xs
xsm
sm
md
lg

จม.เปิดผนึกถึงนายกฯ ไทยเสียปราสาทตาเมือนธมแน่ ถ้าเดินตาม MOU43 เขมรมั่นใจไทยต้องส่งคืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เทพมนตรี” เขียน จม.เปิดผนึกถึงนายกฯ ห่วงไทยเสียปราสาทตาเมือนธม หากเดินหน้าตาม MOU43 ล่าสุด “ฬำ เจีย” ประธาน JBC ฝ่ายเขมรทำสารคดีแพร่ทั่วโลกโดยใช้เอกสารจากทั้งสองฝ่าย ยืนยันตาเมือนธมเป็นของกัมพูชา แม้ตัวปราสาทถูกไทยยึดได้ช่วงสงคราม 5 วัน แต่เขมรเฉยๆ เพราะเชื่อว่าไม่นานไทยต้องส่งคืน แนะ "อนุทิน" เรียกเจ้าหน้าที่ไปถามความจริง

วันที่ 8 พ.ย. นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thepmontri Limpaphayorm เป็นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 5 แสดงความกังวลต่อสถานะปราสาทตาเมือนธม และผลกระทบจากการดำเนินการภายใต้ MOU ปี 2543 และ TOR ปี 2546 ในการจัดทำเขตแดนไทย–กัมพูชา มีรายละเอียดดังนี้

นี่คือจดหมายฉบับที่ 5 ที่เขียนถึง ฯพณฯ ท่านนายกด้วยความห่วงใยปราสาทตาเมือนธม ที่ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ของกัมพูชา คือ นาย ฬำ เจีย ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่รับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติ ประชาสัมพันธ์และอ้างเอกสารหลักฐานของไทยเช่นแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 บันทึกวาจาของกรรมการปักปันเขตแดน ตามสนธิสัญญา ค.ศ.1907 และเอกสารอื่นๆ ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้มอบให้เขาใช้สำหรับการเรียกร้องปราสาทตาเมือนธม ในสารคดีที่ออกเผยแพร่ไปทั่วโลก นายฬำเจียกล่าวว่าปราสาทตาเมือนธมเป็นของกัมพูชา!

มีหลายต่อหลายครั้งที่กระผมได้ยินเรื่องนี้จากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยว่าปราสาทตาเมือนธมเป็นของกัมพูชา อีกไม่นานเราจะต้องคืนให้เขาไปเพราะการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกหรือ MOU43 ได้เปิดโอกาสให้ เจ้าหน้าที่ใน JTSC สร้างหมุดสีแดงที่กัมพูชาอ้างสิทธิ์และหมุดเขตน้ำเงินที่ฝ่ายไทยอ้างสิทธิ์ มีการลาดตระเวนของทหารแต่ละฝ่ายจำนวน 7 นาย และได้ลงนามรับรองหมุดทั้งสองฝ่ายไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2551

เมื่อสงคราม 5 วันจบลง ทหารไทยเรายึดปราสาทตาเมือนธมได้ ฝ่ายกัมพูชาก็มิได้ว่าอะไรเพราะอีกไม่นานเขาก็จะได้ปราสาทกลับไป เรื่องนี้ ฯพณฯ ท่านควรเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสอบถามเพื่อจะได้ทราบความจริงที่ไม่ใช่การเล่นลิ้นของข้าราชการบางคน

เจ้านายไทยสองพระองค์เสด็จไปเยือนตาเมือนธม เพราะทรงคิดว่าเป็นของประเทศไทยเคยขึ้นทะเบียนไว้แล้วตั้งแต่ พ.ศ.2478 เหมือนปราสาทพระวิหารที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของไทยโดยสมบูรณ์เมื่อ พ.ศ.2502 แต่นั่นแหละอีกไม่นานปราสาทตาเมือนธมก็ต้องเป็นของกัมพูชา

ข้าราชการหลายคนเพ็จทูลแต่ละอย่างเสมือนหลอกพระองค์ท่านและประชาชนชาวไทย

สำหรับเรื่องปราสาทตาควายก็เป็นผลจากการดำเนินการของ JTSC ซึ่งมาจาก TOR46 และ MOU43 เราต้องแบ่งปราสาทคนละครึ่งตัวปราสาทตามแผนผังที่กระผมได้แนบมา มีประเทศไทยนี่แหละที่ดูโง่เลอะเทอะไม่ศึกษาประวัติศาสตร์หรือเทววิทยาในการสร้างปราสาท เรามีเจ้าหน้าที่ที่ไม่สมบูรณ์พร้อมกับเรื่องการจัดการเขตแดน

ประธาน JBC ฝ่ายไทยที่ ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีตั้งกับมือ ก็ทราบเรื่องนี้แต่จะแจ้งให้ ฯพณฯ ท่านทราบหรือไม่ กระผมก็จนด้วยเกล้า เพราะประเทศนี้มันมีความลับเรื่องเขตแดน ดินแดน มากมาย

ถ้า ฯพณฯ ท่านอยากรู้ความจริง ข้อบกพร่องของ MOU43 ทำให้เรามีโอกาสในอนาคตเสียดินแดนมากมาย

คำถามง่ายๆ ตั้งแต่มี MOU43 ไทยเราได้อะไร มีแต่กัมพูชาที่ได้แต่ฝ่ายเดียว ฯพณฯท่านลองให้ภาคประชาชนกับราชการมาดีเบตกันแบบที่ท่านรองนายกรัฐมนตรี บวรศักดิ์ อุวัณโณ ท่านว่าไว้ ก็จะทราบความจริงและความผิดพลาดของกรมสนธิสัญญาและกฏหมายในอดีต

ขอ ฯพณฯ ท่านมีความสุขในการทำงานท่ามกลางปัญหามากมาย

ขอแสดงความนับถือ
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม
8 พฤศจิกายน 2568




















กำลังโหลดความคิดเห็น