“ทิพานัน” ตอกเพื่อไทยดิ้นฟอกขาว แสลงใจความจริงจำนำข้าว ตีบทผู้บริสุทธิ์ใส่ร้ายรัฐบาลประยุทธ์ ทั้งที่สร้างภาระงบประมาณทิ้งไว้มหาศาล ซัด “วันนั้นเพื่อไทย” โกงชาวนาเข้ากระเป๋าครอบครัวใคร แต่วันนี้ประกันรายได้เข้ากระเป๋าถึงมือประชาชน
วันนี้ (2 มิ.ย.) น.ส. ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกมาแก้ตัวโดยพยายามบิดเบือนข้อมูลความเสียหายของรัฐจากการทุจริตโกงจำนำข้าว ว่า ตลอดระยะเวลารัฐบาลโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องจัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งเพื่อมาใช้หนี้จากการโกงจำนำข้าว อีกทั้งหน่วยงานรัฐต้องเปลืองงบประมาณ ทรัพยากรบุคคลต่างๆ ในการดำเนินการแก้ไข กู้สถานการณ์เรื่องข้าวของไทยกลับคืนสู่สถานะที่ดีขึ้น เป็นไปตามกลไกราคาตลาดที่จะซื้อขายกันได้จริง
น.ส. ทิพานัน กล่าวต่อว่า ข้าวค้างสต๊อกในโกดังกว่า 20 ล้านตัน จากการโกง เป็นข้าวที่ต้องเปิดขายในราคาอาหารสัตว์ จึงมีรายได้เข้ารัฐต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และที่สำคัญอีกเรื่องคือ ประเทศไทยเสียแชมป์การส่งข้าวออกนอกประเทศให้กับอินเดียตั้งแต่ปี 2555 เพราะการโกงจำนำข้าวมีการสวมสิทธิ์เป็นชาวนาไทยเป็นจำนวนมาก นำข้าวคุณภาพต่ำจากประเทศเพื่อนบ้านมาร่วมจำนำ จึงเป็นสาเหตุสำคัญในการเสียแชมป์ส่งออกไปตอนนั้น
ความเสียหายจากการทุจริตจำนำข้าวเป็นเม็ดเงินมูลค่าหลายแสนล้านบาทของประเทศชาติ เป็นอภิมหาการโกงครั้งประวัติศาสตร์ กว่า 1,143 คดี สามารถตรวจสอบได้ แต่พอระยะเวลาผ่านไป พรรคเพื่อไทยสร้างชุดข้อมูลใหม่ๆ เพื่อฟอกขาวความผิดตัวเอง โยนบาปความผิดให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ เหมือนที่เคยโยนความผิดให้ลูกน้องติดคุกแทน อย่างไม่ละอายใจมาแล้ว สิ่งที่ น.ส.อรุณี ต้องตระหนักไว้ คือ วันหนึ่งอาจเป็นคุณอรุณี ที่เดียวดายท่ามกลางความผิดและต้องติดคุกแทนหัวหน้าครอบครัวคนใหม่ก็เป็นไปได้
“ต่างจากโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านราคาไม่ให้ชาวนาประสบปัญหาขาดทุน ลดภาระค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และอุทกภัย โดยที่กลไกตลาดยังคงทำงานเป็นปกติ ดังนั้นหนี้สินของชาวนาไม่ได้เกิดจากราคาข้าวตกต่ำตามที่ น.ส.อรุณี ได้บิดเบือน และที่สำคัญข้าวก็ของชาวนาไทย เงินก็เข้ากระเป๋าชาวนาไทย” น.ส.ทิพานัน กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า ซึ่งเห็นได้จาก นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้เคยให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า “ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โครงการประกันรายได้ ช่วยลดปัญหาหนี้สินของชาวนาได้ และถ้าไม่มีโครงการนี้ ชาวนาคงแย่ ในมุมมองชาวนา ชาวนาเขาพอใจ และเขาก็อยากให้มีโครงการแบบนี้ในระยะยาว เพราะเงินไปถึงมือชาวนาโดยตรง
“นอกจาก พลเอก ประยุทธ์ ได้ออกนโยบายโครงการประกันรายได้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวแล้ว ยังตัดวงจรโกงแบบที่นักการเมืองของพรรคเพื่อไทยอาจคุ้นชิน มีการวางระบบให้เงินไปถึงมือเกษตรกรโดยตรง อุดช่องโหว่ที่นักการเมืองจะเข้ามาหาประโยชน์ทำนาบนหลังชาวนาอย่างในอดีต สิ่งสำคัญ รัฐบาลยังส่งเสริมสนับสนุนจัดหาแหล่งน้ำ การพัฒนาพันธุ์ข้าว การทำเกษตรผสมผสาน และยังเร่งหาตลาดใหม่ผลักดันการส่งออกตลาดข้าวในต่างประเทศ เช่น จีน ตะวันออกกลาง และอีกหลายประเทศเพื่อยกระดับราคาข้าว เพิ่มรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับชาวนา อย่างจริงใจ” น.ส. ทิพานัน กล่าว
