xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการโวยบิ๊กตู่พูดไม่หมดปมหนี้จำนำข้าว วรงค์ย้อนรอยโกงต้นน้ำ-กลางน้ำ-ยันปลายน้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีตอาจารย์เศรษฐศาสตร์ เกษตรศาสตร์ โวยนายกฯ พูดไม่หมดปมหนี้จำนำข้าว แต่ไม่พูดถึงหนี้ที่ตัวเองก่อ ด้านหมอวรงค์ย้อนรอย โกงตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ รัฐมนตรีติดคุกแต่ยิ่งลักษณ์หนี

วันนี้ (1 มิ.ย.) นายเดชรัตน์ สุขกำเนิด อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก "Decharut Sukkumnoed" เรื่อง "หนี้จำนำข้าว จริงหรือไม่?" ระบุว่า "มีเพื่อนสอบถามมาเยอะว่า สิ่งที่นายกฯ กล่าวในสภาฯ เมื่อวานนี้เกี่ยวกับหนี้จำนำข้าวเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน? ถ้าจะตอบสั้นๆ ก็มีทั้งจริง ไม่จริง และพูดไม่หมด

ก่อนอื่นเรามาเริ่มต้นกันที่คำกล่าวของนายกฯ กันก่อน ส่วนที่นายกฯ กล่าวในสภาฯ คือ “ถ้าพูดเรื่องข้าวที่พูดว่างบวันนี้เป็นงบในอดีตไม่ใช่อนาคต ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา โครงการจำนำข้าวขาดทุนกว่า 9.5 แสนล้านบาท รัฐบาลนี้ตั้งงบชำระหนี้ไปแล้ว 7.8 แสนล้านบาท คงเหลือเงินต้น และดอกเบี้ยอีก 3 แสนล้านบาท เงินตรงนี้ถ้าอยู่เอามาทำอะไรได้อีกเยอะ ถามว่าใครทำเอาไว้ ผมก็ไม่อยากจะพูด ไม่อยากจะย้อนกลับ”

คราวนี้ เรามาดูข้อเท็จจริง 10 ประการ จากงบการเงินประจำไตรมาส ล่าสุดของ ธ.ก.ส. งวดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 (หรือปลายปีที่แล้ว) และเอกสารร่างบประมาณประจำปี 2566 กัน

ในรายงานงบการเงินฉบับดังกล่าวระบุว่า หนึ่ง การจำนำสินค้าเกษตรทุกประเภท ตั้งแต่ปี 2551-2557 ใช้เงินไป 960,665.35 ล้านบาท ย้ำว่าใช้เงินไป ไม่ใช่หนี้อย่างที่นายกฯ กล่าว

สอง เมื่อใช้ไปแล้ว หากมีการไถ่ถอนหรือขายผลผลิตออกไป เงินนั้นก็จะกลับเข้ามานะครับ ซึ่งจนกระทั่งถึงปัจจุบัน เงินนั้นกลับเข้ามาแล้ว 403,508.36 ล้านบาท ครับ

สาม เพราะฉะนั้น ส่วนที่ขาดทุน และเหลือเป็น "หนี้" ที่ต้องชำระจริงๆ คือ 557,157 ล้านบาทครับ (ซึ่งก็ไม่น้อยนะครับ แต่ตัวเลขที่นายกฯ กล่าวไม่ใช่ตัวเลขที่ถูกต้องครับ)

สี่ จาก 557,157 ล้านบาท รัฐบาลมีการโอนงบประมาณเพื่อชำระหนี้ไปแล้ว 276,462 ล้านบาท ไม่ใช่ 781,000 ล้านบาท อย่างที่นายกฯ กล่าว

ผมเข้าใจว่านายกฯ เอาตัวเลขที่ไถ่ถอน/ขายผลผลิตไปรวมด้วย จึงได้ตัวเลขที่คลาดเคลื่อนเกินจริงเช่นนั้น

ห้า หนี้ที่เหลือคงค้างอยู่จึงเหลือประมาณ 280,694 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับที่นายกฯ กล่าว

หก ในปีงบประมาณ 2566 นี้ รัฐบาลก็ตั้งงบประมาณชำระหนี้ส่วนนี้อีก 26,649 ล้านบาท ซึ่งถ้าตั้งชำระในอัตรานี้ คาดว่าหนี้จากจำนำข้าวน่าจะอยู่กับระบบงบประมาณไปอีกกว่า 10 ปี

เจ็ด สิ่งที่นายกฯ ไม่ได้กล่าวก็คือ ในช่วงเวลา 2-3 ปี ระหว่างปี 2562-2564 รัฐบาลปัจจุบัน (ไม่นับรวมรัฐบาล คสช.) ได้สร้างหนี้เพิ่มจากโครงการประกันรายได้เกษตรกร สินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าว และอื่นๆ อีกอย่างน้อย 247,250 ล้านบาท

ขอย้ำว่า นายกฯ ไม่ได้กล่าวถึง "หนี้ที่รัฐบาลตนเองก่อ 247,250 ล้านบาท ในช่วงเวลา 3 ปีเลย"

แปด จากหนี้โครงการประกันรายได้เกษตรกรและอื่นๆ 247,250 ล้านบาท รัฐบาลตั้งชำระหนี้ที่ตนเองก่อไว้ในปีงบประมาณ 2566 นี้ 44,212 ล้านบาท

เก้า เมื่อรวมทุกรัฐบาลที่ผ่านมา มูลหนี้จากนโยบายรัฐบาลที่รัฐบาลติดค้าง ธ.ก.ส.ไว้ในปัจจุบันเท่ากับ 887,831.3 ล้านบาท

สิบ ถ้านำเงินเกือบ 900,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลเป็นหนี้ ธ.ก.ส.ไว้ มาเทียบกับงบประมาณที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าหนี้ดังกล่าวเท่ากับ 7 เท่าของงบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ได้รับในปีงบประมาณ 2566

นี่คือสิ่งที่คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เรียกว่า ระบบงบประมาณแบบ "ช้างป่วย"

สรุปสั้นๆ สุด (ก) หนี้จำนำข้าวมีอยู่จริง (ข) แต่ไม่ได้มากเท่าที่ประยุทธ์กล่าว (ค) ที่สำคัญ ประยุทธ์สร้างหนี้เพิ่มขึ้นอีก เท่าๆ กับหนี้จำนำข้าวที่เหลืออยู่เดิม (ง) ประยุทธ์ไม่กล่าวถึงหนี้ที่รัฐบาลตนเองก่อขึ้น (จ) ประยุทธ์โทษแต่คนอื่น (หรือรัฐบาลที่ผ่านมา)

เราไม่อาจยอมรับ "รัฐบาลที่ไม่บอกความจริงให้ครบถ้วนได้อีกต่อไป" มิฉะนั้น ประเทศจะป่วยยิ่งกว่านี้ #คว่ำงบประมาณประจำปี2566"

อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่

ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ที่เคยออกมาชำแหละโครงการรับจำนำข้าว โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก "Warong Dechgitvigrom" หัวข้อ "#อภิปรายงบประมาณถึงโกงจำนำข้าว" ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2554 โครงการจำนำข้าวขาดทุน 9.5 แสนล้านบาท รัฐบาลชุดนี้ตั้งงบประมาณชำระหนี้ไปแล้ว 7.8 แสนล้านบาท คงเหลือเงินต้นและดอกเบี้ยอีก 3 แสนล้านบาท สวนฝ่ายค้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว กล่าวหาตั้งงบประมาณส่อโกง และวันนี้คนโกงจำนำข้าวติดคุกนับสิบคน รวมทั้งนายบุญทรง เตริยาภิรมย์, นายภูมิ สารผล, นายอภิชาต จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง, นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่หนีไปอยู่ต่างประเทศ

"มีหลายท่านให้ผมช่วยสรุปอีกที เพราะลืมกันแล้ว และอยากให้ลูกหลานได้เข้าใจ บทสรุปโครงการนี้ ปัญหาคือการโกง เป็นโครงการทุจริตที่มากที่สุด และใช้เงินภาษีประชาชนมากที่สุด และต้องตั้งงบประมาณใช้หนี้กันยาวนาน โดยโกงกันทุกขั้นตอน

1. โกงต้นน้ำ คือช่วงที่ชาวนาเอาข้าวเปลือกเข้าโครงการ ต้องนำข้าวเปลือกมาที่โรงสี ชาวนาจะถูกโกงความชื้น โกงตาชั่ง สิ่งเจือปน มีการสวมสิทธิใบประทวน มีการนำข้าวเขมร พม่า ลาว มาใช้สิทธิ แต่เอาเงินภาษีคนไทยจ่าย

2. โกงกลางน้ำ เนื่องจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่เก็บเป็นข้าวเปลือก ให้สีเป็นข้าวสารไปเช่าโกดังกลางเก็บ แทนที่จะนำข้าวสารดีๆ ไปเก็บ แต่จ่ายเงินให้บริษัทตรวจคุณภาพข้าว (เซอร์เวเยอร์) เอาข้าวสารเสื่อมคุณภาพ ข้าวเหลือง ข้าวเน่าไปส่งแทน บางที่กลายเป็นนั่งร้านซุกในกองข้าว

3. โกงปลายน้ำ คือการโกงช่วงการระบายข้าว ก็อุปโลกน์ว่าระบายแบบจีทูจีกับรัฐบาลจีน แต่กลายเป็นจีทูจีทิพย์ ข้าวไม่ได้ขายให้รัฐบาลจีน ไม่ได้ส่งออกไปต่างประเทศ แต่มีการนำข้าวนี้มาเวียนเข้าโครงการจำนำข้าวนี้อีกรอบ

โครงการรับจำนำข้าว จึงเป็นมหากาพย์การโกงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่บริหารโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย ภายใต้ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ แต่รัฐมนตรีบุญทรง รัฐมนตรีภูมิติดคุก ส่วนยิ่งลักษณ์หนี

มีบางคนพยายามเอาเรื่องที่ศาลปกครองกลางไม่ต้องให้ยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าเสียหายจำนำข้าว แล้วเอามาบิดเบือนว่ายิ่งลักษณ์ไม่ผิดนั้น ไม่จริงนะครับ

เรื่องชดใช้หนี้ที่ศาลปกครองกลางตัดสินเป็นเรื่องทางแพ่ง ต้องรอศาลปกครองสูงสุดอีกครั้ง แต่ที่แน่ๆ การปล่อยปละละเลยโดยทุจริต ซึ่งเป็นคดีอาญา ศาลฎีกานักการเมืองตัดสินว่าผิดแล้ว ถูกจำคุก 5 ปี ยิ่งลักษณ์จึงต้องหนีไปต่างประเทศ

นี่คือบทสรุปการโกงของทักษิณคิด เพื่อไทยทำ เอามาทวนความจำ และให้ลูกหลานได้เรียนรู้ และเข้าใจ เพราะตอนเกิดเหตุเขาอาจจะยังเด็กอยู่ครับ"

อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
กำลังโหลดความคิดเห็น