xs
xsm
sm
md
lg

3 เด้ง! “ดร.อานนท์” ชี้ ผลพวง “สารตั้งต้น” คำวินิจฉัยศาล รธน. “ก้าวไกล” เจอทั้ง “ยุบพรรค-ตัดสิทธิตลอดชีวิต-ติดคุก”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ จากแฟ้ม
“ดร.อานนท์” ชี้ ผลพวง “สารตั้งต้น” คำวินิจฉัยศาล รธน. “ก้าวไกล” เตรียมโดน 3 เด้ง นับแต่ “ยุบพรรค-ตัดสิทธิกรรมการบริหารตลอดชีวิต-กรรมการบริหารติดคุกจากคดีอาญา มาตรา 116 พร้อมยกกฎหมายประกอบ

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (1 ก.พ. 67) ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich ระบุว่า

“สารตั้งต้นจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญและผลพวงต่อพรรคก้าวไกล

1) ยุบพรรคก้าวไกล

2) ตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตกรรมการบริหารพรรคทั้ง 44 คน

3) ติดคุกจากคดี อาญามาตรา 116 กรรมการบริหารพรรคทั้ง 44 คน

สารตั้งต้น

รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 49 -- มาตรานี้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพิธาและก้าวไกลกระทำผิดตามวรรค 1 ล้มล้างการปกครอง

บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้

ผู้ใดทราบว่า มีการกระทำตามวรรคหนึ่ง ย่อมมีสิทธิร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวได้

ในกรณีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ หรือไม่ดำเนินการภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ ผู้ร้องขอจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญก็ได้

การดำเนินการตามมาตรานี้ไม่กระทบต่อการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำการตามวรรคหนึ่ง

ผลพวง 1. ยุบพรรคก้าวไกล โดยยื่นเรื่องให้กกต. ร้องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล เนื่องจากกระทำผิด พ.ร.ป. พรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 วงเล็บหนึ่งและสอง

พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคการเมืองใดกระทําการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น ดังนี้

1) กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

2) กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ภาพ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนายชัยธวัช ตุลาธน จากแฟ้ม
ผลพวง 2. ร้อง ป.ป.ช. เพื่อให้กรรมการ ป.ป.ช. ฟ้องศาลฎีกาของผู้ตำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตเพราะประพฤติผิดจริยธรรม ดังกรณีของ คุณพรรณิการ์ วานิช ซึ่งจะมีกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลจำนวน 44 คนที่จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต

มาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561

ซึ่งบัญญัติโดย รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 219 ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ เป็นผู้กำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมขึ้นมาบังคับใช้ โดยเนื้อหาต้องระบุให้ชัดเจนในประเด็นข้อห้ามด้วย

ผลพวง 3. ฟ้องดำเนินคดีอาญากรรมการบริหารพรรคก้าวไกล 44 คน ว่า กระทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เพราะการล้มล้างการปกครองถือว่าเป็นการกระทำผิดป.อาญามาตรา 116 ทั้งวงเล็บ 1 และ 2 โดยต้องรวบรวมหลักฐานแห่งพฤติการณ์และสืบเจตนาให้ชัดเจน โดยเฉพาะเจตนาภายใน หลักฐานเหล่านี้มีอยู่แล้วที่ สันติบาล ควรให้ สอบสวนกลางหรือกองปราบปรามเป็นคนทำคดีนี้ โดยมีผู้ไปกล่าวโทษ

หรืออาจจะเป็นความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 กบD

ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต

(1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย

(2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ

(3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี

ประมวลกฎหมายอาญา “มาตรา 113” ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ

(1) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ

(2) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ

(3) แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร

ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต”


กำลังโหลดความคิดเห็น