xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการ แนะ เป็นโอกาสทอง “บันไดลง” หลายฝ่ายฮือต้านแจกเงินดิจิทัล “อดีตบิ๊กข่าวกรอง” ยุส่ง อย่าถอย คุกรออยู่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ นายเศรษฐา ทวีสิน จากแฟ้ม
โอกาสไม่ได้มาบ่อยๆ! นักวิชาการ แนะรัฐบาลอย่าพลาดบันไดลงที่สวยงาม หลังนักเศรษฐศาสตร์-อดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติ หลายฝ่ายฮือต้านแจกเงินดิจิทัล “อดีตบิ๊กข่าวกรอง” ยุส่ง ถ้าดื้อดึง ก็ลุยไปเลย อย่าถอย “คุกรออยู่”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (7 ต.ค. 66) นายภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า

“เรื่องแจกเงินหมื่นบาทในการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ผมเขียนแสดงความเห็นไปมากแล้ว จนกระทั่งพรรคนี้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลผสม ผมก็ให้ความเห็นมาอย่างต่อเนื่อง วันนี้มีข่าวว่า อดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติ คณาจารย์ รวมตัวคัดค้านรัฐบาลแจกเงินนั้น ผมมองว่า นี่คือ บันไดลงที่สวยมากที่ควรฉกฉวยเอาไว้ อย่าพลาดโอกาสเลยทีเดียว

ผมคิดว่าทุกคนรู้ และทุกคนไม่โง่ รู้อยู่เต็มอกว่ารัฐบาลหาเงิน 560,000 ล้านบาท มาแจกไม่ได้หรอกครับ เงินมหาศาลขนาดนั้น จะกู้เงินมาแจก ก็คือ การเสี่ยงและเป็นการสร้างหนี้ที่ไม่จำเป็น รู้ก็รู้อยู่ว่า เป็นการหาเสียงแบบปากพล่อยพูดไปเรื่อย ผมยังคิดอยู่เลยหลังเลือกตั้งใหม่ๆ ว่า จะโดน กกต.สอยร่วงหรือเปล่า เพราะเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ แต่ กกต.ก็ไม่ได้ทำอะไรกับเรื่องนี้ เอาเป็นว่าแม้แต่ ส.ส.ตอนนี้ที่หลายคนหลายพรรคน่าจะโดนสอยร่วงไปแล้วในหลายความผิด เมื่อหลายเดือนก่อนก็ยังเดินเข้าสภากันอยู่ เหมือนโยนปัญหาทั้งหมดไปให้ระบบยุติธรรมเป็นคนจัดการ เอาเป็นว่า ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ในเวลานี้ เพราะเป็นสิทธิของ กกต. ที่จะทำอย่างไรในรูปแบบไหนก็แล้วแต่พวกท่านจะคิดพิจารณากันไป วันนี้ผมอยากจะพูดแต่เรื่องแจกเงินเท่านั้น

ภาพ นายภัทร เหมสุข จากแฟ้ม
อย่างที่ผมพูดไปแล้วว่า นี่คือ บันไดลงที่สวยงามที่จะยกเลิกการแจกเงินที่ไม่มีปัญญาแม้แต่จะหาเงินมาแจก รัฐบาลอย่าพลาดโอกาสนี้เด็ดขาด เพราะเรื่องแบบนี้มันไม่ได้มาบ่อยๆ ผมคิดว่า ทุกคนก็ไม่ได้โง่พอที่จะไม่รู้ว่าแจกเงินให้คนทุกคนที่อายุเกิน 16 มันเป็นการหาภาระใช้หนี้ให้กับเด็กรุ่นต่อไปที่จะมาใช้หนี้คนรุ่นก่อนหน้าแบบโง่ๆ เงินมันไม่ใช่ว่าจะได้มาฟรีๆ ทุกบาทคือหนี้ของประเทศที่เพิ่มขึ้น หนี้จำนำข้าวยังใช้หนี้ไม่หมดเลย จะมาเพิ่มหนี้ใหม่กันอีกแล้ว เพียงแค่ดอกเบี้ยเงินกู้ของ 560,000 ล้านบาทอย่างเดียว ก็สามารถสร้างระบบพื้นฐานให้ประเทศเพื่อคนอีกรุ่นที่อายุไม่เกิน 16 ปี ที่จะเติบโตขึ้นมาได้อีกมากมาย แทนที่จะโยนหนี้ที่พวกเขาไม่ได้สร้างแต่ต้องมาหาเงินใช้หนี้ในวัยที่พวกเขาทำงานในอนาคต

ผมคงไม่ต้องพูดเรื่องเศรษฐศาสตร์มหภาคให้ฟังอีก เพราะผมพูดมามากแล้ว ยิ่งมีผู้หลักผู้ใหญ่ระดับอดีตผู้ว่าการ รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย และนักวิชาการทั้งหลาย ออกมาลงนามร่วมกันให้ความเห็นยิ่งต้องฟัง เรื่องแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อนที่ทุกคนจะรวมตัวกันออกมาค้านนโยบายของรัฐบาลแบบหนักแน่นขนาดนี้

ตอนนี้ตลาดหุ้นก็แดงไปครึ่งกระดาน อินเด็กซ์ก็ลดลงไปมหาศาลทะลุต่ำกว่าแนวต้านที่ 900 ทุนต่างชาติก็ถอนออกไปหลายหมื่นล้าน ค่าของเงินบาทก็อ่อนลงมารูดจนชนทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์ สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ปีหน้าสงครามใหญ่ในย่านนี้จะเกิดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ อีกหลายสิบปัญหาที่จะตามมาในปีหน้าจากภาวะการเงินโลก ขนาดจีนยังต้องรัดเข็มขัด เศรษฐกิจยุโรปก็เน่าไปเรียบร้อยแล้ว คนที่อยู่ในแวดวงการเงินทั้งในประเทศและนอกประเทศก็พอจะมองเห็นปัญหาล่วงหน้ากันได้บ้างแล้ว ผมเองก็เชื่อว่ารัฐบาลไม่โง่พอที่จะมองไม่เห็นปัญหาเหล่านี้

เลิกเถอะครับ อย่าสร้างปัญหาให้บ้านเมืองเพิ่มขึ้นอีกเลย อายเด็กอีกรุ่นที่จะเติบโตขึ้นมาใช้หนี้ของคนไม่กี่คนที่ปากพล่อยหาเสียงหาคะแนนให้ตัวเองแบบไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้

อยากอ่านแถลงการณ์คัดค้านเงินดิจิทัลวอลเล็ต จากนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ ก็อ่านได้ที่นี่ครับ”

https://www.facebook.com/photo/?fbid=361842319510141&set=a.263911985969842

ภาพ นายนันทิวัฒน์ สามารถ จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า

“อย่าถอยนะ

แจกเงินดิจิทัลของรัฐบาลมีเสียงค้านเพียบ

ไม่ว่าจะอดีตผู้ว่าแบงก์ชาติและนักวิชาการ

สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป

ทุกฝ่ายเห็นเหมือนกันหมด

กลัวเศรษฐกิจของประเทศจะ ฉห.

จะหาเสียง จะประชานิยม ก็ทำไป

อย่าให้มันซับซ้อนซ่อนเงื่อน

ลับๆ ล่อๆ

แหล่งเงินมาจากไหน

ทำไมไม่แจกเงินสด

ทำไมต้องแจกเป็นเงินดิจิตอล

ทุกคำถามไม่มีคำตอบ

จากนี้ไป ก็โดนอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ถูกถลกหนัง ถูกจับแก้ผ้าล่อนจ้อน

เดินหน้าไปขึ้นศาล แบบจำนำข้าว

สุดท้ายก็ต้องหนี

เตือนด้วยความเป็นห่วง

แต่ถ้าจะหน้ามั่น ดื้อดึง

ลุยไปเลย อย่าถอยนะ

คุกรออยู่”


กำลังโหลดความคิดเห็น