"ทักษิณ" กร้าวกลับไทยแน่ อ้างยิ่งอยู่นอกประเทศนานยิ่งโดนใส่ร้าย ที่ยังกลับปีที่แล้วเพราะลูกห่วงความปลอดภัย โวจะกลับมาด้วยตัวเองไม่พึ่งพรรคการเมืองใด ไม่เกี้ยเซียะ พปชร. จะให้ "อุ๊งอิ๊ง" ประกาศเองจะกลับวิธีไหน มอง "ประวิตร" หวังนั่งนายกฯ ชี้ "บิ๊กตู่" ยังไม่ยุบสภาเหตุ รทสช.ยังไม่พร้อม โวกลับไปชวนเที่ยวเขียนหนังสือ สวน "จตุพร" ปลงโดนเห่าตลอด 16 ปี ยังกล่อมเสื้อแดงรักปชต.สำคัญที่สุด
วันนี้ (25 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี ได้ร่วมรายการในแอปพลิเคชันชื่อ ClubHouse CareTalk x CareClubHouse : มีเรื่องคาใจ ก็ถามมาเลอ ! เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2566 โดยช่วงหนึ่ง นายทักษิณ ได้กล่าวถึงการเดินทางกลับประเทศไทยว่า “ก่อนอื่น ต้องขออภัย ที่เคยพูดว่าจะกลับ พ.ศ.ที่แล้ว ผมพยายามอย่างยิ่ง ผมไปทำออกซิเจนให้เสร็จก่อนเวลา ก่อนสิ้นปี เพื่อจะกลับให้ทัน แต่สถานการณ์มัน ลูกเขามีความห่วงใยเรื่องความปลอดภัย ก็เลยยังกลับไม่ได้ แต่ยังไงผมก็จะกลับ”
นอกจากนี้ นายทักษิณ ยังระบุว่า ตนเองอยู่เมืองนอกนาน พวกใส่ร้ายป้ายสีก็เพิ่มขึ้น รวมถึงพวกกล่าวหาทางคดี เพราะฉะนั้นกลับไปดีกว่า “ถ้าผมกลับไป ย้ำไว้นะ ไม่อาศัยนักการเมืองใดๆ รวมทั้งพรรคเพื่อไทยด้วย อาศัยหัวใจตัวเอง เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลผม แล้วยังไงก็ย้ำอีกครั้งว่า น้องอิ๊งค์จะเป็นคนประกาศว่าผมจะกลับเมื่อไหร่ อย่างไร รับรองว่าไม่มีการออกกฎหมาย อย่าไปคิดว่าจะเกี้ยเซียะกับพลังประชารัฐ เพื่อจะขอกลับ ไม่มี”
นายทักษิณ ยืนยันว่า ชีวิตตนเองเกิดจากการสร้างตัวเองมาตลอด เรื่องง้อคน คงยาก แต่ตนเองเป็นคนที่มีน้ำใจกับคน แต่หากมาสะบัดจากผมไปแล้วให้ผมง้อไม่มีทาง เพราะไม่ใช่ตนเอง และตนเองเป็นคนช่วยตัวเองได้ ถึงยังไงตนเองก็ต้องกลับ เพราะไม่ไหว โดนกลั่นแกล้งตลอดเวลาที่ผ่านมา จะกลับอย่างไรก็ได้สบายมาก เพราะปีนี้อายุ 74 ปีแล้ว ส่วนที่มีการชอบปลุกผีวาทกรรมนี้ขึ้นมาช่วงใกล้เลือกตั้ง ยืนยันว่าตนเองเป็นคนอยู่ปลุกไม่ขึ้นหรอก
นอกจากนี้ นายทักษิณ ยังกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า ฝั่งประชาธิปไตยรวมกันเกิน 300 เสียงแน่ โดยไทยรัฐโพลน่าสนใจ อันดับ 1 คือเพื่อไทย อันดับ 2 คือ ก้าวไกล แต่ก็เป็นโพลเช็กเรตติ้ง อาจจะมีเอียงนิดๆ มี Bias จากกลุ่มตัวอย่าง ยังไม่สะท้อนภาพทั้งประเทศ สิ่งที่น่าสนใจในนั้น คือ กทม.แทบแบ่งคนละครึ่งระหว่างเพื่อไทยกับก้าวไกล เหลือเศษนิดหน่อย
โพลไหนก็บอกเพื่อไทยกับก้าวไกลชนะ แต่โพลที่ไม่เหมือนใคร คือ ซูเปอร์โพล นอกนั้นจะออกมาแนวใกล้ๆ กัน ตอนสมัยคุณปู (ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ได้ 264 เสียง ตอนนั้นเพื่อไทยได้คะแนนนิยม 48% แต่ในวันนี้คะแนนนิยมของเพื่อไทยก็ใกล้เคียงกัน โดยไทยรัฐโพลบอกเพื่อไทย 48% นิด้าโพลบอก 42% แต่วันเลือกตั้งจริงๆ ยังไงก็ได้เกินกว่า 48% ยังไงเพื่อไทยก็แลนด์สไลด์แน่นอน
ส่วนการเลือกตั้งหน้าตนเองลงแข่งเอง เพราะไปดึงหน้าแล้วใส่วิกแล้ว พร้อมประเมินว่า พรรคเพื่อไทย ยังไงก็ได้แลนด์สไลด์ คะแนนเสียงได้กว่า 200 เสียง ส่วนพรรคที่ 2 ไม่ถึงร้อยเสียง ขณะที่พรรคที่ 4-5 ไม่ถึง 50 ที่นั่ง และลำดับต่อๆ ไปอาจจะต่ำสิบ
ทั้งนี้ นายทักษิณ ยังกล่าวอีกว่า ขอมอง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในวันนี้ ยืนยันว่า ท่านอยากเป็นนายกฯ แน่นอน เพราะลุกขึ้นมาใส่แจ็กเก็ตแล้ว และถือเป็นความท้าทายที่ต้องการแข่งกับพรรครวมไทยสร้างชาติ
ส่วนเรื่องกระแสข่าวยุบสภา นายทักษิณ ขอวิเคราะห์ ว่า เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะอยู่จนครบเทอม หรือไม่ก็ยุบสภาไม่กี่วันก่อนครบเทอม เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังตั้งตัวแทนจังหวัดไม่ครบ และจะทำให้ครบตามกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีคนในพรรคทำเป็นไม่กี่คน จึงมองว่าเป็นเรื่องที่นายกฯ ต้องดึงเกม เพราะเป็นการชิงให้ได้ 25 เสียง ส่วนพรรคพลังประชารัฐพร้อมแล้ว เพราะเสบียงกรังเขาพร้อม
นายทักษิณ ยังระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ คิดถูกแล้วที่ไปพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะมีมหามิตรอยู่ที่นั่น “แต่ถ้าถามผมควรกลับไปเลี้ยงหลาน แต่ท่านไม่มีหลานก็ไม่เป็นไรกลับไปเลี้ยงลูก แล้วไปเที่ยวกัน ตอนผมกลับบ้านแล้วไปเที่ยวกัน ไปช่วยเอาประสบการณ์มาแชร์กัน จากซีกของท่าน ที่เป็นซีกใช้อำนาจสุดๆ และซีกของผม ต้องแคร์ประชาชนสุดๆ แล้วมานั่งแชร์กัน แล้วมาเขียนหนังสือสักเล่ม”
ขณะเดียวกันนายทักษิณ ยังได้มีการตอบคำถามจากผู้ร่วมชมรายการ กรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน และอดีตประธาน นปช. ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ นายทักษิณ อย่างต่อเนื่อง
โดย นายทักษิณ กล่าวว่า ตนมีคนเรียกหลายชื่อ "ทักษิณ" "แม้ว" "โทนี่" คิดว่าจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "ถูกเห่า" ตลอด 16 ปีตนโดนเห่ามาตลอด ใครนึกอะไรไม่ได้ก็เห่าตนไว้ก่อน
นายทักษิณ กล่าวว่า มีการแก้กฎหมายฟ้องหมิ่นประมาท ใครอยู่นอกประเทศฟ้องร้องไม่ได้ ตนไม่ได้อยู่ในประเทศ คนก็กล่าวหาตน เพราะรู้ว่าตนฟ้องไม่ได้
"ผมโดนประจำ 16 ปีแล้ว เป็นเรื่องธรรมดา ผมเฉยๆ ผมโดนมาเยอะ โดนอีกสักตัวสองตัวก็ไม่เป็นไร ผมปลง ผมเฉย โดนมาเยอะแล้ว" พอนายทักษิณพูดถึงตรงนี้ นายดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกชื่อดังซึ่งร่วมรายการอยู่ด้วยได้พูดแทรกขึ้นมาว่า "นับเป็นตัวเลยเหรอครับ" นายทักษิณ เลี่ยงตอบว่า "มาอยู่ต่างประเทศนาน ภาษาไทยเริ่มไม่แข็งแรง"
นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า ตนอยากบอกคนเสื้อแดงทั้งหลาย ความเป็นมนุษย์สำคัญที่สุด มนุษย์ต้องรู้จักบาปบุญคุณโทษ รู้เจ็บรู้ปวด ต่อมาคือความเป็นคนไทย ต้องมองคนไทยอย่างคนไทยด้วยกัน
"และความเป็นนักประชาธิปไตย ต้องอยู่กับประชาธิปไตย ไม่ใช่เดี๋ยวเป็นประชาธิปไตย เดี๋ยวเป็นประชาธิปตาย คนเสื้อแดงรักประชาธิปไตยสำคัญสุด" นายทักษิณ กล่าว