จันทบุรี - สรุปผลประชุม JBC สมัยวิสามัญที่ จ.จันทบุรี สองประเทศเห็นพ้องสร้างหลักเขตแดนใหม่ทดแทนหลักเขตแดนเดิมที่ชำรุดหรือสูญหาย นำเทคโนโลยีLiDAR ทำแผนที่สำรวจและจัดทำหลักเขตแดนบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว เพิ่มความปลอดภัยชุดสำรวจจากทุ่นระเบิด ให้ปฏิบัติงานโดยปราศจากการขัดขวางและการยั่วยุ ประชุมครั้งต่อไปเดือน ม.ค.ปีหน้า ที่เมืองเสียมราฐ
เมื่อเวลา 00.30น.วันนี้ ( 23 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งจัดขึ้นที่ จ.จันทบุรี ระหว่างวันที่ 21 - 22 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายไทยนำโดย นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศด้านเขตแดน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (ฝ่ายไทย) และฝ่ายกัมพูชานำโดย นายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา เป็นประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (ฝ่ายกัมพูชา) ได้ปิดการประชุมอย่างเป็นทางการท่ามกลางบรรยากาศฉันมิตร
โดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้สรุปผลการประชุมร่วมกันว่าทั้งสองฝ่ายได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการเทคนิคร่วม (Joint Technical Sub-Commission: JTSC) ดำเนินการสร้างหลักเขตแดนใหม่เพื่อทดแทนหลักเขตแดนเดิมที่ชำรุดหรือสูญหาย จำนวน 15 หลัก ที่ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นตรงกันแล้ว ให้กลับคืนสู่ที่ตั้งและตำแหน่งเดิม
และทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะจัดทำหลักเขตแดนเพื่อเปลี่ยนหรือทดแทนหลักเขตแดนเดิมที่จมน้ำจำนวน 3 หลัก โดยจะกำหนดตำแหน่งที่ตั้งใหม่ร่วมกันในภายหลัง
นอกจากนั้นยังเห็นพ้องให้เร่งรัดการแก้ไข Terms of Reference 2003 (TOR 2003) เกี่ยวกับการจัดทำแผนที่ภาพถ่าย (Orthophoto Maps) เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น Light Detection and Ranging (LiDAR) มาใช้ในการทำแผนที่ภาพถ่าย เพื่อให้การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเกี่ยวกับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ระหว่างหลักเขตแดนที่ 42 ถึง 47 บริเวณบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว
ก. ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับคำแนะนำทางเทคนิค (Technical Instruction: TI) สำหรับการสำรวจและวางหมุดชั่วคราวในพื้นที่ภูมิประเทศที่มีความเร่งด่วนในบริเวณหลักเขตแดนที่ 42 ถึง 47
ข. เมื่อทั้งสองฝ่ายดำเนินการสำรวจและวางหมุดชั่วคราวเสร็จสิ้นแล้ว จะนำผลการสำรวจดังกล่าวเสนอต่อรัฐบาลเพื่อขอความเห็นชอบ เพื่อกำหนดกลไกที่เหมาะสมสำหรับการปรับการถือครองที่ดินของทั้งสองฝ่ายต่อไป
ค. การวางหมุดชั่วคราวนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการสำรวจเท่านั้นและจะไม่กระทบต่อสิทธิของไทยและกัมพูชาในเรื่องเขตแดนทางบกตามกฎหมายระหว่างประเทศ และ
ง. ทั้งสองฝ่ายตกลงจะกำชับให้หน่วยงานท้องถิ่น ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน รับประกันความปลอดภัยให้กับชุดสำรวจจากทุ่นระเบิด ตามข้อ 3 ของ MOU 2543 และเพื่อให้ชุดสำรวจสามารถปฏิบัติงานได้โดยปราศจากการขัดขวางและการยั่วยุที่อาจส่งผลให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มเติมในบริเวณดังกล่าว
และทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดการประชุม JBC ครั้งต่อไปในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2569ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา