xs
xsm
sm
md
lg

เวิลด์แบงก์ลดประมาณการจีดีพีไทยเหลือโต 3.4% กังวลหนี้ภาคครัวเรือนสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดรายงานอัปเดตสภาวะเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก โดยได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2566 ลดลงเหลือ 3.4% จากคาดการณ์เดิมที่ 3.6% พร้อมทั้งปรับลดคาดการณ์จีดีพีของปี 2567 เหลือ 3.5% จากเดิมที่ 3.7% โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังคงตามหลังประเทศในกลุ่มอาเซียน จากการส่งออกที่ลดลงเป็นความท้าทายที่เพิ่มขึ้น โดยอัตราการเติบโตดังกล่าวนับเป็นตัวเลขที่เกือบต่ำที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก (ไม่รวมแปซิฟิก) เป็นรองเพียงแค่พม่า ที่เติบโตได้ 3.0% เท่านั้น

อย่างไรก็ดี แม้คาดว่าจีดีพีของไทยในปีหน้า 2567 จะโตขึ้นได้เพียงเล็กน้อย แต่ยังเติบโตได้เมื่อเทียบกับหลายประเทศที่คาดว่าจะเติบโตลดลง โดยเฉพาะจีนที่คาดว่าจะเติบโต 5.1% ในปีนี้ ก่อนจะชะลอตัวลง 4.4% ในปีหน้า ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นไปตามทิศทางภูมิภาค โดยเวิลด์แบงก์ได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีของเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกปีนี้ลงมาอยู่ที่ 5% จากคาดการณ์เดิมที่ 5.1% ส่วนในปีหน้าจะเติบโตได้ 4.5% จากคาดการณ์เดิม 4.8%

นายอาดิตยา แมตทู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกของธนาคารโลก กล่าวสรุปถึงประเทศไทยว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังคงตามหลังประเทศในกลุ่มอาเซียน และการส่งออกที่ลดลงเป็นความท้าทายที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 2566 การบริโภคภาคเอกชนและการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของการท่องเที่ยว จะช่วยให้การเติบโตทางเศรษฐกิจขยายตัวขึ้นและลดความยากจนลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงและการอุดหนุนด้านพลังงานจะช่วยลดแรงกดดันต่อค่าครองชีพและการบริโภคภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม การบริโภคภาคเอกชนจะทำให้การรัดเข็มขัดทางการคลังล่าช้าออกไปด้วย ขณะที่หนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ผลกระทบจากสภาพอากาศ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเช่นกัน

"ตัวเลขหนี้สาธารณะที่มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นนั้น โดยปัจจุบันเพิ่มมาอยู่ในระดับประมาณ 60% ของจีดีพีนั้นยังไม่ถือว่าเป็นระดับที่สุ่มเสี่ยงหรือเป็นปัญหา แต่ที่น่ากังวลกว่าก็คือ หนี้ภาคครัวเรือนที่สูงประมาณ 80% ของจีดีพี ซึ่งสูงที่สุดในภูมิภาค และน่าเป็นห่วงมากกว่าหนี้ของภาครัฐ"

นอกจากนี้ ในระยะกลางประเทศไทยจะเผชิญกับความท้าทายเชิงโครงสร้างที่จำกัดศักยภาพในการเติบโต อุปสรรคเหล่านี้ได้แก่ สังคมผู้สูงอายุ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การสะสมเงินลงทุนไม่เพียงพอ การแข่งขันด้านการส่งออกที่มีศักยภาพลดลง และหนี้ครัวเรือนจำนวนมาก ขณะที่ความตึงเครียดทางการเงินจากภาวะหนี้ล้นมือ รวมถึงผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลต่อครัวเรือนรายได้น้อยและครัวเรือนที่เปราะบางยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญในการบรรลุการลดความยากจน
กำลังโหลดความคิดเห็น