“ปวิน” ไม่เห็นด้วย ข้ออ้างต่างชาติซื้อที่ดินของไทย คือ การขายชาติ เสียอำนาจอธิปไตย ซัด เอาอะไรคิด ปัญญาอ่อน “เพจดัง” เทียบยุค “ทักษิณ” กับ “ลุงตู่” ต่างแค่เงื่อนไขรัดกุม “เพจลุงตู่ตูน” ชี้ชัด “ข้อดี-ข้อเสีย”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (29 ต.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ของ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต และผู้ต้องหาคดี 112 ลี้ภัยในญี่ปุ่น โพสต์ข้อความ ระบุว่า
“มันจะอะไรกันนักหนาเรื่องต่างชาติซื้อที่ดินของไทย อะไรคือการขายชาติ คือ เอาอะไรคิดว่า ต่างชาติถือครองที่ดินในไทยคือเราเสียอำนาจอธิปไตย ถ้าจะถึงขั้นนั้น คือแม่งต้องซื้อพื้นที่ขนาดใหญ่ เหมือนที่อเมริกาซื้ออลาสก้าจากรัสเซีย อีKwai เลิกปัญญาอ่อนซะที นี่มันโลกแห่งทุนนิยม โลกแห่งโลกาภิวัตน์ ไม่ต้องห่วงว่าใครจะยึดพื้นที่ของไทย น้ำแม่งท่วมขนาดนี้ ยึดไปปลูกสะระแหน่หรอคะ?”
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์หลักฐาน พร้อมข้อความระบุว่า
“ปี 2545 ก็ให้ซื้อที่ดิน 1 ไร่นะ ไม่ใช่เช่า
ไปอ่านเอา
http://dspace.spu.ac.th/bitst.../123456789/1550/12/appen.pdf
ก่อนหน้านี้ The METTAD โพสต์เปรียบเทียบยุค “ทักษิณ” กับ “ลุงตู่” โดยระบุว่า
“เพื่อไทย ตั้งโต๊ะคัดค้านการแก้ไขกฎกระทรวง โดยบอกว่า
1. สมัยทักษิณทำเพราะ IMF แต่ยุคนี้ทำเพราะบริหารล้มเหลว (โควิดไม่นับ)
2. เงื่อนไข การเพิ่มประเภทและทางเลือกในการลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดการลงทุนในภาคธุรกิจที่แท้จริง เปิดโอกาสให้นักลงทุนในตลาดการเงินที่เข้ามาหาประโยชน์ระยะสั้น (แต่สมัยทักษิณ ไม่มีเงื่อนไขอะไรเลย แค่มีเงินลงทุนก็ซื้อได้)
3. แต่ถ้าคัดค้านไม่สำเร็จ ถ้าเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล #จะแก้กลับไปเป็นเหมือนเดิม (ปี 45)
😂😂😂😂😂
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ออกแถลงการณ์ มีเนื้อหาระบุว่า มีความวิตกกังวล และไม่เห็นด้วยกับร่างกฎกระทรวงที่รัฐบาลจะออกตามประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อให้คนต่างด้าวถือครองที่ดินในประเทศไทยได้
เนื่องจากการถือครองที่ดินของคนต่างด้าวจะมีผลกระทบต่อชีวิตของคนไทยอย่างกว้างขวาง แทนที่จะคำนึงถึงการช่วยเหลือคนไทยจำนวนมากที่ยังไม่มีบ้านและที่ดินเป็นของตัวเองทั้งในปัจจุบัน และในอนาคตที่ลูกหลานเติบโตขึ้นมาจะต้องซื้อบ้านและที่ดินในราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นจากกลไกการตลาดเช่นนี้ พรรคเพื่อไทย เห็นว่า เนื้อหาของกฎกระทรวงปี 2545 ในเรื่องเดียวกันนั้น มีเนื้อหาที่เข้มงวดและกำหนดเงื่อนไขที่คนต่างด้าวซื้อที่ดินได้ยากกว่า โดยพรรคมีความเห็นดังนี้
1. การออกกฎกระทรวงในปี 2545 นั้น มีบริบทที่แตกต่างกับปี 2565 เนื่องจากรัฐบาลในปี 2545 ภายใต้การนำของพรรคไทยรักไทยนั้น เพิ่งเข้ามาบริหารประเทศในปี 2544 ภายหลังวิกฤตต้มยำกุ้งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น และประเทศไทยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ตามข้อตกลงที่มีกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) โดยเฉพาะเงื่อนไขที่ต้องแก้ไขกฎหมายในบางเรื่อง และชำระหนี้ไอเอ็มเอฟ แต่การจะออกกฎกระทรวงของรัฐบาลขณะนี้ เพื่อแก้วิกฤตเศรษฐกิจซึ่งเกิดจากความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาลตนเอง ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานชี้ชัดถึงความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาลนี้
2. พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับการลดเงื่อนไขให้คนต่างด้าวซื้อที่ดินได้ง่ายขึ้นในร่างกฎกระทรวง ไม่ว่าจะเป็นการลดเงื่อนไขระยะเวลาการลงทุนลงจาก 5 ปี เหลือ 3 ปี และการเพิ่มประเภทและทางเลือกในการลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดการลงทุนในภาคธุรกิจที่แท้จริง สร้างงาน สร้างรายได้ให้คนไทย แต่กลับเปิดโอกาสให้นักลงทุนในตลาดการเงินที่เข้ามาหาประโยชน์ระยะสั้นและถอนทุนออกไปได้โดยง่าย โดยไม่มีพันธะต่อประเทศไทย มีโอกาสได้สิทธินี้
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพจเฟซบุ๊ก “ลุงตู่ตูน” ที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย กรณีรัฐบาลผลักดันกฎกระทรวง เรื่อง การซื้อที่ดินของคนต่างชาติ เรื่อง “ข้อดี-ข้อเสีย ปมปลดล็อก ให้ชาวต่างชาติซื้อที่ดิน แลกการลงทุน-กระตุ้นเศรษฐกิจ”
ระบุว่า เทียบให้เห็นกันชัดๆ ข้อดี-ข้อเสีย กรอบต่างชาติซื้อที่ดิน เพราะมัวแต่เชื่อพวกปลุกปั่น ประเทศไทยจะติดกับดักตัวเอง ไม่พัฒนาไปข้างหน้า และไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เลย นายกฯ ลุงตู่ ทบทวนข้อดีข้อเสียทั้งหมดแล้ว ก่อนกำหนดหลักเกณฑ์ให้ต่างชาติซื้อที่ดิน โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มมีศักยภาพสูง กระตุ้นการลงทุน ส่งเสริมให้บุคลากรเก่ง เข้ามาเพิ่มเติมองค์ความรู้ให้คนไทย
ที่สำคัญ จัดพื้นที่การซื้อที่ดินในเขตเทศบาล ไม่ให้แย่งซื้อที่ดินชาวบ้าน หรือเกษตรกร พร้อมจำกัดเวลาการทบทวนภายใน 5 ปี หากมีข้อเสียมากกว่าก็สามารถยกเลิกกฎหมายได้ แต่รัฐบาลกลับถูกข้อกล่าวหา “ขายชาติ” จากพวกหวังผลประโยชน์ทางการเมือง ที่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของคนไทย หวังเพียงคะแนนนิยมของตัวเอง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า
“เมืองไทยติดกับดักความขัดแย้งมายาวนาน หากต้องการให้ประเทศเดินหน้า ต้องช่วยกันในทุกมิติ งด ลด การหาประโยชน์ทางการเมืองให้กลุ่มของตัวเอง”
แน่นอน, ปมซื้อขายที่ดินให้ต่างชาติถือครองได้ 1 ไร่ เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ-ลงทุนในประเทศ กลายเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมาจนได้
ทั้งที่เรื่องนี้ ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น หากแต่ในยุค “ทักษิณ” ก็เคยมีมาก่อน เพียงแต่ “ข้ออ้าง” ต่างกันตามสถานการณ์ของแต่ละสมัย ครั้งนี้ก็เพียงปรับแก้เงื่อนไขบางประการเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ ถูกบางฝ่ายโยนผิด “ขายชาติ” ให้หน้าตาเฉย
ความจริง นี่คือ สิ่งที่หลายคนเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงวิสัยทัศน์แก้ปัญหาเศรษฐกิจ และคิดนโยบายที่เป็นการหารายได้เข้าประเทศ อย่างที่ “ทักษิณ” โจมตีว่า “ไม่มีน้ำยา” ไม่มีวิสัยทัศน์มาตลอด แต่พอ พล.อ.ประยุทธ์ ทำเรื่องนี้ กลับกลายเป็น “ความผิด” ทั้งที่ “ทักษิณ” ก็ทำมาก่อน
สรุปว่า “ประยุทธ์” ทำ คือผิด “ทักษิณ” ทำคือ ถูก อย่างนั้นหรือไม่ ที่เล่นการเมืองกัน?
