xs
xsm
sm
md
lg

“เพื่อไทย” กระแสแรง ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 แพทองธาร ชินวัตร กับแกนนำพรรคเพื่อไทย
เมืองไทย 360 องศา

เชื่อว่า ตลอดทั้งวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา แทบทุกสายตา โดยเฉพาะบรรดาคอการเมือง คงจับจ้องไปที่งานเปิดตัว “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่า จะยิ่งใหญ่อลังการ มีความน่าสนใจแค่ไหน เพราะตามข่าวบอกว่าจะมี ส.ส. และนักการเมือง หลายสิบคนไปร่วมงาน รวมไปถึงมีมวลชนมาร่วมอีกนับหมื่นคน

แน่นอนว่า ในทางการเมืองแล้ว ทุกพรรคย่อมต้องจับตามอง ไม่เว้นแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทย ที่ถือว่าเป็น “ฝ่ายตรงข้าม” โดยตรง รวมไปถึงบรรดานักกิจกรรมทางการเมืองที่นอกจากจับตาธรรมดาแล้วยังต้อง“จับผิด” ในทางกฎหมายแบบทุกเม็ดกันอีกด้วย แต่อย่างไรก็ดี เท่าทีสังเกตปฏิกิริยาแล้วก็ต้องโฟกัสไปที่พรรคเพื่อไทยเป็นหลักก่อน ที่ดูเหมือนกับว่าแสดงออกล้ำหน้ากว่าใคร ทั้งในลักษณะแสดงอาการเยาะเย้ย ถากถางแบบไม่ให้ราคาอะไรประมาณนั้น

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี วันที่ 9 ม.ค. พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นการกระตุ้นให้พรรคเพื่อไทย เร่งเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ ว่า ไม่มีผลกับพรรคเพื่อไทย เขาจะเปิดตัวก็เปิดไป พรรคเพื่อไทย กำหนดจังหวะเวลาที่เหมาะสมจะเปิดตัวว่าที่แคนดิเดตนายกฯเอาไว้แล้ว โดยหลักพรรคเพื่อไทยอาจจะเปิดตัวแคนดิเดตก่อนรัฐบาลครบวาระ 23 มี.ค. ถือเป็นกลไกต้องนำไปรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง แต่ถ้ามีการยุบสภา เราก็พร้อมเปิดตัวเลย

“ถ้ามีสัญญาณของ ส.ส.ที่ประกาศตัวว่าจะไปอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก และไปอยู่พรรคใหม่ มีผลให้สมาชิกภาพหมดไป สัญญาณนั้นค่อนข้างชัดว่าจะไม่ยุบสภา เพราะเขาเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ ส.ส.พวกนั้นยังอยู่ และจะให้อยู่ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เพื่อทำหน้าที่ในสภา คือสัญญาณยุบสภา 100% เพราะสามารถสังกัดพรรคใหม่ทันภายใน 30 วัน” นพ.ชลน่าน กล่าว

ด้าน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้เคยอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ เอื้อประโยชน์ให้เจ้าสัว มีการซื้อขายที่ดิน บ่อตกปลาย่านบางบอนกว่า 600 ล้านบาท และครั้งนี้ทำไม พล.อ.ประยุทธ์ ต้องไปเปิดตัวที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพราะค่าใช้สถานที่แพง คงไม่น่าจะต่ำกว่า 3 พันบาท มีการจ่ายค่าใช้สถานที่หรือไม่ ตอนเปิดตัวพรรค รทสช. ที่สโมสรราชพฤกษ์ เป็นของเจ้าสัวชื่อดังอีก ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ เรื่องนี้ขอฝาก กกต.ไปดูการเปิดตัว มีการจัดเลี้ยง หรือไม่ สำหรับพรรค รทสช.ในภาคอีสานแพ้แน่นอน เป็นศูนย์ ไม่ได้ ส.ส.สักเสียงเดียว ไม่รู้ พล.อ.ประยุทธ์ ไปสิงห์บุรีทำไมซ้ำๆ หลายรอบ ตั้งแต่เป็นนายกฯ 8 ปี ไม่เคยไปมหาสารคามเลย ซึ่งชาวบ้านเขารอต้อนรับอยู่ แต่คงไม่ได้มีดอกไม้มารอต้อนรับแน่นอน

ก่อนหน้านั้น พรรคเพื่อไทยได้เคยออกแถลงการณ์แสดงความมั่นใจว่าพรรคจะชนะการเลือกตั้งแบบ “แลนด์สไลด์” ได้ ส.ส.เกิน 251 ที่นั่ง สามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว โดยไม่จำเป็นต้องจับมือกับพรรคการเมืองอื่น สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม

“พรรคเพื่อไทย ขอยืนยันอย่างหนักแน่นอีกครั้ง ว่า พรรคไม่ได้จับมือกับพรรคการเมืองใดในการตั้งรัฐบาลตามที่เป็นข่าว และไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรก็ตาม พรรคขอกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่า นี่คือท่าที และจุดยืนอันมั่นคงของพรรคมิเคยเปลี่ยนแปลง”
พรรคเพื่อไทยจึงขอเรียนยืนยันตามดังกล่าวข้างต้น พรรคจะมุ่งมั่นตั้งใจเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง และนำเสนอนโยบายเพื่อตอบโจทย์ประเทศ แก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ชีวิตของคนไทยดีขึ้น รวมทั้งการทำให้กฎกติกาสูงสุดของประเทศมีความเป็นประชาธิปไตย เพื่อพี่น้องคนไทยทุกคน

การออกแถลงการณ์ 3 ข้อข้างต้น ของพรรคเพื่อไทย เนื้อหาหลักๆ เน้นย้ำในเรื่องเป้าหมายแลนด์สไลด์ ชนะเลือกตั้งให้เกิน 251 เสียง เพื่อเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก (ล่าสุดจะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว) สอง ยืนยันว่า ยังไม่ได้จับมือกับพรรคใดตั้งรัฐบาลก่อนการเลือกตั้ง และหลักเกณฑ์อุดมการณ์ประชาธิปไตยในการตั้งรัฐบาล

นั่นคือ ข้อความบางตอนของแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย ที่เน้นย้ำไม่จับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคใด โดยพรรคมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้งได้ ส.ส.251 เสียงขึ้นไป ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการออกแถลงการณ์ก่อนการเลือกตั้ง ทางหนึ่งอาจเป็นความต้องการเพื่อดับกระแสข่าว “ดีลลับ” ก่อนหน้านั้นก็เป็นได้

แต่ถึงอย่างไรแม้ว่าเป็นแถลงการณ์ของพรรค แต่หากพิจารณาตามความเป็นจริงอีกด้านหนึ่ง ก็คือ “คนที่พูดไม่มีอำนาจ” แต่คนที่มีอำนาจ ยังไม่ได้พูด ทำให้บางครั้งอาจไม่มีน้ำหนักก็เป็นได้ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องรอดู “หน้างาน” กันอีกทีหนึ่งว่า ในที่สุดแล้วจะออกมาแบบไหน

อย่างไรก็ดี หากพิจารณากันตามความเป็นจริงในเรื่องความนิยม พิสูจน์ได้จากทุกโพลที่ออกมาล้วนตรงกันว่า พรรคเพื่อไทยได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง จะชนะการเลือกตั้งได้ส.ส.มากที่สุด แทบจะไม่มีใครโต้แย้ง แต่หากถามว่าจะชนะแบบแลนด์สไลด์ ได้หรือไม่ ยังเป็นคำถามตัวโตๆ จนแทบจะเป็นไปไม่ได้ หากพิจารณาจาก “กระแส” ที่เชื่อว่า เมื่อเทียบกับยุครุ่งโรจน์ เมื่อสิบกว่าปีก่อน แม้ว่าจะพยายามดัน “ลูกสาวคนเล็ก” ของนายทักษิณ ชินวัตร คือ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยลงชิงเก้าอี้นายกฯ มันก็ยังไม่ปังแบบถึงขั้นสุด

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาถึงคู่แข่ง นาทีนี้ถือว่ามีหลายพรรค แต่ละพรรคล้วน “มีของ” ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย ที่นาทีนี้ถือว่าเป็นคู่แข่งที่มีผลในทางยุทธศาสตร์ในภาคอีสานโดยตรง ไม่เหมือนกับเมื่อหลายปีก่อนที่แข่งกับประชาธิปัตย์ที่มีฐานเสียงในภาคใต้ คนละพื้นที่ พรรคก้าวไกล ที่แม้จะดูเป็นมิตร แต่ทางลึกแล้วมีฐานใกล้เคียงกัน เป็นคู่แข่งกระจายไปแทบทุกภาค หรือแม้แต่พรรคไทยสร้างไทยของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็พอมีคนรู้จักในภาคอีสานเหมือนกัน ขณะที่ภาคเหนือหลายพื้นที่ ก็มีคู่แข่งที่เป็น “บ้านใหญ่” จากพรรคพลังประชารัฐ

นี่ยังไม่รวมถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่กำลังมี “แม่ทัพใหญ่คนใหม่” อย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เพิ่งเปิดตัวได้อย่างอลังการ ถือว่าก็พอมีจุดขาย อย่างน้อยก็ถือว่าเป็น “ลูกอีสาน” พันธุ์แท้เหมือนกัน มาแบ่งแต้มได้เหมือนกัน

ดังนั้น หากพิจารณาตามรูปการณ์เท่าที่ประมวลออกมา ไม่ว่าจะผ่านโพลสำนักต่างๆ หรือพิจารณาจากความเคลื่อนไหวสะท้อนออกมาเป็นกระแส ต้องยอมรับตรงกันว่าพรรคเพื่อไทยยังได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง น่าจะชนะเลือกตั้ง ได้ ส.ส.จำนวนมากที่สุด แต่หากบอกว่าจะได้ที่นั่งเกิน 251 ที่นั่ง ในความเป็นจริงแล้วน่าจะเลื่อนลอยจนแทบไม่มีทางเป็นไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องเจอกับคู่แข่งที่แข็งแกร่ง และมีอำนาจรัฐอยู่ในมือเสียด้วย !!


กำลังโหลดความคิดเห็น