xs
xsm
sm
md
lg

พท.ชู 310 เล่นใหญ่ ปลุก บิ๊กตู่ คืนชีพ!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แพทองธาร ชินวัตร - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เมืองไทย 360 องศา

วันที่ 9 มีนาคม พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และคณะผู้บริหาร สมาชิกพรรค เข้าร่วมการประชุม

นพ.ชลน่าน กล่าวปาฐกถาพิเศษ ว่า การประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อไทย และมีโอกาสดีที่พวกเราชาวพรรคเพื่อไทยได้มารวมกันมาผนึกกำลังกัน ณ เวทีแห่งนี้ เพื่อทำกิจกรรมสำคัญของพรรค ซึ่งตนเองเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แต่ขอกล่าวด้วยความเสียใจ ว่า อาจเป็นผู้นำฝ่ายค้านครั้งสุดท้ายก็ได้ เพราะสิ่งที่อยากจะประกาศ ก็คือ เราจะชูธงปักชัย แลนด์สไลด์ สู่เพื่อไทยทั้งแผ่นดิน ซึ่งประเทศไทยในปัจจุบันนี้ ถือว่าเป็นจุดต่ำสุดและในฐานะหัวหน้าพรรคมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ว่า พรรคเพื่อไทยเราเท่านั้นที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงในจุดนี้ได้

“เราเคยประกาศยุทธศาสตร์และเป้าหมายของการชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย คือ แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน ต้องได้ ส.ส.มากกว่า 250 ที่นั่งขึ้นไป แต่ในเวลานี้สิ่งที่เรามุ่งหวังตรงนั้น และสิ่งที่เราวางแนวทางเอาไว้ว่าจะต้องชนะ ส.ว. 250 ที่นั่งที่มีอยู่ในวุฒิสภา เมื่อถึงเวลานี้กราบเรียนด้วยความมั่นใจว่า เราไม่กังวลกับหน้าที่ และอำนาจของส.ว.ต่อไปอีกแล้ว เพราะเรามีความมั่นใจว่า เราผ่านจุด 250 เสียงขึ้นมาแล้ว ในเวทีนี้ผมจึงกล้าที่จะเชิญชวนทุกท่านประกาศ คือ เราต้องได้อำนาจจากพี่น้อง 310 เสียงขึ้นไป ซึ่งเป็นเสียงที่จะบอกกับผู้มีอำนาจขณะนี้ว่า เราต้องการกำจัดให้สิ้นซากซึ่งระบอบประยุทธ์ เป็นระบอบที่อันตรายมาก ที่ทำลายโอกาสของพี่น้องประชาชน ดังนั้น 310 เสียง เป็นหมุดหมายที่สำคัญที่เราจะร่วมสู้ร่วมก้าวกันต่อไป เพื่อให้ได้รัฐบาลของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริงคือรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยเรา” นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า เราจะเข้าสู่ทำเนียบในนามรัฐบาลเพื่อไทย ถึงเวลาแล้วที่เราจะขอโอกาสจากประชาชน ที่จะทำงานกับพรรคเพื่อไทยเรา ผนึกกำลังเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศสู่การเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นอีกในไม่ช้า ด้วยยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ ต้องเพื่อไทยเท่านั้น ต้องชนะขาด ไม่มีคะแนนทิ้งน้ำ ไม่มีแบ่งใจ ไม่มีปันใจ ต้องเลือกเพื่อไทย ทั้งคนทั้งพรรค ทั้ง 2 ใบ

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรค พท.และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศเป็นรัฐบาลพรรคเดียวของพรรค ว่า จริงๆ อยากเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง เป็นรัฐบาลที่ไม่ถูกล้มด้วย ส.ว. ไม่สามารถถูกแต่งตั้งนายกฯได้ด้วย ส.ว. เราอยากเป็นรัฐบาลที่จัดตั้งนายกฯ ได้โดยประชาชน เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างที่เคยพูดไว้ทุกเวที

“จริงๆ เราต้องช่วยกัน ที่หัวหน้าพรรคประกาศเรื่อง 310 เสียง เป็นเรื่องใหญ่มาก ต้องมีทุกคนทั้งหัวหน้า เลขาพรรค นายเศรษฐา และทุกคนที่ต้องช่วยกันทุกจุด เราไม่สามารถทำได้เพียงคนเดียว เพราะนี่คือการใหญ่มากๆ เราต้องเดินหน้าเต็มที่” น.ส.แพทองธาร กล่าว

แน่นอนว่า นี่คือ เป้าหมายใหม่ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งหากมองกันตามความเป็นจริงแล้วถือว่า “เล่นใหญ่เกินตัว” มาก เพราะอย่าว่าแต่ เป้าหมายให้ได้ ส.ส. 310 ที่นั่งเลย แค่ 250 ที่นั่งตามที่เคยประกาศ “แลนด์สไลด์” เอาไว้แบบนี้ มันยังถูกมองว่าไม่ต่างจากการเข็นครกขึ้นภูเขา หรือ “เป็นไปไม่ได้เลย”

หลายคนฟันธงตรงกันว่า “ไม่มีทาง” ที่พรรคเพื่อไทยจะชนะ ส.ส.จำนวนดังกล่าว แต่ก็ยังเชื่อว่าพวกเขาจะได้เสียง ส.ส.จำนวนมากที่สุด แค่หลักร้อยคนเท่านั้น สาเหตุที่มองเห็นแบบนั้นเป็นเพราะว่า “คู่แข่ง” หลายพรรคที่พัฒนาขึ้นมา มีการสร้างฐานการเมืองที่แข็งแกร่งขึ้นในพื้นที่ หากบอกว่าพื้นที่ภาคอีสาน ที่เป็นฐานเสียงสำคัญ และมีจำนวน ส.ส.มากที่สุด แต่เวลานี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปมากแล้ว จนชาวบ้านไม่ได้พูดถึงพรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียว รวมไปถึงความ “ห่างหาย” ไปจากนายทักษิณ ชินวัตร ไปมากแล้ว เพราะเวลาผ่านไปนานร่วมยี่สิบปี

ที่เห็นเป็นคู่แข่งที่กำลังฟาดฟันกันอย่างหนัก ก็คือ พรรคภูมิใจไทย และยังมีพรรคไทยสร้างไทยของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่เมื่อมีการสำรวจกันทุกครั้งเธอก็มีชื่อเป็นตัวเก็งนายกรัฐมนตรีติดกลุ่มในอันดับต้นๆ นี่ยังไม่นับพรรคพลังประชารัฐ ที่มีระดับ “บ้านใหญ่” ที่มั่นใจว่ามีที่นั่ง ส.ส.ค่อนข้างแน่ รวมไปถึงพรรครวมไทยสร้างชาติของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้ว่าเพิ่งออกตัว แต่ด้วยการชูกลยุทธ์ “นายกฯ ลูกอีสาน” และผลงานต่อเนื่องในฐานะรัฐบาลนาน 8-9 ปี มันก็ทำให้เป็นที่ติดหูติดตาไม่น้อยเหมือนกัน และในภาพรวมถือว่ากำลังแรงขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับพรรคเพื่อไทยที่ประกาศเปลี่ยนเป้าหมายตัวเลขจำนวน ส.ส.ใหม่จากเดิม 250 ที่นั่ง เป็น 310 ที่นั่ง มันก็เหมือนกับการ “เล่นใหญ่” เกินตัว เพราะในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง มันก็เหมือนกับสร้าง “อุปทานหมู่” ให้ไหลไปทางหนึ่ง เหมือนกับการปลุกทั้งคนในพรรค และคนที่ลงคะแนนเสียง

ขณะเดียวกัน ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวมันก็เหมือนกับการบีบให้การเมืองเหลือ “สองขั้ว” นั่นคือ ฝ่ายที่ “เอาทักษิณ” กับฝ่ายตรงข้าม ซึ่งหากการเมืองถูกบีบเป็นแบบนั้น อีกขั้วหนึ่งมันก็มีแนวโน้มที่กลายเป็น “ฝ่ายเอาบิ๊กตู่” เป็นการเลือกข้างอย่างชัดเจน ซึ่งหากเป็นแบบนี้ มันก็เหมือนกับการ “ปลุก” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นมา เพราะอีกด้านหนึ่งมันเป็นการหลอมรวมฝ่ายที่ไม่เอาทักษิณ ให้กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่พรรคเพื่อไทยพยายามสร้างกระแส “แลนด์สไลด์” ขึ้นมาเอง

ดังนั้น หากมองการถึงภาพรวมทางการเมืองและแนวโน้มจากการประกาศเป้าหมายใหม่ของพรรคเพื่อไทยที่จำนวน ส.ส. 310 ที่นั่ง เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ความเป็นจริงรอบด้านแล้ว แค่เป้าหมายเดิม 250 คน หลายคนก็ฟันธงว่าเพ้อฝันแล้ว แต่ขณะเดียวกัน การประกาศ “เล่นใหญ่” แบบที่ว่า มันก็เหมือนกับการไป “ปลุก” ให้กระแส “ลุงตู่” ตื่นขึ้นมาหรือเปล่า เพราะนี่การเมืองแบบสองขั้ว ที่ “โทนี่” ทักษิณ เคยพูดนำร่องมาก่อนแล้วว่า ให้เลือกแบบยุทธศาสตร์นั่นแหละ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น