xs
xsm
sm
md
lg

เบื้องหลังกัญชาคดีพลิก "เศรษฐา"เคลียร์ใจ "สองรัฐมนตรี "อนุทิน" ได้ทีเอาคืนบีบ "สมศักดิ์" ถอย ** กวาดเรียบตามโผ ประธานฯ -รองประธานวุฒิสภา การเมืองหลังจากนี้ น้ำเงินคุมสภาสูง- แดงคุมสภาล่าง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เศรษฐา ทวีสิน -อนุทิน ชาญวีรกูล -สมศักดิ์ เทพสุทิน
ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ เบื้องหลังกัญชาคดีพลิก "เศรษฐา"เคลียร์ใจ "สองรัฐมนตรี "อนุทิน" ได้ทีเอาคืนบีบ "สมศักดิ์" ถอย

เดิมทีส่อเค้าว่าจะเรียบโร้ยโรงเรียน "หมอสมศักดิ์" สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ที่ยูเทิร์นจับนโยบายกัญชาเสรีเอากลับไปเป็นยาเสพติดที่ยากจะมีคนรั้งไว้ได้

มาวันนี้คดีพลิกซะแว้ววว! เพราะหลังจาก "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี ได้เรียก "หมอสมศักดิ์" สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข และ "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาคุยกันตรงหน้าก่อนเข้าประชุมครม. เมื่อวานนี้ (23ก.ค.)

ผลสรุป นายกฯ มีบัญชา ควรมีกฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เข้ามาควบคุมกัญชา

นั่นหมายความว่า นโยบายที่ “สมศักดิ์” กำลังจะผลักดันเอากัญชากลับเข้ากรงขังยาเสพติดเหมือนเดิม ย่อมต้องเปลี่ยนไปพิจารณาเป็น พ.ร.บ.ควบคุมแทน

งานนี้จึงกลับมาสู่เกมของ "อนุทิน" และ พรรคภูมิใจไทย อีกครั้ง

ข่าวว่าหลังประชุมครม. "เสี่ยหนู" ให้สัมภาษณ์อย่างหน้าชื่นตาบาน ด้วยไพ่ที่ถือดีกว่า “หมอสมศักดิ์” ไปแล้ว ยอมรับว่า นายกฯเรียกคุยจริง แต่ออกตัวอย่าใช้คำว่า "เคลียร์ใจ" เพราะไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน เมื่อนายกรัฐมนตรีระบุว่า ควรมีกฎหมายพระราชบัญญัติ เข้ามาควบคุมก็จบ

หลังจากนี้ เมื่อนายกฯ เคาะในหลักการมาจะต้องไปปรึกษาหารือกัน ทั้ง “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ "หมอมิ้ง" นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี หาวิธีว่าจะร่าง พ.ร.บ.อย่างไร
เบื้องต้นคาดว่าเป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่จะเสนอเข้าไป ซึ่งพรรคภูมิใจไทย ก็มีร่าง พ.ร.บ.คาอยู่ที่สภาอยู่แล้ว ถ้าพรรคอื่นเห็นด้วย ก็เสนอประกบมา แล้วก็ตั้งกรรมาธิการแปลญัตติก็ว่ากันไป

เมื่อถามว่า การผลักดัน พ.ร.บ.จะสำเร็จไม่พลาดเหมือนรัฐบาลที่แล้ว ใช่หรือไม่ “อนุทิน”มั่นใจถึงกับบอกว่า “นี่เป็นบัญชาของนายกรัฐมนตรี ”

แน่นอนว่า เรื่องนี้ย่อมมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง

ว่ากันว่าช่วงหลังตั้งแต่เลือกสว. ที่พรรคภูมิใจไทย ได้มามากที่สุด ไปสร้างอำนาจต่อรองให้กับพรรคสีน้ำเงินขึ้นมาเป็นกอง และ การโชว์พาวด์ เปิดรีสอร์ต-สนามกอล์ฟเขาใหญ่ ต้อนรับขับสู้ "ทักษิณ ชินวัตร" นั้น "เสี่ยหนู" เหมือนมั่นใจอิทธิฤทธิ์ทางการเมืองภูมิใจไทย สามารถล็อบบี้ได้ทุกอย่าง

ฟังว่า “สมศักดิ์”เองในช่วงแรกก็ไม่ยอม เพราะประกาศนโยบายไปแล้ว เมื่อถูกสั่งให้ถอย รมว.สธ. ถึงกับบ่นกับคนใกล้ชิดว่า "เสียหน้า" จะไปพูดกับข้าราชการกระทรวงอย่างไร

ขณะที่ "เสี่ยหนู" อนุทิน ก็ออกมาเปรยกับคนใกล้ตัวภายหลังด้วยเช่นกันว่า สมศักดิ์ แค่เสียหน้า แต่ตัวเองโดนตบหน้า ใครหนักกว่าใคร !

นี่คือเกมที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของกัญชา คราครั้งนี้มาจาก “อนุทิน”โดนตบหน้าจึงเอาคืน สุดท้าย “สมศักดิ์” ถูกบีบให้ถอยจนรู้สึกเสียหน้า แค้นนี้จะมีชำระกันอีกหรือไม่ ต้องติดตาม!

มงคล สุระสัจจะ - พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ - บุญส่ง น้อยโสภณ
++ กวาดเรียบตามโผ ประธานฯ -รองประธานวุฒิสภา การเมืองหลังจากนี้ น้ำเงินคุมสภาสูง- แดงคุมสภาล่าง

การประชุมวุฒิสภานัดแรก เพื่อให้สว.ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ แล้วเลือกตำแหน่งประธาน และรองประธานวุฒิสภา ผ่านไปเรียบร้อย

ตำแหน่งประธานสภา มีการเสนอชื่อผู้เข้าแข่งขัน 3 คนคือ “มงคล สุระสัจจะ”จากกลุ่มสว.สีน้ำเงิน สายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์ , “นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ” จากกลุ่มอิสระ และ “นันทนา นันทวโรภาส” จากกลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ผสมสีส้ม ผลปรากฏว่า “มงคล” ได้ 159 เสียง ชนะคู่แข่งอย่าง นพ. เปรมศักดิ์ และ น.ส.นันทนา ยับเยิน

ส่วนรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 มีการเสนอชื่อผู้เข้าแข่งขัน 4 คน ปรากฏว่า “พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์” สว.ส่ายสีน้ำเงิน คนสนิทของ “เสี่ยหนู” อุทิน ชาญวีรกูล ชนะคู่แข่งขาดลอยเช่นกัน ได้ไปถึง 150 เสียง

สำหรับรองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 ก็มีผู้เข้าแข่งขัน 4 คนเช่นกัน ปรากฏว่า “บุญส่ง น้อยโสภณ”นักกฎหมาย อดีตผู้พิพากษา อดีต กกต. ที่เคยไปเปิดตัวกับ “กลุ่มสว.อิสระ” ซึ่งต่อมาได้มีการเจรจาขอเสียงสนับสนุนจากกลุ่มสีน้ำเงินเป็นผลสำเร็จ จึงชนะไปด้วยคะแนนเสียงมากถึง 167 เสียง

จะเห็นได้ว่า ผู้ที่ได้รับตำแหน่งทั้ง 3 คน ได้รับคะแนนโหวตสูงลิ่ว

ว่ากันว่านี่เป็นผลจากการผนึกกำลังของ สว.สีน้ำเงินที่เดิมมีประมาณ 140 เสียง กับ สว.สายสีแดง ที่มีความใกล้ชิด ผูกโยงกับพรรคเพื่อไทยอีกประมาณ 10 กว่าเสียง ผลจึงออกมาอย่างที่เห็น

มีเสียงวิพากวิจารณ์ว่า นี่เป็นผลจาก “ดีลไม่ลับ” ที่เขาใหญ่ ที่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ “ทักษิณ ชินวัตร” หอบหิ้วลูกหลาน ไปพักผ่อนที่ “แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท แอนด์คันทรีคลับ” เขาใหญ่ รีสอร์ตหรู ของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล โดยที่ “เสี่ยหนู” มารอต้อนรับด้วยตัวเอง

หลังอาหารค่ำในวันนั้น “ทักษิณ” ยังจับไมค์ ร้องเพลงกับ “อุ๊งอิ๊ง” โดยมี “เสี่ยหนู” เป็นลูกคู่อยู่ข้างๆ แถมเช้าวันรุ่งขึ้น ก็ไปออกรอบ ตีกอล์ฟด้วยกันอีก

การพบกันระหว่าง “ทักษิณ กับอนุทิน” ครั้งนี้จึงมีนัยทางการเมือง ที่เกี่ยวเนื่องกับการวางตัวบุคคล และบทบาทของ สว.ในอนาคต โดยเฉพาะการแต่งตั้งบุคลากรในองค์กรอิสระหลายแห่ง ที่มีกรรมการบางคนหมดวาระ

อย่างเช่น คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ที่หลายคนพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระ 7 ปี ยังมีผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ลาออกจากตำแหน่ง 1 คน เมื่อ วันที่ 22 พ.ค.67 ตอนนี้ยังรอการแต่งตั้ง... คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยในวันที่ 9 ก.ย.นี้ “พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ” ประธานกรรมการป.ป.ช. จะพ้นจากตำแหน่ง ด้วยอายุครบ 70 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด และยังมีอีก 2 คน ที่ดำรงตำแหน่งครบวาระ 9 ปี ในวันที่ 30 ธ.ค.67 คือ วิทยา อาคมพิทักษ์ และ สุวณา สุวรรณจูฑะ

ขณะที่ในช่วงเดือนพ.ย.นี้ จะมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พ้นจากตำแหน่งอีก 2 คน เหตุครบวาระการดำรงตำแหน่ง 9 ปี คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 16 พ.ย.67 กับ นายปัญญา อุดชาชน ที่จะครบวาระดำรงตำแหน่งในวันที่ 26 พ.ย.67

ที่กล่าวมาล้วนตำแหน่งสำคัญทั้งนั้น

นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณร่ายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โครงการเรือธงของพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคภูมิใจไทยสามารถเล่นแง่ได้ เพราะโครงการนี้เห็นชัดๆ ว่าสร้างหนี้มหาศาล แต่ภูมิใจไทย ก็โหวตให้ผ่านฉลุย

แล้วก็มาถึงบางอ้อว่า พร้อมคำเฉลยว่าทำไมภูมิใจไทยทำเช่นนั้น เพราะเมื่อเช้าวานนี้ ก่อนการประชุมครม. "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี ได้เรียก "หมอสมศักดิ์" สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข และ "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย มาคุยกัน พร้อมกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหากัญชา ว่า ควรออก พ.ร.บ.มาควบคุมกัญชา

นั่นคือ ไม่เอากัญาชากลับไปเป็นยาเสพติด ตามที่ “หมอสมศักดิ์” ประกาศเช้า ประกาศเย็นว่าจะทำให้เสร็จก่อนสิ้นปีนี้
ว่ากันว่า นี่ก็เป็นอีก หนึ่ง “ดีลไม่ลับ” ระหว่าง ทักษิณ กับเสี่ยหนู ที่เห็นกันจะจะ ทำแบบไม่ต้องเหนียม
และหลังจากนี้การเมืองไทยจะเดินไปในแนวทาง สีน้ำเงินคุมสภาสูง สีแดงคุมสภาล่าง


กำลังโหลดความคิดเห็น