เอาไป 8 ข้อ! “ดร.อานนท์” ซัด “พิธา” รัวๆ แนะไปขอโทษตระกูล “อภัยวงศ์” ด้วยตัวเอง “อัษฎางค์” ชี้ พฤติกรรมสับสนเลื่อนลอยเหมือนคนที่ไม่ปกติ “ทายาทตระกูลอภัยวงศ์” เผย “แม่พิธา” โทรมาปรับความเข้าใจเชื่อลูกชายเข้าใจผิด
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(9 ก.พ.67) ความจริงเรื่องคุณยายของ “พิธา” เริ่มปรากฏชัด เมื่อมีรายงานข่าว ท็อปนิวส์ ระบุว่า ยายของ “พิธา” มีชื่อว่า “อนุศรี อนุรัฐนฤผดุง” เคยสมรสกับ นายเกษม อภัยวงศ์ จริง ซึ่งนายเกษมเป็นบุตรชายคนโตของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) กับหม่อมละม้าย 1 ในภรรยา 24 คนของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน แต่ภายหลัง อนุศรี และนายเกษม ได้หย่าร้างกันไป ต่างฝ่ายต่างไปมีครอบครัวใหม่
ทั้งนี้ นายเกษม ย้ายกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เมื่อครั้งตามเจ้าพระยาอภัยภูเบศรกลับมาที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2450 และใช้ชีวิตในเมืองไทย เสียชีวิตเมื่ออายุ 63 ปี หรือ เมื่อ 49 ปีที่แล้ว และพบว่าอนุศรี อนุรัฐนฤผดุง ได้สมรสใหม่ และมีบุตรสาว ซึ่งเป็นมารดาของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (นางลิลฎา ลิ้มเจริญรัตน์)
จากความจริงดังกล่าว ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กต่อเนื่องกันว่า
หนึ่ง คุณยายของคุณพิธาเป็นคนสวย คุณพิธาเลยหน้าตาดี
สอง บ้านเก่าคุณยายเป็นคำแสดงความเป็นเจ้าของ อันอุปมานว่า เป็นคนในตระกูลที่เป็นเจ้าของบ้าน
สาม คุณยายของคุณพิธาเคยอยู่พระตะบอง แต่ก็ไม่เคยอยู่ในบ้านหลังนั้นแต่อย่างใด จะพูดว่าบ้านเก่าคุณยายย่อมไม่ได้ อีกทั้งไม่ได้เป็นเจ้าของบ้านด้วย
สี่ น่าเอ็นดู คิดถึงคุณยาย แต่ป้ายความผิดให้แม่ ป้า น้า ญาติฝ่ายหญิงทั้งหมด พฤติกรรมลูกผู้ชายสุภาพบุรุษยอดกตัญญูโดยแท้
ห้า อย่าพยายามลากความขี้โม้โอ้อวดชอบพูดปดโกหกปากเปราะของตนเองไปขยายใหญ่โตเป็นประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเลยครับ
หก ยังยืนยันคำเดิมว่า เวทนาคุณยายที่ต้องผีพลิกเพราะลูกหลานเยี่ยงนี้
เจ็ด หยุดดิ้นเถิด สงสารคุณยายจริงๆ นะครับ
แปด ตอบให้ตรงคำถามด้วยครับ
สุดท้ายไอ้ว่าวลิเกก็ทำให้แม่ตัวเองเดือดร้อน ต้องโทรศัพท์ไปขอโทษผู้หลักผู้ใหญ่
เฮ้ย ทำให้แม่เดือดร้อน เหมือนไอ้ตี๋ทำให้แม่สมพวยเดือดร้อนพอๆ กันเลย
ว่าแต่ไอ้ว่าวลิเกทำไมไม่ทำตัวเป็นลูกผู้ชาย สุภาพบุรุษ เดินสายไปขอโทษด้วยตัวเอง หรือจะขอโทษในที่สาธารณะเลยก็ย่อมได้ ถ้าหากเป็นลูกผู้ชายจริง นักเลงพอ
คุณยายท่านเป็นคนสวยมากนะครับ
คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ถึงได้หล่อเหลาหน้าตาดีด้วยตามเชื้อสายคุณยาย
ถึงผมจะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันกับคุณยาย แต่ก็เป็นคนไทยร่วมชาติ และไม่กล้าไปนับญาติกับคุณยายครับ ผมเจียมเนื้อเจียมตัวครับ
ถ้าพูดแค่ว่า
“บ้านสามีเก่าของคุณยายผม”
สั้นๆ กระชับ ได้ใจความ
แทนที่จะพูดว่า
“My grandmother used to live in this house almost 1 century ago บ้านเก่าคุณยาย”
เท่านี้ก็จะไม่มีปัญหาอะไร”
ขณะเดียวกัน นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค" ว่า
“พิธา ออกมาแก้ตัวแล้วว่า
“คุณยายเคยย้ายไปอยู่พระตะบองพักนึงจริง”
คำว่า “บ้านเก่าคุณยาย” ในตอนแรก กับคำแก้ตัวว่า “คุณยายเคยย้ายไปอยู่พระตะบองพักนึงจริง” มันต่างกันระหว่างการเป็นเจ้าของบ้าน กับ เคยไปอาศัยอยู่พักนึง
ตอนคุณเกษม อภัยวงศ์ อายุ 6 ขวบ ได้ย้ายกลับมาเมืองไทย จนบั้นปลายของชีวิต
ซึ่งคุณเกษม แต่งงานกับคุณยายในภายหลัง จากที่เติบโตในเมืองไทย
คำถามคือ คุณยายไปอยู่บ้านนั้นตอนไหน?
ที่สำคัญ เรื่องจับโป๊ะนี้ “ไม่ได้เป็นประเด็นการเมืองและการกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ”
แต่มันคือเรื่องพฤติกรรมส่วนตัวของพิธาล้วนๆ ที่พูดจากสับสน เลื่อนลอยเหมือนคนที่ไม่ปกติ ด้วยการโพสต์ภาพจวนเจ้าเมืองพระตะบองแล้วอ้างว่า “เป็นบ้านเก่าคุณยาย”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน จากกรณีนายพิธา โพสต์ข้อความในอินสตาแกรม โพสต์อินสตาแกรม pita.ig ชี้แจงกรณีที่ก่อนหน้านี้ได้โพสต์ภาพบ้านเจ้าพระยาอภัยบูเบศร เมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา พร้อมข้อความบรรยายในทำนองว่า เป็นบ้านของคุณยายที่เคยอาศัยอยู่เมื่อประมาณ 100 ปีก่อน จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย
ล่าสุด อาจารย์ตรีดาว อภัยวงศ์ ทายาทตระกูลอภัยวงศ์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว Threedow Aphaiwongs ระบุว่า ขออนุญาตเรียนแจ้งข้อมูล กรณีที่เกี่ยวข้องกับ “บ้านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร” ที่พระตะบอง และโพสต์ของคุณพิธาที่เกี่ยวข้องกับ สกุล อภัยวงศ์
สืบเนื่องจากกรณีที่เป็นประเด็นและข้อสงสัย ว่าคุณยายของ คุณพิธา เป็นใคร เหตุใดจึงเคยอาศัยอยู่ในบ้านของ เจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้ทั้งๆที่บ้านหลังนั้น ตกเป็นของรัฐบาลกัมพูชาไปตั้งแต่ ปี 2450 แล้ว วันนี้ขออนุญาตสื่อสารข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ประเด็นส่วนตัวไม่กระทบกับคนส่วนมาก ดังนี้
คุณแม่ของคุณพิธา ท่านได้โทรศัพท์มาปรับความเข้าใจและพูดคุยกับผู้ใหญ่ในสกุล อภัยวงศ์ แล้วเมื่อวานนี้ ทางครอบครัวอภัยวงศ์เข้าใจได้ว่า การที่คุณพิธาฟังคำบอกของญาติที่เล่าต่อกันมา อาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้ ทั้งนี้ คุณอนุศรี ซึ่งเป็นคุณยายของคุณพิธา เองก็เคยเป็น สะใภ้ ของสกุล อภัยวงศ์ ในช่วงหนึ่ง
เราขอเรียนว่าเราเข้าใจถึงเจตนารมณ์ของคุณพิธา ที่ไปเยือนพระตะบองและจะระลึกถึงคุณยายและสถานที่ ที่เคยได้ทราบมาในสมัยยังเด็ก ซึ่งสถานที่นั้นมีส่วนเชื่อมโยงกับสกุล อภัยวงศ์ ทางสายตระกูลเราขอขอบคุณที่ระลึกถึงเรา แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นสายเลือดเดียวกัน แต่เราก็เป็นคนร่วมชาติเดียวกัน