ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ สว.สีน้ำเงินส่อวุ่น เตะตัดขากันเอง แย่งชิงเก้าอี้ใหญ่
วันอังคารที่ 23 ก.ค.นี้ เป็นวันประชุมวุฒิสภานัดแรกของสมาชิกวุฒิสภา(สว.)ชุดปัจจุบัน 200 คน ซึ่งคงได้รู้กันแล้วว่าใครคือตัวเต็ง ที่จะขึ้นมาเป็น ประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 และคนที่ 2 หลังจากสภาสูง ฝุ่นตลบ ล็อบบี้ชิงสามเก้าอี้ใหญ่นี้กันอย่างหนัก
ตอนนี้ภาพโดยรวมของ สว.ที่แบ่งออกเป็นก๊กเป็นเหล่า แบ่งเป็นสีต่างๆ ตั้งกลุ่มก๊วนขึ้นมาเพื่อต่อรองเก้าอี้กันอย่างโจ๋งครึ่ม สว.บางสี เช่น “สว.สีส้มเดิม” ที่ตอนนี้เรียกตัวเองว่า “กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่” เคลมว่าสมาชิกในกลุ่มประมาณ 30 คน ประกาศพร้อมชน สว.สีน้ำเงิน และบ้านใหญ่บุรีรัมย์ มีการวางแผนงัด กับกลุ่มสว.สีน้ำเงิน ในการส่งคนลงชิงประธานวุฒิสภา-รองประธานวุฒิสภา รวมไปถึงโควตาประธานคณะกรรมาธิการสามัญ วุฒิสภาชุดสำคัญๆ
โดยล่าสุด “กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่” เคาะแล้วว่าจะส่ง “นันทนา นันทวโรภาส” ชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ส่วนรองประธานสภาคนที่ 1 จะส่ง “แล ดิลกวิทยรัตน์” และ รองประธานสภาคนที่ 2 ส่ง “อังคณา นีละไพจิตร”
ส่วน สว.“กลุ่มอิสระ” ที่คุยว่ามีสมาชิกกว่า 20 คน มีการนัดกินข้าวกันก่อนหน้านี้ ที่ตึก CS ทาวเวอร์ ถนนรัชดาฯ ก็ได้เปิดตัว “บุญส่ง น้อยโสภณ” สว. กลุ่ม 2 อดีต กกต. ลงชิงเก้าอี้รองประธานวุฒิสภาด้วย
ขณะที่ค่ายสีน้ำเงิน ที่มี สว.อยู่ในหน้าตักร่วม 140 ชื่อ โดยไปดึง สว.หลายคนมาเข้ากลุ่มได้ หลังมีการแจกโปร ชนิด สว.หลายคนปฏิเสธไม่ลง
สำหรับเก้าอี้ ประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา ข่าวว่า ค่ายสีน้ำเงิน จะยึดเรียบ กินรวบทั้งสามเก้าอี้ ไม่แบ่งให้กลุ่มอื่น
แม้ก่อนหน้านี้ “เสธ.คนดัง” จากบ้านป่ารอยต่อ ที่เป็นคนดึง สว.ให้รวมกลุ่มเป็น สว.บ้านป่าฯ พยายามต่อสาย ต่อรองกับแกนนำ สว.สีน้ำเงิน ว่าขอโควตารองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง และ ประธานคณะกรรมาธิการสองคณะ คือ ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ และประธานคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบฯ
เดิมที บ้านใหญ่บุรีรัมย์ ก็มีท่าทีตอบรับเพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่าง สีน้ำเงิน กับสีเขียวบ้านป่าฯ
แต่เมื่อเช็กเสียงกันแล้ว ปรากฏว่า “บ้านป่าฯ” ดึง สว.เข้ากลุ่มไม่เข้าเป้า เดิมตั้งไว้ 30 คน แต่ถึงตอนนี้ข่าวว่า ยังไม่ถึงครึ่ง ได้ไม่ถึง 15 เสียง แถมบางคนที่เข้าบ้านป่าฯ ไปก็แค่ไปรายงานตัว กินกาแฟกับลุงเท่านั้น ไม่ได้ตอบรับ ว่าจะมาเป็น สว.บ้านป่าฯ แล้วจากนั้น ก็วิ่งเข้ามาเป็น สว.สีน้ำเงิน เพราะมองเห็นอนาคตที่ดีกว่า
ดังนั้น ที่ก๊วนบ้านป่าฯ ขอโควตา รองประธานฯหนึ่งเก้าอี้ กับประธานกรรมาธิการสองคณะ ที่ขอมา คงให้ไม่ได้ เต็มที่ให้ได้ แค่ประธานคณะกรรมาธิการ 2-3 คณะ แต่รองประธานวุฒิสภา คงไม่ให้
ข่าวว่า “บ้านใหญ่บุรีรัมย์” เคาะออกมาแล้วว่า ประธานวุฒิสภา จะเป็น “มงคล สุระสัจจะ” อดีต ผวจ.บุรีรัมย์ อดีตอธิบดีกรมการปกครองคนเดิม ซึ่งมีการลือกันว่า อาจมีการเปลี่ยนตัว ไม่ใช่ มงคล แต่ข่าวบางกระแสก็ยังเชื่อว่ายังเป็นชื่อนี้ หรือจะเป็น “บิ๊กเกรียง” พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีต ผช.ผบ.ทบ.- อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ต้องการจะไปนั่งเป็น ประธานคณะกรรมาธิการทหาร และความมั่นคงแห่งรัฐ วุฒิสภา
อย่าว่าแต่กลุ่มอื่นๆเลย ในกลุ่ม สว.สีน้ำเงินเอง ก็วิ่งฝุ่นตลบเหมือนกัน มีการล็อบบี้กันเอง ให้สนับสนุนตนเองเป็นรองประธานวุฒิสภา ทำเอา สว.สีน้ำเงิน อีกหลายคนที่ก็ลุ้นเก้าอี้เหมือนกัน ออกอาการไม่พอใจ จนเริ่มมีรอยปริ รอยร้าวใน สว.สีน้ำเงินเหมือนกัน
ส่วนคนที่รู้ว่าบารมีไม่ถึงตำแหน่งรองประธาน ก็เล็งที่เก้าอี้ประธานคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ อยู่ หากเคลียร์กันไม่ได้ อาจมีข่าวแตกทัพออกมาให้เห็น
อีกกลุ่มที่ดูเงียบๆ คือ “สว.สายสีแดง” ที่มีไม่ถึง 10 คน จนทำให้ดูเหมือนว่า ไม่มีพลังอำนาจต่อรองในวุฒิสภาชุดนี้
แต่ต้องไม่ลืมว่า ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ “ทักษิณ ชินวัตร” ได้พาคนในครอบครัว มี “อุ๊งอิ๊ง”แพทองธาร “โอ๊ค”พานทองแท้ และติ๊ก ณัฐฐิญา ภรรยา พร้อมด้วยหลานๆ ไปพักผ่อนที่เขาใหญ่ โดยเข้าพักที่ “แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท แอนด์คันทรีคลับ” ซึ่งเป็นรีสอร์ตหรู ของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยที่ “เสี่ยหนู”มาต้อนรับด้วยตัวเอง
ไม่เพียงเท่านั้น “อุ๊งอิ๊ง” ยังโพสต์ภาพทักษิณ จับไมค์ ร้องเพลง โดยมี “เสี่ยหนู” เป็นลูกคู่อยู่ข้างๆ แถมยังไปออกรอบ ตีกอล์ฟด้วยกันอีก
การพบกันระหว่าง “ทักษิณกับอนุทิน” ครั้งนี้ จึงมีนัยทางการเมือง ที่น่าจะเกี่ยวเนื่องกับเรื่องการวางตัวบุคคล และบทบาทของสว.ในอนาคตด้วย
ว่ากันว่า ถึงแม้ “ทักษิณ” จะไม่ได้ทุ่มเท “ลงทุน” ในเรื่องเลือกสว.ในครั้งนี้ จนทำให้มี สว.สายสีแดงผ่านเข้ามาได้เพียงน้อยนิด
แต่เมื่อถึงเวลาสำคัญ “ทักษิณ”ก็พร้อมจะ“ดีล”กับ “เสี่ยหนู”เป็นรายจ๊อบได้อยู่แล้ว
++ ชิง ผบ."ทัพเรือ”ระอุ ปมฉาวเรียกค่าคอมมิชชัน15% “มาดามรถถัง” ตามหลอกหลอน "นายพล ช."
ภายในเดือนสิงหาคมนี้ โผโยกย้าย ผบ.เหล่าทัพ ก็จะถูกส่งถึงมือนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน
ระหว่างนี้มองไปทางไหนก็ฝุ่นตลบอบอวล เหล่าทัพที่ถูกจับตามองมากที่สุดเห็นจะเป็น "กองทัพเรือ"
แว่วว่า ภายในกองทัพจะเดือดไม่แพ้ช่วงก่อนการแต่งตั้ง “บิ๊กดุง” พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. คนปัจจุบันที่กำลังจะอำลาตำแหน่ง
เนื่องเพราะ คลื่นลมที่เคยสงบ เริ่มส่อเค้ารุนแรงด้วยขุดเรื่องเก่า-คดีอื้อฉาวของเหล่าผู้มีชื่อแคนดิเดต ชิงเก้าอี้ ผบ.ทร.เที่ยวนี้ ออกมาตีแผ่กันอีกระลอก
โดยเฉพาะ กรณีเพจดัง CSI LA ที่เคยออกมาแฉ คนในกองทัพเรือ ระดับนายพล "ช." เรียกรับค่าคอมมิชชัน 15% จากยอดงบฯ 480ล้าน บริษัทชัยเสรีของ "มาดามรถถัง" นางนพรัตน์ กุลหิรัญ และ เรียกบริษัท Rv Connex ไปดูแล ตอนเดินทางไปเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี และอื่นๆ อีกตามมาเป็นพรวน
ถ้าจำได้ตอนนั้น คนที่ถูกพาดพิง"มาดามรถถัง" ออกมาปฏิเสธ ร่อนหนังสือชี้แจง และขู่จะฟ้องเพจดัง
มาดามรถถัง ยัน ไม่มี ‘นายพล ช.’ กองทัพเรือ เรียกเงิน 15% ดังกล่าว โดยว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่มีมูลความจริง การกระทำดังกล่าว ถือเป็นการดิสเครดิตและสร้างความเสียหายต่อบริษัทฯ และกองทัพเรืออย่างมาก และเป็นความพยายามปลูกฝังความเชื่อด้านการทุจริต คอร์รัปชัน ต่อภาคอุตสาหกรรม ผู้ผลิตอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในภาพรวมและตั้งข้อสังเกตจากเจตนารมณ์ผู้สร้างข่าวว่ามีวัตถุประสงค์ใด และผู้ใดได้รับประโยชน์จากข่าวนี้
ขณะที่ “บิ๊กจ๊อด” พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. ในขณะนั้นสั่งให้ตรวจสอบ แต่ยังไม่มีผลอะไรปรากฏเป็นที่ประจักษ์ มีเพียงโฆษกกองทัพเรือ ที่ออกมาแจ้งเตือน ผู้ไม่หวังดี ให้หยุดการกระทำปล่อยข่าวที่สร้างความเสื่อมเสียให้องค์กรและผู้บังคับบัญชา ในช่วงแต่งตั้งโยกย้ายโดยไร้ข้อมูลจริง
ต้องบอกว่า จากวันนั้นจนถึงวันนี้เรื่องนี้ยังเป็นเรื่อง"คาใจ"ของสังคม
เมื่อ"บิ๊กดุง"จะโบกมือลาตำแหน่ง คนที่จะขึ้นมาแทนย่อมถูกจับจ้องว่าจะเป็นใคร และ จะตอบปมประเด็นเรื่องอื้อฉาวนี้อย่างไร
สำหรับแคนดิเดตที่ว่ากันว่ามีสิทธิ์จะชิงดำ ผบ.ทร. มีอยู่ด้วยกัน 3 บิ๊ก ได้แก่ “ บิ๊กน้อย ”พล.ร.อ.วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง(ตท.24) เสธ.ทร. , “บิ๊กวิน”พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข (ตท.25) รอง ผบ.ทร. และ “บิ๊กโอ๋” พล.ร.อ.ชลทิศ นาวานุเคราะห์ (ตท.23)ผู้ช่วย ผบ.ทร.
จากนี้ คงต้องจับตาดูว่า ปมเรียกค่าคอมมิชชั่น 15% “มาดามรถถัง” และเรื่องฉาวอื่นๆ จะเกี่ยวโยงกับ แคนดิเดต ผบ.ทร. หรือไม่!?
โยงหรือถูกพาดพิงยังไม่รู้แจ้ง แต่ก็ต้องถือว่า เป็นเรื่องผีลืมหลุม ที่ตามหลอกหลอน "นายพล.ช" ต่อไปอีกนาน