xs
xsm
sm
md
lg

จุ๊กกรู้ งานเข้าอีกแว้ว..."หมอเกศ" กรอกโปรไฟล์ "แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ" แพทยสภาตั้งสอบจริยธรรม! ** “บิ๊กเกรียง-มงคล” คู่ชิงประธานวุฒิสภา “บุญส่ง” ลุ้นรองประธานฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย -เดชา กิตติวิทยานันท์ - พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์
ข่าวปนคน คนปนข่าว



** จุ๊กกรู้ งานเข้าอีกแว้ว..."หมอเกศ" กรอกโปรไฟล์ "แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ" แพทยสภาตั้งสอบจริยธรรม!

พีกไม่พักจริงๆ สำหรับ"น้องหญิง"เอ๊ย "หมอเกศ" พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือ “หมอเกศ” สว.ป้ายแดงที่มาแรงแซงทุกดรามา
จากที่ใช้คำนำหน้า ศาสตราจารย์+ดร.จบนอก จนกลายเป็นประเด็นถูกขุดคุ้ย โซเชียลฯ กระหน่ำจนปรุ มาถึงคิวที่เธอกรอกประวัติตอนสมัคร สว.

ระบุ เป็น"แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม”

ฟังว่า ที่ประชุมกรรมการแพทยสภา ครั้งที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้หยิบยกประเด็นคุณสมบัติ “หมอเกศ” ที่กรอกประวัติตัวเองเป็น “แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม” ขึ้นมาพิจารณา และมีมติให้สอบจริยธรรม

แน่นอนว่า แนวทางการสอบของแพทยสภาจะมุ่งประเด็นปัญหา "หมอเกศ" อ้างเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เจตนาอะไร!?
การโฆษณาให้คนเข้าใจผิดเพื่อผลประโยชน์หรือไม่ เป็นเรื่องหลัก

ขณะที่การอ้างเพื่อให้ตัวเองได้เลือกเป็นสว.ก็อีกเรื่องหนึ่ง

“พล.อ.ท.นพ.อิทธพร คณะเจริญ” เลขาธิการแพทยสภา อธิบายว่า กรณีหลัง น่าสนใจ ยังไม่สามารถตอบได้ชัดว่า ผิดจริยธรรมร้ายแรง หรือไม่ เพราะเหตุการณ์นี้เป็นกรณีแรก เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมี สว.คนใด นำไปใส่ในประวัติแล้วเกิดปัญหาเช่นนี้
พูดง่ายๆ ว่า เรื่องนี้ขอให้คณะกรรมการแพทยสภาพิจารณาตามข้อมูล ข้อเท็จจริงก่อน

โดยแพทยสภาฝ่ายจริยธรรม จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อมาประกอบการพิจารณา เช่น ขอเอกสารจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และเอกสารจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง

รวมถึงเอกสารจากเจ้าตัว เพื่อมาตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

แพทยสภายืนยันว่า การตั้งเรื่องสอบจริยธรรม "หมอเกศ" เป็นไปตามมติกรรมการแพทยสภา มีขั้นตอนและมาตรฐานตามกฎหมาย

ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย ก่อนมีมติตัดสินใดๆ ด้วยความเป็นธรรม โดยไม่มีข้อยกเว้น
งานนี้ “ทนายจุ๊กกรู้” เดชา กิตติวิทยานันท์ ในฐานะทนายความของ สว.หมอเกศ ยิ้มรับทรัพย์อีกแว้ว

พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ - มงคล สุระสัจจะ - บุญส่ง น้อยโสภณ
** “บิ๊กเกรียง-มงคล” คู่ชิงประธานวุฒิสภา “บุญส่ง” ลุ้นรองประธานฯ

สุดสัปดาห์นี้เป็นวันหยุดยาว เนื่องจากวันเสาร์ที่ 20 ก.ค. ตรงกับวันอาสาฬหบูชา จึงหยุดชดเชยวันจันทร์ที่ 22 ก.ค. เปิดมาวันอังคารที่ 23 ก.ค. ก็จะมีการประชุมวุฒิสภานัดแรก เพื่อให้ สว.ชุดใหม่ได้ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นจะเข้าสู่วาระสำคัญ คือ การเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา

ดังนั้น ในช่วงวันหยุดยาวนี้ น่าจะมีการล็อบบี้กันครั้งสุดท้าย โดยเฉพาะตำแหน่ง รองประธานวุฒิสภา

เพราะเป็นที่รับรู้กันว่า ตัวเต็งในตำแหน่งประธานสภานั้น มี 2 คน คือ “พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์” ส.ว.กลุ่ม 1 กลุ่มบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง กับ “มงคล สุระสัจจะ” ส.ว.กลุ่ม 1 เช่นเดียวกัน

โดย “พล.อ.เกรียงไกร” นายทหาร จปร.33 รุ่นเดียวกับ “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ อดีต ผบ.ทบ. และมีความใกล้ชิด สนิทสนมกับ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ประธานคณะที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.66

ส่วน “มงคล สุระสัจจะ” เป็นนักปกครอง ลูกหม้อมหาดไทย เคยเป็นผู้ว่าฯบุรีรัมย์ หลังเกษียณแล้วไปใช้ชีวิตอยู่ที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ จะบอกว่าเป็นสายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์ ก็ไม่ผิด

ทั้งสองคน ต่างเป็นสว.ในสายสีน้ำเงิน

ถ้ามาดูขุมกำลังของแต่ละกลุ่ม จะเห็นว่า สว.ทั้งหมด 200 คนนั้น เป็น สายสีน้ำเงิน หมายถึง คนในเครือข่ายพรรคภูมิใจไทย และบ้านใหญ่บุรีรัมย์ ถึงประมาณ 140 คน ส่วน สว.สีส้ม 18 คน สีแดง 9 คน เขียวบ้านป่า 3 คน และยังมีอีกส่วนที่พยายามรวมพวก ตั้งกลุ่มอิสระ และ“กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่” ที่มี “นันทนา นันทวโรภาส” เป็นโต้โผ โดยมีแนวทางเดียวกับสว.สีส้ม รวมๆแล้วน่าจะมีสมาชิกอยู่ประมาณ 30 คน

ดังนั้นตำแหน่งประธานวุฒิสภา ถ้าไม่เป็น “พล.อ.เกรียงไกร” ก็เป็น “มงคล” ซึ่ง “เสียหนู” กับ “ครูใหญ่บุรีรัมย์” น่าจะตกลงกันได้ เว้นเสียแต่ว่า ในช่วงวันหยุดยาวนี้จะมีคนอื่นเสนอตัวเข้ามาแทรก

ส่วนสว.กลุ่มอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น “กลุ่มอิสระ” หรือ “กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่” หากจะสู้ คงสู้ได้เพียงแค่ตำแหน่งรองประธานวุฒิสภา
ล่าสุดมีรายงานข่าวที่น่าสนใจว่า เมื่อวานนี้ (18ก.ค.) มี สว.กลุ่มหนึ่งประมาณ 30คน นัดพบปะกันที่ ตึก CS ทาวเวอร์ ถนนรัชดาฯ เพื่อหารือถึงการจับมือรวมกลุ่มเพื่อผลักดันบุคคลขึ้นเป็นประธานฯ หรือ รองประธานวุฒิสภา รวมทั้งวางเกมต่อรอง เพื่อมีตำแหน่งในคณะกรรมาธิการในชุดต่างๆของวุฒิสภา

กลุ่มนี้พยายามวางจุดยืนเป็น “กลุ่มอิสระ” เน้นชักชวน สว.ที่ชัดเจนว่าไม่ได้อยู่ในกลุ่ม สว.สีน้ำเงิน และ กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ หรือ สว.สีส้มเดิม

จากการหารือกันร่วม 4 ชั่วโมง โดยในกลุ่มนี้ มี “บุญส่ง น้อยโสภณ” สว.กลุ่ม 2 กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ร่วมหารือด้วย

ในวงพูดคุย สว.ดังกล่าว มีสว.หลายคน เสนอความเห็นไปในทางเดียวกันว่า จะเสนอชื่อ “บุญส่ง น้อยโสภณ” ชิงตำแหน่ง รองประธานวุฒิสภา คนที่ สอง เพราะเห็นว่ามีความเหมาะสม เนื่องจากเป็นอดีตผู้พิพากษา เคยอยู่ในตำแหน่งบริหารของศาล เช่น อดีตอธิบดีศาลอุทธรณ์ ภาค 7 และยังเป็น อดีต กกต. จึงถือว่ามีความรู้ มีประสบการณ์ทางด้านกฎหมายสูง อีกทั้งที่ผ่านมาห้าปี ก็ทำงานเป็นที่ปรึกษาของ นายศุภชัย สมเจริญ อดีต รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง มาตลอด จึงทำให้รู้ระบบงานวุฒิสภาเป็นอย่างดี

มีการวิเคราะห์กันว่า หาก “มงคล สุระสัจจะ” อดีต ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ หรือ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีต ผู้ช่วย ผบ.ทบ. คนใดคนหนึ่ง ได้เป็นประธานวุฒิสภา ก็เห็นว่าทั้งสองคน ไม่ใช่สายนักกฎหมาย จึงจำเป็นต้องมีรองประธานวุฒิสภา ที่มาจากสายนักกฎหมาย ไปช่วยงาน จึงเห็นว่า “บุญส่ง” เหมาะสมที่จะเป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่สอง จึงเตรียมเสนอชื่อ “บุญส่ง” เป็นรองประธานวุฒิสภา

อีกทั้งมีการประเมินว่า กลุ่มสว.สีน้ำเงิน ที่กุมเสียงประมาณ 140 เสียง คงยึดเก้าอี้ประธานวุฒิสภา และ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่งไว้เอง ส่วนโควตารองประธานวุฒิสภา คนที่สอง ควรต้องแบ่งให้กลุ่มอื่นบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดภาพ “กินรวบ” ซึ่งจะไม่เป็นผลดีในสายตาประชาชน และกลุ่ม สว.จากสายอื่น

มีรายงานว่า “บุญส่ง น้อยโสภณ” ได้กล่าวขอบคุณสว.ที่ร่วมสนับสนุน ให้ลงชิง รองประธานวุฒิสภา และบอกว่าพร้อมจะลงสมัคร และพร้อมทำหน้าที่ แม้โอกาสที่จะได้รับเลือกอาจจะมีน้อย หาก สว.เสียงส่วนใหญ่คือ สว.สีน้ำเงิน ไม่ยอมให้โควต้าทั้งสามตำแหน่งกับกลุ่มอื่น

นอกจากทั้ง 3 ตำแหน่งสำคัญแล้ว บรรดาสว. ก็เรื่องมีการหารือ เรื่องการจัดสรรตำแหน่งต่างๆ ในวุฒิสภา เช่น โผเก้าอี้ ประธานคณะกรรมาธิการสามัญ ของวุฒิสภา ว่ากลุ่มไหนจะได้โควตาประธานคณะกรรมาธิการชุดสำคัญๆ อะไรบ้าง

อย่างเช่น กลุ่มสว.สีน้ำเงิน จองโควตาประธาน กมธ.การศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล- กมธ.การทหารและความมั่นคงของรัฐ- กมธ.การเกษตรและสหกรณ์ - กมธ.การคมนาคม เป็นต้น

ก็ต้องติดตามว่า วันที่ 23ก.ค.นี้ ที่ประชุมวุฒิสภา จะเลือกใครเป็นประธานฯ และรองประธานวุฒิสภา


กำลังโหลดความคิดเห็น