“ดร.อานนท์” ถามสามกีบ “ทำไมกลัวผม-กลัวหนังสือที่ผมเขียน” แฟน “ลุงตู่” ตอกหน้า “เจี๊ยบ” อยากชวนไป “ดงสลิ่ม”

“ดร.อานนท์” โต้สามกีบ ถาม “ทำไมกลัวผม-กลัวหนังสือที่ผมเขียน” ชี้ กลัว “พยานผู้เชี่ยวชาญคดีมาตรา 112” จะมีน้ำหนัก “เจี๊ยบ” โดน! “แฟนลุงตู่” ท้าทาย “ทำไมชอบว่าท่านประยุทธ์” “เทพมนตรี” ซัดก้าวไกลถูกครอบงำ

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (6 พ.ย. 65) เพจเฟซบุ๊ก ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ของ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ โพสต์ภาพปกหนังสือที่ตัวเองเขียน ประกอบกับโพสต์สามกีบ พร้อมข้อความระบุว่า

“ทำไมต้องกลัวผมและกลัวหนังสือที่ผมเขียนขนาดนั้น

เขาเกรงว่า หนังสือเล่มนี้จะทำให้ผมในฐานะพยานผู้เชี่ยวชาญคดีมาตรา 112 มีน้ำหนักน่าเชื่อถือมากขึ้น ในสายตาของตุลาการ
ผมน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือ ถ้าไม่ได้ทำผิดอะไร ทำไมต้องกลัวผม กลัวหนังสือที่ผมเขียนและกลัวข้อเท็จจริงเล่า

ขอบคุณที่ช่วยโฆษณาให้ สามกีบทั้งหลายจงซื้อไปอ่านเถิด
https://www.facebook.com/BaanPhraAthit/posts/pfbid02JQoMspe3vFDM8HoUFtsZ2R2TwvnPPXud3sL28jtgZ7wyMevG2dxZubSB5LquPxxjl


ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก การเมืองไทย ในกะลา แชร์เพจเฟซบุ๊ก มัมดิวไดอารี่ และ ทวิตเตอร์ “เจี๊ยบ ก้าวไกล” หลังฝ่ายแรก ชวนไปดงสลิ่ม พร้อมจะถามคำถาม “ตอกหน้า”

“คุณแม่อยากเชิญเจ๊เจี๊ยบ อมรัตน์ มาถ่ายรายการไปเดินตลาด อตก. ดงสลิ่ม ...ซื้อของมานั่งกิน สไตล์เจ๊เจี๊ยบ พร้อมถามคำถามเจ๊ตอกหน้าแทนเพื่อนๆ สลิ่มของคุณแม่ ว่า “ทำไมชอบว่าท่านประยุทธ์ ท่านไปทำอะไรให้เดือดเนื้อร้อนใจ อยากให้ท่านปรับปรุงอะไรให้บอก”
มัมดิวไดอารี่
6 พฤศจิกายน 2565
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=190006970204060&id=100075842742361
................................................
“มัมคะ
การเลือกตั้งใหญ่ใกล้จะมาถึงแล้ว
เราก้าวข้ามสิ่งโสโครกกันเถอะ
รักมัมดิว 🌹”
อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล
ผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล
6 พฤศจิกายน 2565
https://twitter.com/AmaratJeab/status/1589050830900334592...”

ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักประวัติศาสตร์ โพสต์ภาพกราฟิกเป็นรูปของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และมีการยกคำพูดเกี่ยวกับ ม.112 และภาพการแถลงข่าวของพรรคก้าวไกล ถึงจุดยืนต้องการแก้ ม.112 พร้อมข้อความระบุว่า...

“อดีตไล่ล่าปัจจุบัน

พรรคก้าวไกลแถลงจุดยืนเรื่องมาตรา 112 หลังจากปิยบุตรออกมาพูดในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน คือ ระหว่าง 2-4 พ.ย. 64 แถมพรรคก้าวไกลประกาศอย่างไม่กลัวว่า พรรคของเขาสืบทอดมาจากพรรคอนาคตใหม่

เข้าข่ายการถูกครอบงำจากทีมบริหารเก่าพรรคอนาคตใหม่ใช่หรือไม่

การยุบพรรคก้าวไกล อาจเกิดขึ้นจากการกระทำของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดพิธาใช่หรือไม่ ที่เอาอย่างปิยบุตร คิดๆ” 

แน่นอน, ต้องยอมรับว่า ความขัดแย้งระหว่าง “สามกีบ” กับ “สลิ่ม” ในสังคมไทย นับวันจะไม่แค่ “ความเห็นต่าง” หากแต่ อาจกลายเป็น “ศัตรูทางการเมือง” ไปแล้ว

ที่สำคัญ อะไรก็ตาม ที่เป็นประเด็นของฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายหนึ่งก็จะต้องเป็นฝ่ายต่อต้าน แม้ว่าประเด็นนั้นจะดีหรือไม่อย่างไร ก็ไม่มีการแยกแยะแต่อย่างใด จนกลายเป็นว่า ความเป็น “สามกีบ” หรือ “สลิ่ม” สำคัญเหนือเหตุผล

ทำให้อดคิดถึง “วัยรุ่น” ในหมู่บ้านที่ยกพวกตีกันหน้าเวทีหมอลำไม่ได้ เหตุเพราะเป็น “วัยรุ่น” คนละหมู่บ้านเท่านั้นเอง จะเอากันอย่างนั้นหรือ?