xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : สวิงโหวต ล้มรัฐบาลตู่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม 2565 ตอน สวิงโหวต ล้มรัฐบาลตู่



ลุ้นระทึกตั้งแต่ต้นเทอม เปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่รอบนี้มีหลายวาระสำคัญๆเป็นระเบิดเวลาพร้อมทำลายล้างรัฐบาลตลอด 4 เดือนเต็มข้างหน้านี้

เริ่มตั้งแต่การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 วงเงิน 3,185,000 ล้านบาท ที่จะเริ่มเข้าสู่การพิจารณาวาระแรก วาระรับหลักการ ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 2 มิถุนายนนี้ และจะลงมติในวันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน

จะมีการลงมติรับหรือไม่หลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ซึ่งถือเป็นการจัดทำงบประมาณครั้งสุดท้ายของ “รัฐบาลประยุทธ์ 2" ก่อนครบวาระในเดือน มีนาคม 2566

ร่างงบประมาณถือเป็นกฎมายสำคัญที่สุดฉบับหนึ่งของรัฐบาล อีกทั้งยังเป็นกฎหมายที่รัฐบาลเป็นเจ้าของร่าง ซึ่งตามกติกามารยาทแล้วหากสภาผู้แทนราษฎรลงมติไม่เห็นชอบ ตัวรัฐบาล โดยหัวหน้ารัฐบาล ต้องรับผิดชอบ ด้วยการยุบสภา หรือนายกรัฐมนตรีลาออก

ล่าสุดก็เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ฝ่ายค้าน โดยการนำของพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล มีมติไม่รับหลักการตั้งแต่วาระแรก แม้จะยังไม่มีการอภิปรายในสภาฯก็ตาม

จุดยืนของฝ่ายค้านถือว่าไม่น่าแปลกใจ เพราะเป็นไปตามหน้าที่ต้องตรวจสอบรัฐบาล การลงมติตรงข้ามรัฐบาลก็เป็นเรื่องปกติ

หากแต่ครั้งนี้มีแนวร่วมผสมโรงด้วย อย่างพรรคเศรษฐกิจไทย ภายใต้การนำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และรักษาการเลขาธิการพรรค ร่วมกับพรรคเล็กส่วนใหญ่ในนาม “กลุ่ม 16” ที่เดิมเคยเป็นเสียง ส.ส.ในซีกรัฐบาล ตั้งท่าว่าจะลงมติค้านรัฐบาลในทุกเรื่องนับจากนี้

จากจุดยืนของพรรคเศรษฐกิจไทย และพรรคเล็กส่วนใหญ่ ส่งผลให้คณิตศาสตร์การเมืองในสภาฯเปลี่ยนไป ทำให้รัฐบาลภายใต้การนำของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องกลับมาอยู่ในสภาพ “เสียงปริ่มน้ำ” อีกครั้ง หลังขาดหายจำนวนมือ ส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจไทย และกลุ่ม 16 ไป

ตามรูปการณ์ที่ตอนนี้มี ส.ส.ปฏิบัติหน้าที่ได้ 477 คน เท่ากับว่าองค์ประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง 239 คน และหากไม่นับส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจไทย และกลุ่ม 16 แล้ว ฝ่ายรัฐบาลจะเหลือ ส.ส.อยู่ราว 240-250 เสียง

ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ 94 เสียง, พรรคภูมิใจไทย 65 เสียง, พรรคประชาธิปัตย์ 52 เสียง, พรรคชาติไทยพัฒนา 12 เสียง, พรรครวมพลัง 5 เสียง และพรรคชาติพัฒนา 4 เสียง, พรรคพลังท้องถิ่นไท 5 เสียง, พลังธรรมใหม่ 1 เสียง และมี ส.ส.กลุ่มงูเห่าของฝ่ายค้านอีกราว 10 เสียง

ส่วนฝ่ายค้านขณะนี้ มีอยู่ราว 200-210 เสียง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 132 เสียง, พรรคก้าวไกล 51 เสียง, พรรคเสรีรวมไทย 10 เสียง, พรรคประชาชาติ 7 เสียง, พรรคเพื่อชาติ 6 เสียง, พรรคพลังปวงชนไทย 1 เสียง, พรรคไทยศรีวิไลย์ 1 เสียง และพรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 (มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์) จำนวนนี้ยังไม่หักในส่วนของ “งูเห่า” ที่แฝงตัวอยู่ในพรรคต่างๆ

ส่วนที่เหลือเป็นพรรคเศรษฐกิจไทย 16 เสียง พรรคเล็กในนามกลุ่ม 16 อีกมากกว่า 15 เสียง ประกอบด้วยพรรคเศรษฐกิจใหม่ 5 เสียง, พรรคพลังประชารัฐ 1 เสียง, พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 เสียง, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 เสียง, พรรคไทรักธรรม 1 เสียง, พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง,

พรรคประชาภิวัฒน์ 1 เสียง, พรรคพลเมืองไทย 1 เสียง, พรรคพลังชาติไทย 1 เสียง และพรรคเพื่อชาติไทย 1 เสียง

ทำให้มือในสภาฯของพรรคเศรษฐกิจไทย และพรรคเล็กในนามกลุ่ม 16 กลายเป็นตัวแปรสำคัญของเกมการเมืองในสภาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อย่างไรก็ตามหากหักกลบลบหนี้ในส่วน 30 เสียงของกลุ่มธรรมนัสและกลุ่ม 16 ที่จะไปชูมือให้ฝ่ายค้าน กับกลุ่มงูเห่าที่จะชูมือให้รัฐบาลแล้ว ก็ดูเหมือนเสียงยังไม่พอที่จะโค่นรัฐบาลให้ล้มคาสภาฯได้

ส่งผลให้ต้องจับตาไปที่กลุ่ม “สวิงโหวต” ทั้งในส่วนของฝ่ายค้านที่จะหันมาหนุนรัฐบาล และฝ่ายรัฐบาลที่จะโหวตสวนรัฐบาลเอง

โดยกลุ่มสวิงโหวต ที่ฝังตัวอยู่ในฝ่ายค้าน ถูกตราหน้าว่าเป็น “งูเห่า” มีทั้งที่เปิดตัว-เปิดหน้าแล้ว อาทิ พรรคก้าวไกล 5 เสียง ประกอบด้วย เกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, ขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี, คารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ, พีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย และเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย ขณะที่พรรคประชาชาติ ได้แก่ อนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี

พรรคเพื่อชาติ 4 เสียง ที่เคยลงมติไว้วางใจรัฐบาลพรรคภูมิใจไทยหนก่อน ได้แก่ ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช, เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล, ลินดา เชิดชัย และ อารี ไกรนรา

พรรคเพื่อไทย 7 เสียง ที่เตรียมย้ายเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้แก่ ผ่องศรี แซ่จึง, น.พ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์, ธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ กับที่้มีกระแสข่าวว่าจะย้ายพรรค ได้แก่ ชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ ส.ส.ปทุมธานี, วุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก และ ศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ, สุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา

ขณะที่กลุ่มสวิงโหวต ในฝ่ายรัฐบาลที่พร้อมจะเป็น “ฝ่ายค้านเฉพาะกิจ” ลือกันว่ามีที่พรรคชาติพัฒนา 2 เสียง ได้แก่ ดล เหตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ สมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ 3 เสียง ได้แก่ อันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง

พรรคพลังท้องถิ่นไท 2 เสียง ได้แก่ กวินนาถ ตาคีย์ สงส.ชลบุรี และ จารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี จะจริงหรือเท็จต้องรอดู

นอกจากนี้ยังเป็นที่จับตาในส่วนของ ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐเอง ที่อย่างน้อยก็มี พิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ตั้งตัวเป็นหัวหน้ากลุ่ม 16 แล้วยังมีมีความสัมพันธ์อันดีกับ “ธรรมนัส” อีกบางส่วน และส่วนที่เห็นว่ารัฐบาลและนายกรัฐมนตรีไปต่อไม่ได้แล้ว อาจจะถือโอกาสสร้างชื่อด้วยการร่วมโค่นรัฐบาลบประยุทธ์ในคราวนี้ก็เป็นได้

น่าสนใจไม่น้อยกับการที่ ร.อ.ธรรมนัส แสดงท่าทีว่า อาจจะปล่อยผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯในวาระแรกไปก่อน ทั้งที่ก่อนหน้านี้แยกเขี้ยวขู่มาตลอด จะเป็นหมากสับขาหลอกให้ฝ่ายรัฐบาลตายใจ จนไม่ระแวดระวังในการควบคุมเสียงหรือไม่

เพราะด้วยจำนวนเสียงในสภาฯที่ปริ่มน้ำ หากสวิงโหวตส่วนที่จะมาหนุนรัฐบาลไม่มาตามนัด หรือสวิงโหวตกลุ่มฝ่ายค้านเฉพาะกิจมีจำนวนมากพอ ปฏิบัติการโค่นรัฐบาลประยุทธ์กลางสภาฯก็เป็นไปได้ทุกเมื่อ.

-----------------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android

สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1


กำลังโหลดความคิดเห็น