เช็คไทม์ไลน์ของ “พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)” ในช่วงที่ผ่านๆมาและนับตั้งแต่ต้นปี 2565 ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเด่นชัดของบทบาทในการลงพื้นที่เพื่อเร่งรัดติดตามงานภายใต้โครงการต่าง ๆ และรับทราบปัญหาของประชาชนในแต่ละพื้นที่โดยตรงเพื่อนำมาสู่การแก้ไขที่ตรงจุด....เรียกว่า”ลุงป้อม”ท่านเดินทางไปในทุกภาคของไทยตั้งแต่เหนือจรดใต้ แม้กระทั่งวันนี้ก็ยังคงไม่หยุดหย่อน
ภารกิจที่โดดเด่นเห็นจะเป็นการบริหารจัดการน้ำที่ท่านพ่วงตำแหน่งในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.)และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)ซึ่งการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นไปตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20ปี(2561-2580)สะท้อนให้เห็นผลเป็นรูปธรรมในช่วง 5ปีนับตั้งแต่ปี 2561ถึงขณะนี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพประปาหมู่บ้าน 4,675แห่ง จัดหาปริมาณน้ำต้นทุนเพิ่มขึ้น 1,797ล้านลูกบาศก์เมตรแบ่งเป็น
การพัฒนาแหล่งน้ำผิวดินทั้งในพื้นที่ชลประทานและพื้นที่เกษตรน้ำฝนได้ปริมาณน้ำต้นทุนถึง 1,452ล้านลูกบาศก์เมตรพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรได้ปริมาณน้ำ 124ล้านลูกบาศก์เมตรและปฏิบัติการฝนหลวงเติมน้ำให้แหล่งน้ำอีก 221ล้านลูกบาศก์เมตรสามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้ 1.17ล้านไร่ประชาชนได้รับประโยชน์ 1.08ล้านครัวเรือนรวมทั้งยังได้พัฒนาระบบป้องกันอุทกภัยมีพื้นที่ที่ได้รับการป้องกัน 9,556ไร่ประชาชนได้รับการป้องกัน10,893ครัวเรือนสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชนจำนวน 13แห่งอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ 156,070ไร่
นอกจากนี้ยังมีการเร่งยกระดับคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯผ่านการพัฒนาคลองสายหลักคลองแสนแสบคลองเปรมประชากรและคลองลาดพร้าวให้มีน้ำใสสะอาด หนุนโครงการบ้านมั่นคงให้ชุมชนริมคลองมีที่อยู่อาศัยสะดวกสบายมีคุณภาพชีวิตที่ดีเร่งรัดการแก้ปัญหาจราจรเชื่อมกล้องซีซีทีวีฯลฯเรียกว่าดูแลน้ำกันแบบครบวงจรตั้งแต่หาแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อการบริโภคอุปโภคแก้น้ำท่วมน้ำแล้งสร้างภาพลักษณ์คูคลองให้สดใสกันเลยทีเดียว
ไม่เพียงเท่านั้นภารกิจที่ผลักดันผ่านการขับเคลื่อนนโยบายชอง”พปชร.”ในการช่วยเหลือปากท้องชาวบ้านที่โดดเด่นไม่แพ้กันหนีไม่พ้นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ย้ำกับประชาชนเสมอในการลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนซึ่งล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลังจัดทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ทั้งผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการฯเดิมและผู้เข้าข่ายได้รับสิทธิรายใหม่คาดจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1ตุลาคม 65โดยมีกรอบวงเงินกว่า 500 ล้านบาทซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนได้รับสิทธิ์กว่า 20ล้านคนตามเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด
ภารกิจของ “พล.อ.ประวิตร"ในฐานะรองนายกฯที่ดูแลความมั่นคงยังเร่งรัดการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำจัดไฟป่าและหมอกควันดูแลงานต่อต้านการค้ามนุษย์จนได้ผลดีขึ้นตามลำดับรวมไปถึงการผลักดันราคาปาล์มน้ำมันที่ผ่านมาจนทำให้ราคาปาล์มแตะระดับราคา 11-12บาทต่อกิโลกรัมส่งผลดีต่อภาคเกษตรกรได้รับรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ
ภารกิจทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ในการขับเคลื่อนแผนงานต่างๆของรัฐบาลลุงตู่พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชาให้ก้าวหน้าและสำเร็จมาได้ด้วยดีโดยใช้กลไกการบริหารงานรัฐที่ร่วมบูรณาการทุกส่วนแม้ยามวิกฤติการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19ก็ฝ่าฟันมาได้จนนำมาสู่การเปิดประเทศเต็มรูปแบบเมื่อ 1พ.ค.นี้ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยทยอยฟื้นตัวได้ตามลำดับ
จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าผลงานของพรรค “พปชร.” ล้วนมาจากการเกื้อหนุนของการทำงานและผลงานที่เป็นรูปธรรมของ”พล.อ.ประวิตร”แล้วในแวดวงการเมืองยังเป็นที่รักและเคารพของทุกฝ่ายด้วยมีความจริงใจจึงไม่แปลกหากจะได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนจากการตอบโจทย์การช่วยเหลือด้านต่างๆที่เข้าใจถึงปัญหาที่แท้จริงด้วยการลงมือทำ...การเลือกตั้งที่ใกล้เข้ามาประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ...และแน่นอนว่าชื่อของ “พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ”ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.จะมาแรงแน่นอน