น่าจับตา! “สมศักดิ์ เจียม” อ่านเกม หลังเลือกตั้ง “3 ป.” หนีไม่พ้น “ประยุทธ์-ประวิตร-อนุทิน” นายกฯ ด้าน “ทักษิณ” หากไม่แลนด์สไลด์ ก็จะร่วมรัฐบาลกับ “บิ๊กป้อม” และยอมให้นั่งนายกฯ “นิพิฏฐ์” ยก 4 เหตุผล “แม้ว” กลับไทยไม่ได้
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (26 ม.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก Somsak Jeamteerasakul ของนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ต้องหา ม.112 ลี้ภัยในฝรั่งเศส โพสต์ข้อความระบุว่า
“ข้อความข่างล่างนี้ ผมเขียนอธิบายความเห็นของผม ต่อสถานการณ์ตอนนี้ ให้เพื่อนคนหนึ่ง
...................
ตอนนี้ทุกฝ่ายเริ่มหันหน้าเข้าโหมดเลือกตั้งแล้ว รวมทั้งพวกสาม ป ด้วย
พวกนั้น ถ้าไม่ประยุทธ์ ก็ประวิตร ขึ้นอยู่ที่ผลการเลือกตั้ง ถ้าประยุทธ์ไม่ไหวจริงๆ ประวิตรก็ขึ้น
และถ้าไม่ไหวสองคนนี้ ก็มีอนุทินเป็นตัวสำรอง
ส่วนทักษิณก็หวังให้เพื่อไทยได้แลนด์สไลด์ ผมเองประเมินว่า อาจจะไม่ถึง อาจราวๆ 240 หรือกว่าๆ นิดหน่อย ไม่เกินนัก
ทีนี้ทักษิณก็จะพยายามขึ้นตำแหน่ง แต่ถ้าดูท่าทีแล้วขึ้นไม่ได้ ผมว่าทักษิณอาจจะยอมเข้าร่วมรัฐบาล ให้ประวิตรเป็นนายกฯ แล้วตัวเองเข้าร่วม อันนี้ต้องดูว่า ผลการเลือกตั้งเป็นอย่างไร
ส่วนก้าวไกล ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเอายังไง ตอนนี้ผมว่ายังไม่ยุติดี ไปทางไหน”
ขณะเดียวกัน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ระบุว่า
“อนาคตของคุณทักษิณ ชินวัตร
- คุณทักษิณ ยังคงเป็นคนรวย ที่ล่องลอยไปในโลกนี้ได้เช่นเดิม ยกเว้น เมืองไทยที่ยังแวะเวียนมาไม่ได้ คงได้แต่ชะโงกหน้ามาดูแผ่นดินนี้ เวลานั่งเครื่องผ่านไป-ผ่านมาเท่านั้น
- ผมมีเหตุผล อธิบาย ดังนี้
1. คดีของคุณทักษิณ ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริต คดีเหล่านี้ ไม่มีใครกล้าออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะมีนักโทษคดีทุจริตอยู่เยอะทั้งนักการเมือง, ข้าราชการหากนิรโทษกรรมคดีทุจริตกันหมด ผมคิดว่าประชาชนคงไม่ยอม เพราะคดีทุนจีนสีเทา คดีกรมอุทยานฯ ก็จะขอร่วมขบวนมาด้วย หรือ จะนิรโทษเฉพาะคุณทักษิณ ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้อีกเช่นกัน
2. คุณทักษิณ จะขอพระราชทานอภัยโทษได้ ตาม วิ.อาญา มาตรา 261 เป็นการเฉพาะตัว เฉพาะคดีทุจริตที่ถึงที่สุดแล้วเท่านั้น และหากได้รับพระราชทานอภัยโทษ คุณทักษิณ ก็ยังมีคดีอื่นที่ยังไม่ถึงที่สุดอีกหลายคดี คดีเหล่านั้นก็ขอพระราชทานอภัยโทษไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงที่สุด คุณทักษิณ ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอีก เราก็ไม่รู้ว่าพอศาลจะตัดสิน คุณทักษิณจะหนีไปอีกหรือเปล่า
3. ผมจนปัญญาจริงๆ สติปัญญาทางกฎหมายของผมไปไม่ถึง คิดไม่ออก ว่า คุณทักษิณจะกลับมาอย่างไรโดยไม่ติดคุก ต่อให้แลนด์สไลด์ ผมก็คิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร
4. ทั้งหมดนี่ เป็นความเห็นทางกฎหมาย อย่าริคิดเป็นการเมืองเด็ดขาด มองให้เป็นปัญญา ให้เห็นแสงสว่าง อย่างมงายอย่าลืมว่า นักการเมืองชอบประชาชนที่ไม่ฉลาดเพราะปกครองง่าย แต่หากใครฉลาด หรือมีความคิดที่ดีกว่านี้ ก็ลองว่ามา”
อย่างไรก็ตาม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซัม ร่วมสนทนา ในรายการ CARETalk x CareClubHouse หัวข้อ “มีเรื่องคาใจก็ถามมาเลอ” เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 ม.ค. 2566 โดยมีผู้เข้ามาตั้งคำถามว่า เมื่อไหร่จะกลับ
“ทักษิณ” กล่าวว่า “ผมยืนยันว่ายังไงก็กลับ ย้ำว่าไม่ออกกฎหมาย ไม่เกี๊ยะเซียะกับพลังประชารัฐแน่นอน”
นายทักษิณ กล่าวว่า ก่อนอื่น อยากจะขอโทษทุกท่าน ที่เคยพูดว่า จะกลับไทยใน พ.ศ.นี้ ซึ่งตั้งใจอย่างนั้นจริงๆ แต่ไปทำออกซิเจนให้ทันก่อนสิ้นปี แต่สุดท้ายสถานการณ์ยังอันตราย ลูกๆ เขาเป็นห่วง
พร้อมย้ำอีกว่า “ยังไงก็กลับ” และไม่อาศัยพรรคการเมืองใดรวมถึงเพื่อไทยด้วย อาศัยแค่หัวใจตัวเอง เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วง
“อุ๊งอิ๊งจะเป็นคนประกาศเองว่า ผมกลับเมื่อไหร่ จะไม่มีการออกกฎหมายให้ผม ไม่มีการเกี๊ยะเซียะกับพลังประชารัฐเพื่อออกกฎหมายแน่นอน ผมสร้างตัวเองด้วยตัวเองมาโดยตลอด เรื่องที่จะให้ผมไปง้อคนคงยาก ผมช่วยเหลือตัวเองได้ และยังไงผมก็ต้องกลับ ไม่ไหว เพราะผมโดนกลั่นแกล้งตลอดเวลาที่ผ่านมา”
นอกจากนี้ ยังมีคำถามว่า พรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกล จะจับมือตั้งรัฐบาลได้หรือไม่? นายทักษิณ ตอบว่า
วันนี้ฝั่งประชาธิปไตย คือ คำตอบ และสิ่งที่น่าสนใจ คือ กทม. แทบจะแบ่งคนละครึ่ง ระหว่าง เพื่อไทย กับ ก้าวไกล ดังนั้น ถ้ารวมกันก็เกิน 350 เสียง ขณะนี้ประชาชน เริ่มเบื่อ และต้องการคนที่จะเข้ามาแก้ปัญหาให้ประเทศ...
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ อาจอยู่ที่ หลังเลือกตั้งครั้งหน้า ที่ ส.ว. 250 คน ยังมีอำนาจเลือกนายกฯ รัฐบาลจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร?
ยิ่งถ้าพรรคเพื่อไทย ไม่สามารถชนะเลือกตั้งแบบ “แลนด์สไลด์” หรือ เกิน 250 ที่นั่งได้ โอกาสจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับฝ่ายขั้วอำนาจปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะต้องไม่ลืมว่า ฝ่ายอำนาจปัจจุบัน มีเสียง ส.ว.อยู่ในมืออยู่แล้ว 250 เสียง หรือ ถ้ากุมเสียงไม่ได้ทั้งหมด ก็คงจะลดลงไม่มาก ยิ่งถ้าพรรคร่วมรัฐบาลยังคงเหนียวแน่นไม่เปลี่ยนแปลง ถือว่า ขั้วอำนาจปัจจุบันยังได้เปรียบในการโหวตเลือกนายกฯ (มติเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งนายกฯ) ที่ต้องใช้เสียงเกินครึ่งหนึ่งของสองสภา (รัฐสภา) หรือ 376 เสียง
ด้วยเหตุนี้ จึงมีเหตุผลอยู่ไม่น้อย ที่ถ้า “ทักษิณ” และพรรคเพื่อไทย อยากเป็นรัฐบาล (ในกรณีฝ่ายค้านด้วยกันได้ที่นั่งเข้ามาน้อย) อาจต้องยอม “กลืนน้ำลายตัวเอง” เพื่อร่วมรัฐบาลกับ บางพรรคใน “2 ป.” ที่ผู้นำพรรคสามารถกุมเสียง ส.ว.ได้มากกว่าใคร
จึงไม่แปลก ที่จะมีกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้ว่า มี “ดีล” จัดตั้งรัฐบาลล่วงหน้าเอาไว้แล้ว ระหว่าง “ทักษิณ” กับผู้นำพรรคบางคนในรัฐบาล แม้ว่า เรื่องนี้มีการปฏิเสธไปแล้วก็ตาม
แต่ก็อย่าลืม การเมืองไม่มีมิตรแท้ ศัตรูถาวร และการเมืองมักมีข้ออ้าง ที่ชอบธรรมได้เสมอ นี่คือ เหตุผลที่หลายคนยังไม่เชื่อว่า จะไม่มี “ดีล” ตั้งรัฐบาลล่วงหน้านั่นเอง
