xs
xsm
sm
md
lg

คำเตือนสยองถึง “โทนี่” อย่าลำพอง จบไม่สวย !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทักษิณ ชินวัตร - จตุพร พรหมพันธุ์
เมืองไทย 360 องศา

“ถ้าไม่เปิดประตูเริ่มต้น ร่าง พ.ร.บ.การนิรโทษกรรมสุดซอยแล้ว อีกทั้งโครงการจำนำข้าว ถ้าทำกันอย่างตรงไปตรงมา การยึดอำนาจก็ไม่คงเกิดขึ้นเช่นกัน เพราะเมื่อ ป.ป.ช.เตือนมา ก็ควรยุติ ซึ่งครั้งนั้นผมได้ทักทวงไว้แล้ว แต่กลับเหลิงอำนาจ ไปมอบประโยชน์ให้เจ้าเดียวส่งออกข้าว และยังตั้งลูกเขยเสี่ยส่งออกข้าวเป็นเลขา รมต. มันจึงพัง เพราะเอาคนที่มีพฤติกรรมเจ้าของธุรกิจส่งออก มานั่งอยู่ในกระทรวง ท้ายที่สุดจึงกลายเป็นปัญหา”

“ทุกวันนี้ (เขา) ยังคิดว่าเป็นคนถูก ยังคิดว่าตัวเองใหญ่ ใครอยากเข้าพรรคต้องไปขอโทษ ผมอยากจะบอกสักคำว่า ในโลกการเมืองไม่มีใครใหญ่จริงหรอก สิ่งสำคัญที่จะบอก คือ คุณชนะ (เลือกตั้ง) อยู่แล้ว ถ้าทำตัวเหมือนเดิม ก็จะจบแบบเดิมอีก ส่วนชนะแล้วเป็นผู้ปกครองหรือเปล่าไม่รู้ แต่ถ้าเป็นผู้ปกครอง ทำนิสัยแบบเดิมก็จะจบแบบเดิม และคนที่หนักที่สุดจากต้นเหตุของคุณ ก็คือ ประชาชน คุณเอาชีวิตเลือดเนื้อประชาชนไปละเลงเล่นได้อย่างไร เอาชัยชนะที่แลกมาทั้งชีวิต แต่ท้ายที่สุดใครก็ไม่รู้ หน้านวลทั้งหลายก็มากอบโกยเอา แล้วไม่รักษาประชาธิปไตยเอาไว้ได้ วันนี้ก็มาอีหรอบเดิม”

“ผมไม่ได้ท้า หากจะมองเป็นศัตรูก็เรียงหน้ากันมาให้เป็นเรื่องเป็นราวกันเลย ที่มาเตือนสติแรงๆ นั้น จะบอกว่า บ้านเมืองฉิบหายวายวอดรอบนี้ ถ้าปกครองแบบเดิมๆ ให้รัฐมนตรีทำงานแค่เซ็นหนังสือ แล้วให้คนนอกกระทรวงที่ใหญ่กว่าไปจัดการ มันจะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้ เพราะจะเข้าอีหรอบเดิมอีก”

นั่นเป็นข้อความบางช่วงบางตอนของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่โพสต์เตือน นายทักษิณ ชินวัตร รวมไปถึงพรรคเพื่อไทย ว่า อย่าลำพอง หากชนะแล้วยังทำตัวแบบเดิม โดยเอาชีวิตและเลือดเนื้อของประชาชนมาละเลงเล่น ก็จะจบแบบเดิม

แน่นอนว่า ในสายตาหลายคนอาจมองว่าคำพูด หรือคำเตือนของ “ตู่” นายจตุพร พรหมพันธุ์ อาจไม่มีน้ำหนักมากนัก สำหรับ นายทักษิณ ชินวัตร หรือ “โทนี่” รวมไปถึงคนในครอบครัวเพื่อไทย แต่หากมองในมุมที่เป็นแกนนำมวลชนคนเสื้อแดง และเคยนำมวลชนประท้วงยืดเยื้อเพื่อให้นายทักษิณ และคนในครอบครัว กลับคืนสู่อำนาจมายาวนาน และหากมองในลักษณะของคนที่รู้ตื้นลึกหนาบางภายใน มันก็น่าสนใจไม่น้อย

ที่ผ่านมา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็ยังเคยแฉพฤติกรรมความไม่ชอบมาพากลของคนในครอบครัวนี้ออกมาให้เห็นมาแล้ว อย่างน้อยก็ในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเมื่อปลายปี 2564 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่คราวนั้นเขาได้เปิดโปง “เจ๊ ด.” จนเห็นภาพ

การส่งคำเตือนจาก นายจตุพร พรหมพันธุ์ คราวนี้จะว่าไปแล้วถือว่า “แรง” และ “ตรงตัว” เพราะพุ่งเป้าไปที่ “คนแดนไกล” คือ นายทักษิณ ชินวัตร ในความหมายว่า “อย่าลำพอง” และ “อย่าทำนิสัยแบบเดิม เพราะจะจบแบบเดิม”

น่าสนใจก็คือ นอกเหนือจากคำเตือนดังกล่าว นายจตุพร ยังเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง แต่ก็เหมือนกับหลายคนที่ยังไม่มั่นใจว่าจะได้เป็นรัฐบาล แต่ขณะเดียวกัน หากเป็นรัฐบาลแล้วยังลำพองแบบเดิม มันก็จะจบไม่สวย เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่มีการ “ออก พ.ร.บ.สุดซอย” และนโยบายจำนำข้าวที่ไม่ชอบมาพากล โดยที่ไม่ฟังใคร มันก็มาถึงจุดจบดังที่เห็น

อย่างไรก็ดี คำพูดหรือคำเตือนดังกล่าวไปสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยที่ชัดเจน อย่างน้อยล่าสุดระหว่างการเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา ที่นำโดย “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่ประกาศชัดเจนว่าพร้อมสำหรับการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค และหนึ่งในเป้าหมายสำคัญ คือ “พาพ่อกลับบ้าน” แม้ว่าจะไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะกลับมาแบบไหน เพราะนายทักษิณ ชินวัตร เป็นคนไทยสามารถกลับมาได้ตลอดเวลา เพียงแต่ว่าเขาถูกศาลพิพากษาความผิด ถูกสั่งจำคุกในหลายคดี หากกลับมาก็ต้องติดคุกเสียก่อน แต่หากในความหมายที่ว่าจะมีการ “ออกกฎหมายนิรโทษกรรม” เหมือนกับที่เคยทำในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็น่าเชื่อว่าสร้างปัญหาความขัดแย้งครั้งใหญ่อีกครั้งแน่นอน

“พรรคเพื่อไทยทำใหญ่เพื่อไทยทุกคน เอาลุงกลับบ้าน เพื่อไทยมาแล้ว และเอาลุงโทนี่กลับมาเลี้ยงหลานด้วย ท่ามกลางเสียงปรบมือกระหึ่มอย่างใหญ่ของพรรคเพื่อไทยที่ปราศรัยในวันนี้”

คำพูดของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กของนายทักษิณ กล่าวบนเวที ที่จังหวัดอุดรธานี ยังตอกย้ำถึงท่าทีที่ชัดเจนว่า หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของพรรค ก็คือ “พาทักษิณกลับบ้าน” ขณะเดียวกัน หากพิจารณาถึงการรณรงค์หาเสียของพรรคที่เร้าให้เลือกพรรคเพื่อไทยแบบ “แลนด์สไลด์” ให้เกิน 251 ที่นั่ง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว หรือจัดตั้งรัฐบาลผสมแบบน้อยพรรค ซึ่งหากได้จำนวนส.ส.ตามเป้าดังกล่าวมันก็เหมือนกับการ “เคลม” ไปในตัวว่าเป็นเจตนารมณ์ของชาวบ้านที่ต้องการให้ นายทักษิณ กลับมาหรือเปล่า

แม้ว่าหลายคนจะเห็นคล้อยตามว่านาทีนี้มีความเป็นไปได้สูงที่พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งมีจำนวน ส.ส.มากเป็นอันดับหนึ่ง แต่ไม่เชื่อว่าจะชนะแบบแลนด์สไลด์ หรือกวาดกันแบบเกือบยกภาคเหมือนเมื่อหลายปีก่อน เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป และที่สำคัญ องค์ประกอบภายในพรรคก็เปลี่ยนไป คู่แข่งก็เข้มแข็งขึ้นกว่าเดิมและหลากหลาย

อย่างน้อยก็ได้เห็นบรรดามวลชนที่เคยสนับสนุนก็กระจัดกระจายแยกย้ายออกไปหลายพรรคการเมือง ไม่ได้มีเอกภาพเหมือนเดิม มันถึงได้เห็นการออกมาแฉโพยของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.ที่ส่งคำเตือนแรงๆ ไปถึง นายทักษิณ ชินวัตร “นายใหญ่” หรือ “เจ้าของคอก” โดยตรงว่า อย่าลำพอง อย่าคิดว่าประชาชนเป็นของตาย แล้วจะจบไม่สวย แม้ว่าสำหรับ “ตู่ จตุพร” สำหรับ นายทักษิณ อาจจะไม่มีน้ำหนัก แต่ในคำเตือนของ นายจตุพร มันก็ได้เห็นเรื่องอื้อฉาว ที่เปิดโปงออกมาจากอดีตคนใน ที่เคยรับใช้มาแล้วให้เห็น ซึ่งก็เป็นผลดีในบางแง่มุมได้เหมือนกัน !!


กำลังโหลดความคิดเห็น