เมืองไทย 360 องศา
แม้ว่าแทบทุกพรรคการเมืองต่างเดินสายหาเสียงและเปิดตัวผู้สมัครกันอย่างคึกคัก แต่ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษในเวลานี้ ก็คือ ความเคลื่อนไหวของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค เนื่องจากเป็นพรรคที่เชื่อว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะเข้ามาร่วมกิจกรรมกับพรรคในอีกไม่นาน โดยเมื่อพิจารณาจากท่าทีแล้ว มั่นใจว่า จะมีการเปิดตัวหลังปีใหม่ ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ระบุเอาไว้ก่อนหน้านี้
เมื่อมั่นใจแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมาร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยคาดเดากันว่า จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค และนั่งตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรค หรือ ประธานพรรค ในแบบนักการเมืองลุยทำศึกเลือกตั้งแบบเต็มตัว ในแบบ “กติกาประชาธิปไตย” ปิดเงื่อนไขเสียงโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม เพื่อสร้างความชอบธรรมให้มากที่สุด
สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังจากที่ลงไปเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งที่จังหวัดชุมพร มีการเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัครที่ล้วนเป็นคนใกล้ชิด “ลูกหมี” นายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร และ อดีตแกนนำ กปปส. หรือก่อนหน้านั้น ก็ไปเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรคที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
อย่างไรก็ดี ที่น่าจับตาก็คือ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย แกนนำพรรคหลายคน เดินทางไปทำกิจกรรมทางการเมือง และพบมวลชนผู้สนับสนุนของพรรคที่จังหวัดอุดรธานี และที่น่าสังเกต ก็คือ มีมวลชนคนเสื้อแดงจำนวนมากมาร่วม
มีรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ประชุมมณฑาทิพย์ฮอลล์ จังหวัดอุดรธานี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ รองหัวหน้าพรรค และผู้บริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ พบปะผู้สนับสนุนพรรค และหารือร่วมกับผู้แสดงความจำนงลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง โดยมี นางบุญญาพร นาตะธนภัทร ส.ส.พรรครวมแผ่นดิน มาร่วมงานนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางมาจังหวัดอุดรธานี และขอนแก่น ของนายพีระพันธุ์ และคณะ ในวันนี้ ถือเป็นการลงพื้นที่ภาคอีสานครั้งแรกของพรรครวมไทยสร้างชาติ และเป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้สนับสนุนพรรคประมาณ 400 คน ที่ได้มาพบปะกับนายพีระพันธุ์และแกนนำนั้น ล้วนเป็นอดีตกลุ่มคนเสื้อแดงอุดรธานี ซึ่งเป็นกลุ่ม นปช.อุดรฯ เก่า นำโดย นางรัตนาวรรณ สุขศาลา หรือ ครูนาง ซึ่ง นางรัตนาวรรณ เปิดเผยว่า กลุ่มของเราเป็นคนละกลุ่มกับ นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดร และตอนนี้บ้านเราไม่มีสีแล้ว และมารวมกันเพื่อรวมไทยสร้างชาติ รวมกันให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับจังหวัดอุดรธานี มีเขตเลือกตั้งทั้งหมด 9 เขต ซึ่ง นายวิทยา กล่าวว่า แต่เดิมทีรวมไทยสร้างชาติเราคิดว่าจะหาผู้สมัครมาลงไม่ได้ แต่จนถึงปัจจุบันนี้มีคนมาแสดงเจตจำนงกับเราแล้วมากกว่า 20 คน
นายพีระพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ถึงการปรากฏตัวของแนวร่วม นปช. ในงานพบปะผู้สนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติ จ.อุดรธานี จะเป็นการดึงแนวร่วมเสื้อแดงเข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ให้เรียกว่า เป็นการทำความเข้าใจ เพราะทุกคนมีแนวทางของตนเอง เราดึงกันไม่ได้ เพียงแต่ว่าถ้ามีความคิดเหมือนกัน เป้าหมายตรงกัน ก็มาทำงานร่วมกันเพื่อชาติบ้านเมือง เรื่องนี้จะว่ายากก็ไม่ถูก จะว่าง่ายก็ไม่ใช่ ทาง นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค ก็พูดคุยกันมาหลายเดือน ตอนแรกคิดว่ายาก ตอนนี้ล้นแล้ว
เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้ได้พูดคุยเพื่อเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แล้วหรือยัง นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า หากยังไม่ชัดเจนอะไร ตนก็ไม่กล้าเชิญ เห็นครั้งหลังท่านบอกหลังเอเปก หลังปีใหม่ แต่ท่านจะตัดสินใจเมื่อไร ตนก็ไม่รู้ ต้องถามท่าน ตนก็ไม่กล้าถามท่านที่เป็นผู้บังคับบัญชา
เมื่อถามย้ำว่า ได้มีโอกาสพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ แล้วหรือยัง นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เพิ่งได้มีโอกาสเจอนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ท่านถามความเห็นเรื่องกฎหมาย ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และอีกฉบับคือ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 30 พ.ย.ที่จะถึงนี้ว่าจะมีผลทางการเมืองอย่างไรบ้าง แต่ไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือเรื่องอื่นแต่อย่างใด
มีรายงานว่า นอกเหนือจากจังหวัดอุดรธานีแล้ว โดยหลังจากนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติ มีกำหนดลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งน่าสังเกตก็คือ ทั้งสองจังหวัดดังกล่าวมีมวลชนคนเสื้อแดงมารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก ซึ่งในทางการเมืองก็รับรู้กันมานานแล้วว่า ทั้งอุดรธานี และขอนแก่น ในอดีตเคยมีความหมายเปรียบเทียบว่าเป็น “เมืองหลวง” ทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยในภาคอีสานเลยทีเดียว แต่มาวันนี้เมื่อมีการแยกกลุ่มออกมาสนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มั่นใจว่า จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี อีกรอบ ทำให้เป็นที่จับตาเป็นพิเศษ
ขณะเดียวกัน ในทางการเมือง ถือว่าเป็นการรุกคืบดึงมวลชนจากพรรคเพื่อไทยเข้ามาสนับสนุนอีกกลุ่มใหญ่ได้เหมือนกัน อีกทั้งยังมองเห็นว่าเป็นการขยายพื้นที่เข้าไปในภาคอีสาน ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์หลัก เนื่องจากมีจำนวน ส.ส.มากที่สุด ก็ต้องมีเป้าหมายแบ่งมาให้ได้มากที่สุด หลังจากก่อนหน้านี้พรรครวมไทยสร้างชาติ เริ่มปักธงในพื้นที่ที่คาดว่า เป็น “ฐานเสียงหลัก” คือภาคใต้มาแล้ว
นอกเหนือจากนี้ จากการคำพูดดังกล่าวของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ระบุว่า “เพิ่งมีโอกาสได้เจอกับนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน” ที่ผ่านมา แม้ว่าจะเปิดเผยว่า “ท่าน (นายกฯ) ถามความเห็นเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับพรรคการเมือง และ กม.เลือกตั้ง ว่าจะมีผลทางการเมืองอย่างไร” ซึ่งมันก็สอดคล้องกับรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียก นายพีระพันธุ์ และ นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ พร้อม ส.ส.จำนวนหนึ่งเข้าพบที่บ้านพัก ดังนั้น เมื่อมาปะติดปะต่อกัน มันจึงเข้าเค้า และเป็นความจริงในที่สุด
เมื่อพิจารณาจากความเคลื่อนไหวทั้งหมด จะเห็นภาพการรุกคืบขยายพื้นที่ข้ามมาในภาคอีสาน โดยเฉพาะการดึงมวลชนคนเสื้อแดงที่เคยเป็นฐานของพรรคเพื่อไทยมาสนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเชื่อว่า จะชูภาพ “ลูกอีสาน” ของเขาในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งงานนี้ถือว่าเปิดหน้าออกมาค่อนข้างชัดแล้ว!!