทำ "ความจริงให้ปรากฏ" ในหลายๆเรื่องที่ผ่านมา

คราวครั้งนี้อย่างที่เห็นๆ ว่า พล.ต.ทไตรรงค์ ใช้โอกาสนี้ ชี้แจงที่ถูก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวหาหลายเรื่อง

ตั้งแต่คดีของนักการเมืองรายหนึ่ง ยืนยันว่า คดีนี้ตำรวจชุดจับกุมไม่มีการกลับคำให้การ และไม่ได้ให้การช่วยเหลือ ซึ่งปัจจุบันศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ตำรวจ PCT 4 ดำเนินคดีต่อเนื่อง 3

ท้องที่ สภ.สงขลา ในข้อหาพ.ร.บ.เว็บพนัน และพ.ร.บ.ฟอกเงิน, สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดี พ.ร.บ.เว็บพนัน และที่ สน.เพชรเกษม มีการร้องทุกข์กล่าวโทษ พ.ร.บ.เว็บพนัน เพิ่มเติม ซึ่งการจับกุมเป็นไปตามหลักฐาน

ส่วนเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่ามีการทำคดีหลายเรื่อง แต่ไม่เป็นผล เช่น คดีบอสตาล ถูกกล่าวหาว่าไม่มีการดำเนินการ แต่ข้อเท็จจริง มีการจับกุมโดยใช้เวลาสืบสวนนานเกือบ 1 ปี และศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกบอสตาล แต่ผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์ตั้งแต่ชั้นจับกุม ศาลจึงลดโทษให้หนึ่งในสาม จำคุกเพียง 8 เดือน ขณะเดียวกัน สำนักงานป้องกันและปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. มีคำสั่งอายัดทรัพย์ชั่วคราว และส่งฟ้องในคดีแพ่ง

สนธิ ลิ้มทองกุล
เรื่องคดีเว็บพนันมินนี่ ตำรวจได้ขยายผลไปสู่คดี BNK Master ซึ่งทั้ง 2 คดีนี้ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” กับพวกเป็นผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งตำรวจได้ออกหมายจับซึ่ง"โจ๊ก" คดีนี้ถูกกล่าวหาว่ามีการช่วยเหลือ “มินนี่”

แต่ตำรวจได้ดำเนินคดีและขยายผลจับกุมผู้ทำผิดหลายคน รวมถึงจับกุมคนใกล้ตัวพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หลังจากนั้น ต้นปี 2566 ได้สืบสวนขยายผล และจับกุมเว็บพนันในพื้นที่ภาคอีสาน พบว่าเว็บพนันมีชื่อ “มินนี่” จึงออกหมายจับมินนี่กับพวก 3 คน จากนั้นได้ขยายผลออกหมายจับคนใกล้ชิดพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา "โจ๊ก"

จากนั้นชุดสืบสวนพบว่าเว็บพนันมินนี่มีการเปลี่ยนชื่อ จึงออกหมายจับอีกครั้งในข้อหาเว็บพนันออนไลน์ และ พ.ร.บ.ฟอกเงิน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนส่งอัยการ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบสำนวน

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล
ส่วน “คดีสจ.กอล์ฟ” หลังเกิดเหตุทำร้ายร่างกายตำรวจ พลเมืองดีได้ส่งข้อมูลเว็บพนันมาให้โดยคาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับสจ.กอล์ฟ ตำรวจ สภ.สงขลา จึงสืบสวนและออกหมายจับ สจ.กอล์ฟกับพวก รวมหลายสิบคน จากนั้นพนักงานสอบสวนสั่งฟ้อง และส่งสำนวนให้อัยการคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา

ขณะที่เรื่องผลการปฏิบัติงาน เมื่อครั้งที่ตนเองเป็นผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ ถูกกล่าวหาว่ามีการช่วยเหลือเว็บพนัน และคดีที่เป็นการพนัน ทำให้ประชาชนดูหมิ่นเกลียดชัง “พล.ต.ท.ไตรรงค์” ระบุว่า ตนเองไม่ใช่คนชอบอวยตัวเอง แต่ขณะนั้นการจับกุมคดีเว็บพนันสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา รวมแล้วกว่า 2,000 คดี รวมถึงมีการตรวจยึดทรัพย์สินกว่า 300 ล้านบาท และปิดกั้นเว็บพนันไปกว่า 140,000 URL หรือ 70 เปอร์เซ็นต์

มาถึงคำถามสำคัญว่า จะดำเนินคดีหรือฟ้องกลับใครหรือไม่ !?

“พล.ต.ท.ไตรรงค์” ว่า ตนเองเปิดใจรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด แต่ช่วงหลังเห็นว่าเรื่องดังกล่าวถี่ขึ้นและไม่ยอมรับฟังข้อมูล พูดข้อมูลเท็จ และผลิตซ้ำมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะไปออกรายการไหนก็ยังพูดเหมือนเดิม เพราะฉะนั้น ส่วนตัวยืนยันว่าจะขอสงวนสิทธิดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิด ในเรื่องนี้

และเมื่อวันนั้นมาถึง การฟ้องร้องคดีเกิดขึ้นก็ย่อมจะเป็นการพิสูจน์ความจริงให้ปรากฏ ตามกระบวนการของกฎหมาย และยุติธรรม ซึ่งงานนี้จะเป็นอย่างไรก็ต้องติดตามกันต่อไป

อนุทิน ชาญวีรกูล
++ “เสี่ยหนู” ฝันอร่อย! ขออนุมัติทิ้งทวนเมกะโปรเจกต์บริหารจัดการน้ำแสนล้าน ก่อนยุบสภา

ช่วงนี้มวลน้ำจากภาคเหนือ ไหลมาอั้นอยู่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา จะเปิดประตูน้ำระบายเต็มที่ก็ไม่ได้ เพราะด้านล่างเขื่อน รวมทั้ง นนทบุรี กรุงเทพฯ จะเดือดร้อนกันมากกว่านี้ จึงต้องระบายกระจายเข้าสู่ทุ่งทั้งสองฟากฝั่งแม่น้ำ โดยเฉพาะฝั่งตะวันออก
จังหวัดที่กำลังเดือดร้อนหนัก กับปัญหาน้ำท่วมตอนนี้ ก็มี จ.พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี และชัยนาท

ในโอกาสที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยียนประชาชน แจกถุงยังชีพ ที่ จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) นอกจากรับปากจะช่วยชดเชย เยียวยา ทั้งพื้นที่การเกษตร และที่อยู่อาศัยของประชาชน แล้วยังบอกว่า จะต้องหาทางช่วยเหลืออย่างยั่งยืน รัฐบาลจะได้ไม่ต้องจ่ายกันทุกปี ปีละ 3-4หมื่นล้าน โดนเข้าไปซัก 3 ปีต่อเนื่อง ก็แสนล้าน

ว่าแล้ว “เสี่ยหนู” ก็พูดถึงโครงการป่าสัก-อ่าวไทย ที่เปรียบเสมือน แม่น้ำเจ้าพระยาอีกสายหนึ่ง ที่สามารถผันน้ำลงสู่ทะเล จะแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน

แม้จะเป็นโครงการใหญ่ ที่ต้องใช้เงินลงทุนระดับแสนล้าน แต่ถ้าแบ่งทำไปในแต่ละปี เป็นโครงการต่อเนื่อง 5-7ปี ก็ตกปีละไม่กี่หมื่นล้าน

ว่าแล้วก็ส่งสัญญาณไปถึง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าถ้าเสนอโครงการมาก็แจ๋วเลย จะได้เร่งอนุมัติให้ก่อนยุบสภา
หากย้อนกลับไปค้นข้อมูลดูโครงการป่าสัก-อ่าวไทย ก็จะพบว่าได้มีการศึกษาโครงการไว้ตั้งแต่ประมาณ ปี 2560 โดยกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรฯ ภายใต้ชื่อ โครงการคลองระบายน้ำหลาก ป่าสัก-อ่าวไทย แก้ไขปัญหาน้ำท่วมเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก มี “เฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์” รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ กรมชลประทาน และคณะ ได้ศึกษาโครงการไว้ ประกอบด้วย 9 แผนงาน ระยะเวลาดำเนินการ 13 ปี (ปี 2560-2572)

หากสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จทั้ง 9 แผน จะทำให้การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ ในพื้นที่ ทั้งในสภาวะปกติ และวิกฤต สามารถตัดยอดน้ำหลากที่จะไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาได้สูงถึง 1,000 ลบ.ม./วินาที ด้วยการพัฒนาปรับปรุงคลองชัยนาท-ป่าสัก ร่วมกับการก่อสร้างคลองระบายน้ำหลากป่าสัก-อ่าวไทย เพื่อเร่งระบายลงสู่อ่าวไทย

คลองที่ว่านี้ จะเป็นคลองขุดใหม่ เริ่มตั้งแต่แม่น้ำป่าสัก บริเวณ ต.เริงราง อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ผ่านพื้นที่ 38 ตำบล 11 อำเภอ ใน 5 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี นครนายก ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา และ สมุทรปราการ

ความยาวประมาณ 135.9 กิโลเมตร สามารถระบายน้ำหลากได้ 600 ลบ.ม./วินาที จะช่วยเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำหลาก จากแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก รวมไปถึงพื้นที่บริเวณริมคลองระบายน้ำต่างๆด้วย

ขณะเดียวกัน เวลาหน้าแล้ง ก็สามารถเก็บน้ำไว้ในคลอง เพื่อบรรเทาภาวการณ์ขาดแคลนน้ำได้ อีกกว่า 57 ล้านลูกบาศก์เมตร
“อนุทิน” บอกว่า โครงการ“เมกะโปรเจกต์” สำหรับตัวเขาแล้ว ไม่ใช่เรื่องจำนวนเงินที่ใช้ หรือขนาดของโครงการ แต่เป็นเรื่องประโยชน์ ในระยะยาว ที่ประเทศชาติและประชาชนจะได้รับมากกว่า เขาจึงอยากเห็นโครงการนี้เกิดขึ้น

แต่อย่างว่า สำหรับคนบางคน แม้จะมีคำพูดที่สวยหรู แต่บางครั้งแค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว

ก็ต้องติดตามกันว่า “เสี่ยหนู” ใช้ช่วงวิกฤตน้ำท่วม อุตสาห์พูดเผยไต๋ ออกมาขนาดนี้ ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะชงเรื่องขึ้นมาให้อนุมัติทิ้งทวนก่อนยุบสภาตามฝันหรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น