“บิ๊กโจ๊ก” ยันคดีค้ามนุษย์สุราษฎร์ไม่ได้เล่นการเมือง ลั่น ทำคดีตรงไปตรงมาไม่กลั่นแกล้งใคร

“บิ๊กโจ๊ก” ยันคดีค้ามนุษย์สุราษฎร์ ไม่ได้เล่นการเมือง ลั่น ทำคดีตรงไปตรงมาไม่กลั่นแกล้งใคร พบข้าราชการเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องต้องทำความจริงให้ปรากฏ ย้ำ เพื่อสร้างความมั่นใจและช่วยเหลือเยียวยา พร้อมเผยนำเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์เขมรกลับไทยแล้ว 786 ราย เร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนไม่ตกเป็นเหยื่ออีก

วันนี้ (11 พ.ค.) พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คดีค้ามนุษย์ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พลตํารวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ตนลงไปติดตามสํานวนความคืบหน้าคดี ส่วนมีความกังวลเรื่องนักการเมืองในพื้นที่แทรกแซงคดีหรือไม่ ก็ต้องยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นปัญหามานานแล้ว ใครก็ตามที่เข้ามาแทรกแซงการสอบสวน เมื่อวานให้พนักงานสอบสวนขออนุมัติต่อศาลและเพิกถอนการประกันไปแล้ว ตอนนี้ในส่วนของผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัว ก่อนหน้านี้ ศาลได้เพิกถอนการประกันตัว และเข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้วคดีนี้ก็ทำง่ายตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน รวมถึงการทำงานต้องบูรณาการร่วมกันกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และทุกองค์กร ถ้าส่วนไหนที่มีความผิดก็ต้องทำความจริงให้ปรากฏ ในส่วนของตำรวจด้วยเช่นกัน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เน้นย้ำเช่นที่กรณีจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการจับกุมทั้งทหารตำรวจส่วนไหนที่เป็นการกระทำความผิดต้องทำความจริงให้ปรากฏ แม้ในท้องถิ่นจะมีความรู้จักกันแต่ต้องแยกความผิดออก ไม่เช่นนั้น เด็กจะย่ำแย่ซึ่งได้นำเด็กทั้งหมดเข้าสู่การคุ้มครองพยาน โดยประสานกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกระทรวงยุติธรรมไปแล้ว รวมถึงหัวหน้าบ้านพักเด็กก็เข้าสู่การคุ้มครองพยานเช่นกันเด็ก 8 คนหัวหน้าบ้านพักก็เข้าคุ้มครองพยานทั้งหมด

ซึ่งในวันนี้ตนจะลงไปในช่วงบ่ายจะไปพบผู้ปกครองพ่อแม่ของเด็กทั้งหมดเพื่อทำให้ความอุ่นใจมั่นใจ และเชื่อใจว่า จะได้รับการดูแลได้รับเงินเยียวยา ไม่ตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป

ยืนยันไม่หนักใจอิทธิพลในพื้นที่แน่นอน เพราะไม่ได้ไปกลั่นแกล้งใคร ทำอย่างตรงไปตรงมาคดีนี้เราสอบสวนเสร็จไปแล้วในชุดแรกผู้ต้องหา 11 คน แต่มีข้อมูลเพิ่มเติมมีการเข้าไปแทรกแซงกระบวนการสอบสวน จึงต้องเข้าไปดูอีกครั้งและรวบรวมพยานขยายผลได้ผู้ต้องหาอีก 18 คน รวม 29 คน พบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ต้องไม่ให้เกิดขึ้นเรื่องการตีเด็กในสถานที่ราชการเกิดขึ้นต้องบังคับใช้กฎหมายให้เห็นไม่เช่นนั้นจะเป็นเยี่ยง อย่างไรก็ตาม ที่เข้ามาแทรกแซงการสอบสวนวันนี้เรื่องคดีค้ามนุษย์เป็นเรื่องสำคัญต้องบังคับใช้กฎหมายให้เท่าเทียมกัน ซึ่งวันนี้ยังไม่มีนักการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยวเพิ่มเติม
พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ ยืนยัน ไม่มีเรื่องการเมืองแต่เป็นเครือญาตินักการเมืองย้ำว่าไม่มีการเล่นการเมือง เรื่องการทำผิดปกติ ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย

ส่วนคดีที่ประชาชนถูกหลอกจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์คำชาติ ที่ประเทศกัมพูชา นั้น พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ได้ช่วยเหลือเหยื่อเหยื่อทั้งหมด 786 คน นำตัวข้ามกลับมาประเทศไทยแล้ว ตัดแยกพบว่าเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ 219 คน และได้จับกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด 107 หมายจับ ทั้งนี้ มาตรการในการป้องกันไม่ให้ประชาชนถูกหลอกไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติคือ การตรวจตราดูแลและขอความร่วมมือ หอพัก บ้านเช่า รีสอร์ต และเอากำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นแนวร่วมและตรวจตราท่ารถผู้โดยสารต่างๆ เพื่อไม่ให้การขนย้ายต้องขอความร่วมมือหากให้การสนับสนุนถือว่ามีความผิดต้องทำระบบในประเทศไทยให้แข็งแรง

มั่นใจว่า เมื่อบังคับใช้มาตรการดังกล่าวจะแก้ปัญหาการถูกหลอกจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติได้ดีขึ้น แต่ยอมรับว่า ไม่สามารถแก้ได้ทั้งหมดแต่ต้องเริ่มทำ เมื่อวานนี้ได้ไปประชุมเองที่จังหวัดสระแก้วและกำชับ 7 โรงพักในจังหวัดสระแก้วตามแนวชายแดน วันนี้ รัฐบาลสหรัฐฯต้องการเห็นไม่ใช่แค่เพียงการวางมาตรการปราบปรามการค้ามนุษย์เท่านั้น ต้องการเห็นมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น จึงต้องสร้างการรับรู้ภูมิคุ้มกันชี้ให้ประชาชนเห็นว่าการหลงเชื่อมิจฉาชีพที่มากับภัยออนไลน์เรื่องการหางานให้คนไทยรู้เท่าทันจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกไปทำงานที่ไม่มีอยู่จริง ซึ่ง ผบ.ตร.ได้เดินทางไปที่ประเทศกัมพูชาด้วยตัวเองประสานทางการเป็นไปด้วยดีมีความร่วมมือกันอย่างดีและจะขยายไปยังประเทศลาว พม่า เพราะวันนี้การทำงานเรื่องการค้ามนุษย์ไม่ได้ทำเป็นรายประเทศแต่ต้องทำเป็นภูมิภาคที่ต้องร่วมมือกันและต้องประเมินเป็นภูมิภาคไม่ใช่ต่างคนต่างทำทุกประเทศต้องร่วมมือกันโดยเฉพาะในประเทศอาเซียน