“ไพศาล”ยัน“ลุงป้อม”ไม่เกี่ยวเรื่องค้ามนุษย์โรฮิงญา

นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ระบุว่า ลุงป้อมไม่เกี่ยวเรื่องค้ามนุษย์โรฮิงญา

1.พักนี้มีเรื่องแปลกๆ สื่อต่างประเทศและสื่อโซเชี่ยลในประเทศ โหมประโคมว่า ลุงป้อม เป็นผู้เกี่ยวข้อง(หากิน)กับการค้ามนุษย์โรฮิงญา ซึ่งไม่เข้าท่า ดูเหมือนจะมีเรื่องเตะตัดขาทางการเมืองเกิดขึ้น บังเอิญผมรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี จึงต้องมาบอกกล่าวกันให้ทราบ แม้ว่าขณะนี้ ผมไม่มีหน้าที่ และไม่ใช่กงการอะไรของผมหรอก

2.เรื่องค้ามนุษย์มี 2 กรณี กรณีแรกเกิดขึ้นก่อน คือการค้ามนุษย์พวกอุยกูร์จากเมืองจีน และกรณีหลังคือค้ามนุษย์พวกโรฮิงญาจากรัฐยะไข่ ของพม่า ทั้ง 2 กรณีนี้มีเส้นทางเดียวกัน วัตถุประสงค์เดียวกัน คือเอาไปฝึกเป็นผู้ก่อการร้ายหรือไอซิสในตะวันออกกลาง

3.เริ่มจากอุยกูร์ก่อน มีขบวนการนำเข้าอุยกูร์จากจีน ผ่านเส้นทาง ทางภาคเหนือ ลงไปยังภาคใต้ของไทย เข้าไปมาเลเซีย เพื่อเปลี่ยนพาสปอร์ต และบินไปยังตะวันออกกลาง จากนั้นก็เข้าค่ายฝึกไปเป็นไอซิส ลุงป้อมเป็นรองนายกฝ่ายความมั่นคง ตอนนั้นผมเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำลุงป้อม ในกรณีอุยกูร์ ทั้งไทย-จีนได้ร่วมมือกัน ในการแก้ไขปัญหานี้จนเสร็จสิ้นไป เพื่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของทั้งสองประเทศ ทำให้ลุงป้อมเป็นที่นับถือ และมีชื่อเสียงในเมืองจีนมาก

4.เมื่อการค้ามนุษย์อุยกูร์ถูกแก้ไขเรียบร้อย ก็มีขบวนการค้ามนุษย์นำโรฮิงญาจากรัฐยะไข่ ของพม่า พวกนี้เข้ามาทางภาคเหนือตรงไปยังภาคใต้ แล้วไปเปลี่ยนพาสปอร์ตที่มาเลเซีย จากนั้นก็ไปตะวันออกกลางไปฝึกฝนเป็นไอซิสอย่างเดียวกัน และอีกทางหนึ่งก็มาจากยะไข่โดยตรง คือมาทางเรือ
พวกนี้หนีเข้ามาครั้งละ 30 -50 คน โดยต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางคนละราว 30,000 บาท เท่ากับกลุ่มละ 900,000 บาท ซึ่งต้องแบ่งกันทั้งเจ้าหน้าที่ยะไข่ เจ้าของเรือ คนนำทาง เรื่อยไปจนถึงมาเลย์เซีย พวกนี้เข้ามาเดือนละ 2-3 กลุ่ม เงินแค่นี้นะหรือจะหาว่าลุงป้อมทำมาหากินกับเรื่องแบบนี้?

5.แม้ว่าไทยพม่าจะได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหานี้ อย่างใกล้ชิด แต่ปัญหาสลับซับซ้อนกว่าอุยกูร์ เพราะมีหลายขบวนการที่เกี่ยวข้องตามชายแดน
แม้กระนั้นลุงป้อม ที่เป็นรองนายกฝ่ายความมั่นคง ก็พยายามปราบปรามอย่างเต็มที่โดยทำนองเดียวกันกับอุยกูร์ ซึ่งผมนี่แหละเอาการเอางาน
เพื่อให้คุ้มค่าเงินเดือนของผู้ช่วยรัฐมนตรี ผมได้ค้นคว้าหาข้อมูลทั้งจากพม่าและตลอดแนวชายแดนไปจนถึงภาคใต้ ทั้งทางเปิดทางลับเพราะผมมีพรรคพวกอยู่มาก แล้วเอาไปฟ้องลุงป้อม จึงทำให้การป้องกันและปราบปรามได้ผลมากขึ้น

6.จนกระทั่งมีการจับกุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และมีการสอบสวนดำเนินคดี เมื่อมีการจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นทหารยศนายพลโท เจ้าหน้าที่ก็ขอความเห็นชอบลุงป้อม ว่าควรให้ประกันตัวหรือไม่ ผมนั่งอยู่ด้วย ลุงป้อมเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเป็นเรื่องใหญ่ และกระทบต่อความมั่นคง จึงแจ้งเจ้าพนักงานว่าไม่ควรอนุญาตให้ประกันตัว และลุงป้อมก็รายงานให้นายกทราบ
นายกก็เห็นด้วย เขาจึงไม่ให้ประกันตัว ต่อมาผู้ต้องหานั้นก็ถูกดำเนินคดีและศาลพิพากษาจำคุก

เรื่องผ่านไปหลายปีแล้ว จนผมก็พ้นตำแหน่งมา 3-4 ปีแล้ว จู่ๆ ในท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองก็มีมือดีใส่รัายลุงป้อมว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์

น่าแปลกใจไหมว่าทำคลิปข่าวมาจากออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนหลัก"นาโต้ 2"ก็ลุงป้อมนั่นแหละแกเป็นมือปราบนักค้ามนุษย์ ตอนนั้นผมมีหน้าที่อยู่ ก็เพลินสนุกสนานไปด้วย เพราะเข้าทางปืนพอดี การมากล่าวหาลุงป้อมค้ามนุษย์เป็นเรื่องเสียสติไปแล้ว

7.ตัวตนแท้จริงของลุงป้อม ไม่ได้มีพิธีรีตองลึกลับซับซ้อนอะไร แต่การทำงานแบบนี้ไม่มีใครเขาพูดกันหรอก นอกจากมีวาระซ่อนเร้นจะเล่นงานกัน
ผมทำงานกับลุงป้อมมา 5 ปี ก็ทำแต่เรื่องที่คนอื่นไม่ทำ มีโอกาสได้มานั่งกันพร้อมหน้า ก็มีเพียงครั้งเดียว ไปนั่งกินกาแฟกันข้างถนน ก็ยังไม่วาย ถูกกล่าวหาว่าไปนั่งกินโต๊ะกันถึง 80,000 บาทและทำใบเสร็จปลอมออกมากล่าวหาด่ากันดังสนั่นไปครั้งหนึ่ง ทั้งที่ความจริงกินกาแฟกันแค่ 80 บาท ลุงป้อมและผมก็ไม่ได้พกตังค์ไป โชคดีที่"ท่านมืองานด้านความมั่นคงและการข่าวระดับปีศาจ"พกเงินไปบ้างจึงต้องควักเงิน 80 บาทจ่ายแทนให้

การหยิบเอาเรื่องนี้มาด่าลุงป้อมเป็นการใส่ร้ายเป็นเวรเป็นกรรมเปล่าๆ ผมเองไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องใดๆแล้ว แต่เห็นว่าเป็นเรื่องไม่เข้าท่า จึงนำเรื่องจริงมาบอกกล่าวให้ได้ทราบทั่วกัน