มีนัย? “เศรษฐา” ทวีตตอบ “วิโรจน์” พท.เป็นรัฐบาล “สุราก้าวหน้า” ก็สำเร็จ “สันติสุข” ฟาด “ทอน-ยุทธ” เบิกเนตร!

พูดแทน พท.ได้? “เศรษฐา” ทวีตตอบ “วิโรจน์” อดีต ส.ส.ก้าวไกล ปมสุราก้าวหน้า เพื่อไทยเป็นรัฐบาลก็สำเร็จ “เพจดัง” แสบ! แซะ กม.สุราก้าวไกล “พระบิดา” ก็ต้มขายได้ “สันติสุข” ฟาด “ทอน” บิดเบือน เบิกเนตร “ยุทธ”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (3 พ.ย. 65) จากกรณีที่สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต หรือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว มีทั้งหมด 7 มาตรา โดยเป็นการพิจารณาวาระ 2 เรียงตามมาตรา ก่อนที่ผลลงมติออกมา ปรากฏว่า ที่ประชุมโหวตไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ด้วยคะแนน 196 ต่อ 194 งดออกเสียง 15 ถือว่าที่ประชุมตีตกร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้


ล่าสุด วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @wirojlak ระบุว่า...

#สุราก้าวหน้า จะสำเร็จได้ คงต้องให้พรรค #ก้าวไกล เป็นรัฐบาล

ด้าน เศรษฐา ทวีสิน บิ๊กบอส แสนสิริ โควททวีตดังกล่าวผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @Thavisin พร้อมข้อความระบุว่า...

เพื่อไทยเป็นก็สำเร็จครับ

ซึ่ง วิโรจน์ มาตอบกลับว่า...

จับมือไว้แล้วไปด้วยกันครับพี่นิด (จากสยามรัฐออนไลน์)

ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า “เศรษฐา” ถูกคาดหมายว่าจะเป็นหนึ่งใน “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” ของพรรคเพื่อไทยนั่นเอง หรือว่า จะเป็นจริง?


ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์กราฟิก เปรียบเทียบ “ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า” พร้อมระบุว่า

“ถ้า #สุราก้าวหน้า ผ่านสภา
พระบิดาก็ต้มเหล้าขายได้
สุราถูกใจ อนามัยถูกลืม”


ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายสันติสุข มะโรงศรี พิธีกรรายการข่าวชื่อดัง ช่อง TOPNEWS โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า

“กฎกระทรวงปลดล็อกการผลิตสุรา มีผลแล้ว

1. ผลิตเหล้าขาว ไม่มีเงื่อนไขกำลังผลิตขั้นต่ำ เปิดโอกาสขยายกำลังการผลิตได้ด้วย

2. แต่พรรคก้าวไกลทำกราฟิกโฆษณา ว่า โรงผลิตเหล้าขาว กฎกระทรวง 65 ยังคงกำลังการผลิตขั้นต่ำ

แล้วนายธนาธรก็นำไปเคลื่อนไหว

3. เอาจริงๆ ตามกฎกระทรวงใหม่ ชาวบ้านไปขอผลิตได้เลย ทั้งเหล้า ทั้งเบียร์ ส่วนจะแข่งกับยี่ห้อที่มีอยู่ได้แค่ไหน ผู้บริโภคตัดสิน ภายใต้กติกาควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เดียวกัน

4. คุณสรยุทธตกข่าวไปได้อย่างไร ครม. สั่งให้กระทรวงคลังไปปรับแก้เพื่อปลดล็อกมาหลายเดือนแล้ว คณะกรรมการพัฒนากฎหมายก็เสนอแนะ

ไม่ใช่เรื่อง “แก้กฎกระทรวงการผลิตสุราใช้เวลาเพียงในชั่วข้ามคืนเลย”

5. แนวทางที่ออกมา คล้ายกับที่ผมโพสต์ไว้ (ลองดูย้อนหลังไปเมื่อวานซืน)

6. พรรคการเมือง ถ้าเอาประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง ก็ต้องยินดีกับชาวบ้าน โอกาสเปิดแล้ว มีผลแล้ว โดยไม่ต้องรอแก้กฎหมายผ่าน ส.ส -ส.ว ซึ่งจะทันสมัยนี้รึเปล่าก็ไม่รู้

ควรสนับสนุนกลุ่มชาวบ้านที่มีศักยภาพได้ขอผลิต เพราะงานอีกเพียบถ้าจะประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ตั้งแง่ปลุกปั่น เพียงเพราะตัวเองจะไม่ได้หน้า

ต้องกู ถึงจะดี คิดแบบนี้ไม่ถูก ไม่เท่ ไม่สมาร์ท

ก่อนหน้านี้ นายสันติสุข โพสต์ไว้ว่า เรื่องสุรา ควรแข่งกันแฟร์ๆ ครับ ภายใต้กติกาควบคุมการบริโภคมาตรฐานเดียวกัน

1. เหล้าชาวบ้าน มีสูตรหลากหลาย เป็นภูมิปัญญา ควรปลดล็อก ไม่ใช่ตั้งกำแพงว่าต้องมีกำลังผลิตเท่าไหร่ เครื่องจักรกี่แรงม้า พนักงานกี่คน คนจะตัดสินใจเรื่องพวกนี้ คือ ผู้ประกอบการเองครับ

2. วิธีการ เอาตามที่ ครม. เคยชี้แล้วเมื่อต้นปี 65 ดีที่สุด คือ แก้กฎกระทรวง เร็วสุด มีผลเลย เพราะแก้กฎหมาย มีกระบวนการช้ากว่า

ถ้ามัวชักช้าอยู่อีก ก็ต้องสนับสนุนแนวทางแก้กฎหมายของพรรคก้าวไกล

3. เรื่องนี้ ผลักดันกันมาเป็น 10-20 ปี ผมยืนยันสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์ชาวบ้านได้ออกมาสู้กับเหล้านายทุน ภายใต้กติกาควบคุมการบริโภคสุราเดียวกันครับ

4. จะทำให้คนดื่มสุรามากขึ้นมั้ย ?

ปัจจุบัน มีกฎหมายคุมการบริโภคสุราอยู่แล้ว ไม่ว่าเหล้าชาวบ้านหรือเหล้านายทุน หรือเหล้านอก ออกมาก็ต้องถูกควบคุมเหมือนกัน รวมทั้งเรื่องความปลอดภัยด้วย ซึ่งไม่เกี่ยวกับกำลังการผลิตแบบที่คุมอยู่เลย

การปลดล็อก ยังจะทำให้ควบคุมความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ และเก็บภาษีได้มีประสิทธิภาพขึ้นด้วยครับ.(จากไทยโพสต์)

แน่นอน, ควันหลงสภาไม่ผ่านร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ของพรรคก้าวไกล ยังมีความน่าสนใจอีกมาก โดยเฉพาะอย่างที่หลายคนพยายามอธิบาย ทั้งฝ่ายที่เสนอร่าง พ.ร.บ. และฝ่ายที่เห็นด้วยกับการแก้กฎกระทรวง ซึ่งทำให้มีผลบังคับใช้ได้เลย อย่างกรณีข้อคิดจากนายสันติสุข

นอกจากนี้ ยังมีประเด็น อะไรดีกว่ากัน ในแง่ของสาระสำคัญ เกี่ยวกับการ “ปลดล็อก” เรื่องนี้ ซึ่งดูเหมือน พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า สาระสำคัญค่อนข้าง “เสรี” แบบสุดโต่ง อย่างที่ “เพจดัง” นำเอามาแซะว่า “พระบิดา” ซึ่งหมายถึง บุคคลตกเป็นข่าวฉาวเรื่องความเชื่อแปลกๆ ก็สามารถต้มเหล้าขายได้ คือ ไม่มีอะไรควบคุม ความสะอาด สุขอนามัยแต่อย่างใด?

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ทุกคนเห็นตรงกันว่า คนที่ได้ประโยชน์ก็คือ ประชาชน และทำให้ลดการผูกขาด “สุรา” หรือเหล้า จาก “นายทุนรายใหญ่” ด้วย

ดังนั้น การที่สภาฯพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ และโหวตผ่านหรือไม่ เป็นเรื่องที่ไม่ใช่ว่า จะไม่มีพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า หรือ สุราเสรี ในอนาคต แต่เหนืออื่นใด ก็ต้องมีมาตรการควบคุมตามสมควรเพื่อผู้บริโภค ด้วย

ส่วน “พรรคการเมือง” ที่หมายมั่นปั้นมือจะเอาเรื่องนี้ เป็นผลงานชิ้นโบแดง แต่ผิดหวัง ก็ต้องกลับมาทบทวนสำรวจความบกพร่อง มิใช่โทษ ส.ส. โทษใครต่อใคร เอาแต่ใจตัวเองว่า ถูกที่สุด ดีที่สุด โดยไม่ฟังคนอื่น ถ้าอย่างนี้เสนอกฎหมายกี่ครั้งก็คงไม่ผ่าน เพราะ “ประชาธิปไตย” ไม่ใช่แบบนี้แน่