“ประวิตร” ปัดสั่งคนสนิทยกหูล็อบบี้ “พล.ต.ต.ปวีณ” ให้ “มนัส” ประกันตัวคดีค้ามนุษย์ เตรียมให้ ตร.แจง โฆษก กห. ยันพร้อมรับข้อมูลทุกฝ่าย ย้ำ การกล่าวหาเชื่อมโยงค้ามนุษย์ที่ไม่มีหลักฐาน ไม่เป็นประโยชน์กับประเทศในภาพรวม
วันนี้ (25 เม.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงกรณี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และอดีตหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ออกมาระบุผ่าน อัลจาซีรา อ้างว่า พล.อ.ประวิตร สั่งคนสนิท ให้โทรศัพท์มาหาเพื่อขอให้ พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ ได้ประกันตัว หลังเข้ามอบตัวว่า “จะให้ทางตำรวจชี้แจงกรณีนี้”
เมื่อถามว่า ท่านยืนยันว่า ไม่ได้สั่งให้คนสนิทโทรศัพท์ไปหา พล.ต.ต.ปวีณ เพื่อขอให้ พล.ท.มนัส ได้ประกันตัวใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “โอ้ย ไม่มี” ก่อนจะวางสายไป
ด้าน พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีดังกล่าวโดยมีการกล่าวพาดพิงว่า ทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์นั้น ดูจะไม่ให้ความยุติธรรมกับกำลังทหารและกองทัพในภาพรวม ซึ่งที่ผ่านมา กองทัพได้เข้าสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลอย่างแข็งขัน ในการแก้ปัญหาสำคัญๆ ที่เป็นวาระแห่งชาติ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นปัญหาที่สั่งสมมาต่อเนื่องยาวนานในหลายรัฐบาลที่ผ่านมา
ขอยืนยันว่า กห. สนับสนุนรัฐบาลในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างแข็งขัน และมีนโยบายชัดเจนห้ามกำลังพลเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ หรือ สิ่งผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นต้องกำกับดูแลกำลังพล หากปรากฏพบการกระทำผิดของกำลังพล ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล ที่ต้องสอบสวนเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญาให้ถึงที่สุด โดยให้สืบเชื่อมโยงกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่มีการปกป้องหรือยกเว้นเป็นเด็ดขาด และ กห. จะไม่เก็บคนเหล่านี้ไว้ในกองทัพ ให้เกิดความเสื่อมเสียกับองค์กรและประเทศชาติ
สำหรับคดีการจับกุม พล.ท.มนัส คงแป้น ในข้อหาค้ามนุษย์ที่ผ่านมา เป็นการยืนยันถึงความจริงใจในการบังคับใช้กฎหมายแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในสมัยยุครัฐบาล คสช. โดยมีการทำงานร่วมกับภาคประชาสังคมและองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งหากมีการช่วยเหลือ แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและปกป้องกันจริง พล.ท.มนัส คงไม่ติดคุกและได้รับการประกันตัว ซึ่งขณะนี้ความคืบหน้าคดีมีการสืบสวนออกหมายจับแล้ว 153 หมาย มีผู้ต้องหาถูกจับกุมแล้วกว่า 120 ราย โดยเฉพาะการกล่าวหาเชื่อมโยงพาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นแกนหลักระดับนโยบายของรัฐบาล ในการนำและขับเคลื่อนการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังที่ผ่านมา จนสถานภาพและปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทยดีขึ้นตามลำดับ โดยการกล่าวหาที่ไม่มีข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ จะเป็นการสร้างความสับสนกับสังคมและต่างประเทศ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับการประเมินสถานภาพการจัดอันดับการค้ามนุษย์ของประเทศไทยที่จะมีขึ้น และจะกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติในภาพรวม
โฆษก กห. กล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ความตื่นตัว เรียนรู้ร่วมกันถึงความพยายามที่จะร่วมแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ปัจจุบัน ถือเป็นพัฒนาการร่วมกัน ซึ่งกองทัพพร้อมรับข้อมูลและเบาะแสจากทุกฝ่าย หากมีการเชื่อมโยงถึงกำลังพลนอกแถวในกองทัพที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และการกระทำที่ผิดกฎหมายอื่นๆ และก็อยากให้บุคคลที่ออกมากล่าวหา นำข้อมูลหรือหลักฐานข้อเท็จจริงที่ได้รับหรือมีเพิ่มเติม ออกมานำเสนอสังคม หรือทางราชการ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนเอาผิด และร่วมกำจัดขบวนการค้ามนุษย์ในไทยให้หมดสิ้นไป