เงินดิจิทัลเจอตอ

"โสภณ องค์การณ์"

 นับเป็นคราวเคราะห์ของประเทศไทยและรัฐบาลเศรษฐาเมื่อเกิดเหตุร้ายที่ห้างพารากอนขณะที่ประเทศต้องการนักท่องเที่ยวเข้ามาสร้างรายได้ 

เหยื่อของการยิงกลางเมืองเสียชีวิตรายหนึ่งเป็นหญิงชาวจีนก็ทำให้ข่าวร้ายแพร่กระจายไปในสื่อโซเชียลของจีนและสื่อหลักทั่วโลกเพราะมือปืนอายุเพียง 14 ปี ยังดีที่นายกฯ เศรษฐาเล่นเป็นรับสถานการณ์ได้ด้วยการรีบตะเวนขอโทษขอโพยทูตของประเทศต่างๆ ที่มีคนเป็นเหยื่อกระสุนปืนของนักยิงซึ่งเข้าขั้นชำนาญ

การยิงแต่ละนัดเข้าเป้ามีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเจ็ดรายย่อมไม่ธรรมดา เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานอื่นๆ ที่จะต้องวินิจฉัยว่าควรจะจัดการอย่างไรกับเด็กมือปืนนี้

นั่นเป็นเพียงวิกฤตการชื่อเสียงของประเทศไทย แต่รัฐบาลเศรษฐากำลังวางเดิมพันสำคัญเป็นตัวกำหนดความอยู่รอดของรัฐบาลหรือความมั่นคงของประเทศ

 นั่นคือโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทต่อรายซึ่งมีอายุเกิน 16 ปีขึ้นไปและต้องใช้เงิน 560,000 ล้านบาทสำหรับโครงการอภิมหาประชานิยมนี้ เป็นการสร้าง หนี้สินก้อนใหญ่ ภาระติดพันยาวนาน 

ทุกวันนี้ปัญหาก็คือยังไม่รู้ว่าจะหาเงินมาจากไหน แว่วว่าจะไปเอาเงินจากธนาคารออมสิน ก็ยังไม่แน่ว่าจะมารูปแบบไหน จะให้ธนาคารออมสินออกสลากหรือออกหุ้นกู้ให้รัฐบาลซึ่งอ้างว่าไม่ใช่หนี้สาธารณะ แต่อย่างไรก็เป็นหนี้ของรัฐซึ่งประชาชนผู้เสียภาษีต้องรับผิดชอบ
 
 อย่างว่านั่นแหละถ้ามีเงินสดจะกู้หรือจากไหนก็แล้วแต่ มีคำถามว่าทำไมรัฐบาลไม่แจกเป็นเงินสดเข้าบัญชีโดยตรง แต่ไปมุ่งเน้นด้านดิจิทัล 

จึงมีคำถามและแรงต้านจากหลายฝ่ายรวมทั้งมีข่าวแว่วว่าผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยก็ไม่เห็นด้วยและผู้ที่กังวลถึงภาระหนี้สาธารณะก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน

นี่เป็นปัญหาของคำสัญญาว่าจะให้ภายใต้โครงการประชานิยมซึ่งหลายพรรคการเมืองแข่งกันแบบเกทับบลัฟแหลกแหกตาชาวบ้านให้ไปลงคะแนน

ผลที่ตามมาการคุยคำโตถึงโครงการต่างๆ ทั้งค่าจ้างขั้นต่ำและเงินเดือนรวมถึงสวัสดิการต่างๆ ทำให้มาถึงความเป็นจริงว่าทำไม่ได้แล้วก็หาทางแก้ตัวอย่างหน้าด้าน

ผลที่ตามมาการคุยคำโตถึงโครงการต่างๆทั้งค่าจ้างขั้นต่ำและเงินเดือนรวมถึงสวัสดิการต่างๆ ทำให้มาถึงความเป็นจริงว่าทำไม่ได้แล้วก็หาทางแก้ตัวแบบไม่อาย

และยังสร้างคำมั่นสัญญาใหม่ว่าจะต้องเป็นจริงแต่ต้องใช้เวลานี่ก็เป็นการโกหกซื้อเวลาอย่างเคย

กรณีการจะแจกเงิน 560,000 บาทดิจิทัล มี Token บล็อกเชน สารพัดคำที่ชาวบ้านทั่วไปจะไม่เข้าใจแล้วจึงนำไปสู่คำถามแพร่ในกลุ่มโซเชียลมีเดียถึงรัฐบาลดังนี้

ถ้ารัฐบาลเศรษฐา “ซื่อสัตย์” ตรงไปตรงมา ไม่มีวาระซ่อนเร้น

 คำถามที่ 1 : ถ้ามีเงินพร้อมแจกประชาชนจริงๆ แล้ว ทำไมไม่โอนเงินเข้าบัญชีของทุกคนโดยตรงเลย ? 

- ง่ายๆ

- ตรงไปตรงมา

- โปร่งใส

- ตรวจสอบได้

- ไม่มีวาระซ่อนเร้น เพราะไม่สามารถซ่อนเร้นได้

- ประชาชน สามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้ทันที ไม่ต้องปวดหัว กับเงื่อนไขหมกเม็ด ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน

คำถามที่ 2 : สกุลเงินดิจิทัล ที่นายกฯ เศรษฐาแห่งพรรคเพื่อไทยจะนำมาแจกแทนเงินสด เป็นของบริษัทอะไร ?

- ทำไมต้องใช้ Token ของบริษัทนี้เท่านั้น

- ปัจจุบัน มีใครถือ Token สกุลนี้อยู่บ้าง ?

- ถ้าเอาเงินของประชาชน 560,000 ล้านบาท มาซื้อ Token สกุลนี้ มีใครได้รับประโยชน์บ้าง ?(ทั้งบุคคล และ นิติบุคคล)

- การทำแบบนี้ “ทุจริตเชิงนโยบาย” ใช่หรือไม่ ?

คำถามที่ 3 : ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย, นักวิชาการ, นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมาก, บุคคลทั่วไป, นักธุรกิจ, ภาคเอกชน ไม่เห็นด้วยกับนายกฯ เศรษฐา+พรรคเพื่อไทย ที่พยายามหาทางจะ “แจก Token แทนการให้เป็นเงินสด” นั้น ทำไมจึงยังดื้อด้าน ดันทุรังจะทำให้ได้ เพราะอะไร ?

- ถ้าไม่ใช่เจตนาทุจริต แบบดื้อตาใส หน้าด้านๆ

-หรือนายกฯ เศรษฐา และพรรคเพื่อไทย มีเจตนาทำร้ายคนไทยทั้งประเทศ ให้ตกอยู่ในภาวะเงินเฟ้อ, ข้าวยาก-หมากแพง ส่งผลทำให้ประเทศไทยล่มสลายทางเศรษฐกิจ

นายกฯ เศรษฐา และพรรคเพื่อไทย ต้องตอบ 3 คำถามนี้ทันที ให้คนไทยทุกคนรับทราบ

- หากนิ่งเฉย หรือ พยายามขับเคลื่อนนโยบาย “แจก Token แทนเงินสด” ต่อไป คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศไทย ไม่สามารถยอมให้ นายกฯ เศรษฐา และพรรคเพื่อไทย บริหารประเทศนี้

กลุ่มคนไทยผู้รักชาติ
3 ตุลาคม 2566”

คำถามจริงยังมีข้อความปิดท้ายที่ฟังดูแล้วระคายหัวใจ จึงไม่นำมาลงแต่ก็มีอยู่ในโซเชียลมีเดีย

นี่เป็นคำถามและข้อเรียกร้องขอคำตอบเพื่อความชัดเจนว่าการจะใช้เงินก้อนมหาศาลแจกให้ชาวบ้านนั้นมีเงื่อนงำหรือลับลมคมในอย่างไรหรือไม่

คำถามนี้จะดังขึ้นและถ้ามีพฤติกรรมอย่างอื่นรัฐบาลนี้ก็เหมือนอยู่บนปากเหวแล้ว วันก่อนก็มีคำร้องไปยัง ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบเรื่องการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

รอดูก็แล้วกันว่านายกฯ เศรษฐาที่ถูกมองว่ามาแบบฟลุ๊คนั้นจะต้องมีปัญหาเหมือนเรืออับปางท่ามกลางพายุก่อนเข้าเทียบท่า ได้หรือไม่
จากนี้ไปกลุ่มต่างๆ จะเฝ้ามองว่ารัฐบาลจะตอบสนองเพื่ออวย กลุ่มผลประโยชน์นายทุนต่างๆ ซึ่งควักเงินช่วยเหลือช่วงเลือกตั้งและเพิ่มความมั่งคั่ง หรือไม่

ลางบอกเหตุก็คือพวกที่เข้ามารับตำแหน่งต่างๆ ล้วนเป็นพวกสมุนรับใช้การเมืองและสอบตกมีผลงานในอดีตที่ไม่สวยพร้อมกับ ปัญหาความน่าเชื่อถือและความซื่อสัตย์สุจริต

 นายกรัฐมนตรีมือใหม่หัดขับจะลงเอยอย่างไรในวันสุดท้ายของการทำหน้าที่ นี่คือคำถามสำคัญ