“พล.อ.ประวิตร” มั่นใจยกระดับการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ดีขึ้นเป็นเทียร์ 2 จากผลความพยายามแก้ปัญหาเดิมและความมุ่งมั่นริเริ่มยกระดับการทำงานสู่สากล
วันนี้(11 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนาบกรัฐมนตรี ประชุมชี้แจงแผนปฏิบัติการ ว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ ด้านการบริหารจัดการคดีและการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ พ.ศ. 2565 ผ่านระบบออนไลน์ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ 25 หน่วยงาน โดยมี รมว.รง. รมว. พม. รวมทั้งผู้แทนสหรัฐฯ และผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ เข้าร่วมประชุมด้วย ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ภาพรวมที่ประชุม รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (TIP Report ) ปี 64 ที่มีพัฒนาการเชิงรุกและเป็นรูปธรรมในหลายด้าน ทั้งการพัฒนาศักยภาพและความเชื่อมั่นของผู้บังคับใช้กฎหมายและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง การดำเนินคดีเชิงรุกกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง การเพิ่มความสามารถในการ สื่อสาร คัดแยกและคุ้มครองผู้เสียหาย การดูแลสภาพจิตใจและเยียวยาผู้เสียหายอย่างเป็นธรรม การลดเงื่อนไขและเพิ่มประสิทธิภาพระบบการสืบสวน สอบสวนและส่งต่อการค้ามนุษย์ในแรงงานภาคบังคับ การส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อผู้เสียหายทางกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งสนับสนุนให้ยึดผู้เสียหายเป็นศูนย์กลางและคำนึงถึงบาดแผลทางจิตใจในการพิจารณาคดี
นอกจากนั้นยังได้รับทราบ การดำเนินการริเริ่มสร้างนวัตกรรมในการยกระดับการต่อต้านการค้ามนุษย์ของไทยสู่มาตรฐานสากลในด้านต่างๆ เช่น การจัดทำแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติการบริหารจัดการคดีในการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์รวมทั้งการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ พ.ศ. 2565 การจัดตั้งศูนย์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ระดับประเทศ การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศ เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ การออกมาตรการเชิงรุกด้านการป้องกันเด็กจากการค้ามนุษย์
โดยแผนปฏิบัติการ ฉบับนี้ มุ่งยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ด้านป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในทุกขั้นตอนของกลไกการส่งต่อระดับชาติ โดยมีกลไก ทั้งขั้นตอนการเผชิญเหตุหรือรับแจ้งเหตุ ขั้นตอนคัดกรองเบื้องต้น ขั้นตอนการคัดแยก และขั้นตอนการคุ้มครอง
พล.อ.ประวิตร’ ย้ำว่า รัฐบาลตระหนักถึงความร้ายแรงของอาชญกรรมค้ามนุษย์ โดยประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ปี 58 โดยกำหนดทิศทางและขับเคลื่อนทุกภาคส่วนร่วมแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นต่อเนื่องมา โดยเฉพาะการดำเนินการแก้ปัญหามิติต่างๆตามข้อเสนอแนะใน TIP Report ทั้งนี้ หลังผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ได้ขยายผลสามารถสืบสวนจับกุมคดีค้ามนุษย์ได้ ถึง 188 คดีสูงกว่าปี 2563 โดยเฉพาะคดีทางสื่อออนไลน์และได้ปรับรูปแบบการทำงานเป็นแบบออนไลน์ได้แก่การคัดแยกผู้เสียหายการประชุมค่าสินใหม่ทดแทนในการพิจารณาคดีของศาลเป็นต้น
จึงขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมทั้งในและต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันแก้ปัญหาและริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรม จนนำไปสู่การยกระดับ มาตรฐานการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ตามหลักสิทธิมนุษย์ชนและพันธกรณีระหว่างประเทศ โดยแผนปฏิบัติการดังกล่าว จะเป็นเครื่องมือให้ผู้ปฏิบัติงานในทุกระดับได้ใช้ปฏิบัติการเชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพมีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลต่อไป ทั้งนี้ เป็นที่มั่นใจร่วมกันถึงความพยายามที่ไทยจะสามารถได้รับการพิจารณาจัดอันดับดีขึ้น เป็นเทียร์ 2 ในปี 65