อ่านขาด! “พิชิต ไชยมงคล” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ฟันธง เพื่อไทย เปิดตัว “อุ๊งอิ๊ง” ชิงตลาด “คนรุ่นใหม่” กระสุนตกที่ก้าวไกล “เทพมนตรี” ข้องใจบางพรรค มีเจ้าของยังอยู่ได้ “เสื้อแดง” เตือน “ทักษิณ” ซ้ำรอยอดีต
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (24 มี.ค.) นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย โพสต์เฟซบุ๊ก Pichit Chaimongkol ระบุว่า
“กระสุนตกที่ก้าวไกล
การเปิดตัวหัวหน้าครอบครัวคนใหม่ ของครอบครัวเพื่อไทยในชินวัตรสนับสนุน เป็นการเปิดตลาดการเมืองใหม่ที่หลายพรรคทำไม่ได้ ตลาดที่ว่าคือตลาดคนรุ่นใหม่ ซึ่งเจ้าของพื้นที่เดิม คือ พรรคก้าวไกล นั่นเอง แต่จุดได้เปรียบต่างกัน
เริ่มจากตลาดคนรุ่นใหม่ก่อน ไม่มีพรรคการเมืองไหนที่สามารถเปิดความเป็นคนรุ่นใหม่ ขวัญใจวัยรุ่นได้เลย ไม่ว่าจะ พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ดังนั้น ตลาดคนรุ่นใหม่เปิดขึ้นได้ด้วย พรรคอนาคตใหม่ในอดีต ซึ่งต้องยอมรับว่า เป็นคุณูปการอันใหญ่สำหรับการเมืองไทย (ผิดถูกอีกคนละประเด็น)
ดังนั้น จึงมองว่า การที่เพื่อไทยเปิดตัว อุ๊งอิ๊ง เป็นหัวหน้าครอบครัว ก็เพื่อตลาดการเมืองกลุ่มนี้ และเชื่อว่า คณะคนรุ่นใหม่ ทีมงานของอุ๊งอิ๊งจะตามมาอีกหลายคน ซึ่งเปรียบเสมือนการผสมเลือด ผสมรุ่น ระหว่าง ใหม่ กลาง เก่า
ใหม่ คือ อุ๊งอิ๊ง ที่จะเป็นหัวขบวน
กลาง ถึง เก่า ก็มี ส.ส.ในกำมืออยู่แล้ว
ทั้ง ใหม่ กลาง เก่า ร้อยเป็นสายเครือเดียวกันได้ เพราะ ทักษิณ ชินวัตร
ความได้เปรียบของเพื่อไทยอยู่ตรงนี้ มีการใช้อำนาจของนักการเมืองที่เป็นจริง มีการตอบแทนผลประโยชน์แก่นักการเมืองอย่างเป็นจริง (ผิดถูกคนละประเด็น) มาบวกกับพลังทักษิณเข้าไปโดยมีภาพ อุ๊งอิ๊ง นำ จึงน่าจับตามอง
ว่าสุดท้ายจะลงเอย แค่ทักษิณหรือไม่ อย่างไร
พรรคก้าวไกล เจ้าของตลาดเดิม หากมองผิวเผิน เหมือนได้เปรียบ แต่ในเชิงยุทธศาสตร์คะแนนเสียง คิดว่า น่าจะถูกสั่นคลอนแน่นอน
ก้าวไกล ถูกตั้งคำถามจากคนรุ่นใหม่ในกรณีการชุมนุมคณะราษฎร พอสมควร ถึงแม้จะมีบารมี เอก ธนาธร ช่วยประคองบุญเก่า แต่มันไม่ปังเหมือนเดิม โดยเฉพาะตลาดคะแนนเสียงถูกจำกัดอยู่ที่คนรุ่นใหม่ ถึงจะมีเก่าบ้างบางส่วน แต่ก็ไม่มีผลในเชิงการใช้อำนาจและผลประโยชน์ตอบแทนได้อย่าง เพื่อไทย
ยิ่งการถูกตั้งคำถามกันเอง ในหมู่นักเคลื่อนไหวชิงประชาธิปไตยเป็นของพวกตนแล้ว ยิ่งน่าสนใจในการเลือกตั้งครั้งหน้า อาการประเมินตัวเองสูง มองศัตรูต่ำ ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้างในทรรศนะก้าวไกล ซึ่งมันประเมินมาจากการที่พรรคเอง หรือ คณะก้าวหน้า ซึ่งเป็นคณะอุปถัมภ์ หรือโยมอุปถากพรรคก้าวไกล ได้ประกาศชนะทุกเขต ทวงคืนพัทยาบ้าง เปิดตัวเหมือนรับชัยชนะ แต่ก็ตรงกันข้ามทุกครั้ง มันยิ่งสะท้อนความสั่นคลอนในความเชื่อถือพรรคไปได้
ดังนั้น การเปิดตัวหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จึงเป็นการเปิดในเชิงยุทธศาสตร์คะแนนเสียงและกลุ่มคนเลือกตั้งไปในตัว ซึ่งเกมแบบนี้ กระสุนมันจึงตกมาที่พรรคก้าวไกลแบบหลีกเลี่ยงไม่ออก นั่นหมายถึง คะแนนคนรุ่นใหม่ มีการเฉลี่ยหารกันแน่นอน
ปัญหาของเพื่อไทย คือ สลัดคราบทักษิณชักใยไม่ออก ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
คนในพรรคก้าวไกลหลายคนก็ตั้งคำถามแบบไม่พอใจกับประชาธิปไตยที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
ส่วนพรรคอื่นนะเหรอ จะสร้างภาพคนรุ่นใหม่ขนาดไหน ก็ยังไม่สามารถสร้างขึ้นได้
มันน่าสนใจตรงนี้ สมมตินะสมมติ เพื่อไทยเป็นรัฐบาลแล้ว อุ๊งอิ๊ง ทำแบบอาปู ปูเสื่อรอรับพ่อกลับประเทศ
แม่น้ำร้อยสายจะเกิดขึ้นทันที น่าสนใจคือ แม่น้ำก้าวไกลกับสาขาก้าวหน้า จะไหลบากด้วยหรือไม่นะซิ
ถามกับลมกับฝนไปงั้นๆ ละ”
ขณะเดียวกัน นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักประวัติศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
“พรรคการเมืองพรรคหนึ่งเห็นประเทศไทยเป็นเพียงบริษัทในเครือ สร้างธุรกิจการเมือง สร้างเครือข่ายหลอกชาวบ้าน นักการเมืองทำตัวเป็นฝูงควายให้เขาสนตะพาย แปลกแต่จริงที่คนไทยลุ่มหลงเมามัว อ้างศรัทธาแต่แท้จริงคือความโง่เขลา หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องรู้เห็นเป็นใจให้พรรคการเมืองพรรคนี้ คงสถานะความเป็นพรรคการเมืองอยู่ได้ ใครเป็นเจ้าของพรรค คนเขารู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง
ไอ้ขี้หมากองเดียว กลับบ้านไม่ได้!”
ขอบคุณข้อมูลและภาพ เพจเฟซบุ๊ก Thepmontri Limpaphayorm
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง” โพสต์เฟซบุ๊กถึงความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย และ นายทักษิณ ชินวัตร ว่า
“พรรคเพื่อไทยเปิดแคมเปญครอบครัวเพื่อไทย ที่อุดร ประกาศตั้ง คุณอุ๊งอิ๊ง เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย
การเปิดตัวบุตรสาวอดีตนายกฯ ทักษิณ เตรียมเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งนายกฯเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ควรตระหนักคือคำว่า “ครอบครัว” เป็นคำละเอียดอ่อนที่ควรหลีกเลี่ยง
เนื่องจากเสี่ยงที่จะถูกตีความหรือกล่าวหาว่าเป็นพรรคการเมืองของครอบครัวชินวัตร มิใช่พรรคการเมืองของคนไทยทั้งประเทศ ผมทักท้วงมามิใช่ต้องการแซะหรืออะไร แต่อยากให้ระมัดระวังในเรื่องที่อ่อนไหว
อย่าลืมว่า ฝ่ายตรงข้ามจ้องที่จะปลุกกระแสฟาสซิสต์มาต่อต้านพรรคเพื่อไทย ในอดีตคุณทักษิณเคยถูกขับไล่จากเรื่องการขายหุ้นชินฯที่ไม่เสียภาษี ทั้งที่ในความเป็นจริงการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ก็ไม่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริงเรื่องง่ายๆ ที่หลายคนมองข้ามกลับนำไปสู่ภัยร้ายที่จะตามมาในอนาคต
#อย่าทำผิดพลาดซ้ำรอยในอดีต”
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ “อุ๊งอิ๊ง” กับฐานเสียง “คนรุ่นใหม่” ที่อดีตพรรคอนาคตใหม่ มาจนถึงบ้านหลังใหม่ “ก้าวไกล” อุตส่าห์สร้างมากับมือ กำลังจะถูกคนเจ้าเล่ห์เจ้าเหลี่ยม “ชุบมือเปิบ” เอาง่ายๆ จะยอมได้หรือ?
แต่ความเป็นจริง “คนรุ่นใหม่” ก็อาจต้องแยกแยะให้ออกเช่นกัน ว่า เป็นคนรุ่นใหม่สาย “สามนิ้ว” หรือ “สาวกม็อบสามนิ้ว” หรือ คนรุ่นใหม่ ทั่วไป นอกเหนือจากที่ศรัทธา “สามนิ้ว”
ยิ่งกว่านั้น ยังมีการวิเคราะห์กันอีกว่า “คนรุ่นใหม่” ในสาย “สามนิ้ว” ก็ยังมีกลุ่มที่ไม่ยอมรับ หรือ เห็นดีเห็นงามกับการ “ปฏิรูปสถาบันฯ” ก็มี แม้ว่า ต้องการเรียกร้องประชาธิปไตย เช่นเดียวกันกับขบวนการ “สามนิ้ว” ก็ตาม
เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็อาจเห็นการช่วงชิงฐานเสียงคนรุนใหม่ ดังนี้
กลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เป็นสาวกขบวนการ “สามนิ้ว” แทบจะโดยปริยายอยู่แล้ว ยกเว้นมีญาติเป็นผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย หรือแม้แต่มีญาติเป็นผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย ก็ตาม ส่วนนี้จะเลือก พรรคก้าวไกล อย่างไม่ต้องสงสัย และยากที่พรรคเพื่อไทยจะช่วงชิงได้
อย่าลืมว่า “สาวกสามนิ้ว” มองว่า “ทักษิณ” สู้ไปกราบไป แทงกั๊ก “ปฏิรูปสถาบันฯ” และศาสดาของพวกเขาก็ชี้นำให้ก้าวข้าม “ทักษิณ” ไปได้เลย
ส่วนคนรุ่นใหม่ ที่พรรคเพื่อไทย มีลุ้นแย่งชิงไปได้ ก็คือ คนรุ่นใหม่ทั่วไป ที่อาจมองว่า “อุ๊งอิ๊ง” เป็นผู้นำคนรุ่นใหม่คนเดียว ในบรรดาหัวหน้าพรรคทั้งหมด แถมเป็น “ผู้หญิง” จึงอาจมองอดีตของ “ทักษิณ” เป็นคนละเรื่องเดียวกัน แต่ไม่มีอิทธิพลมากนักต่อการตัดสินใจเลือก
อีกส่วนคือ คนรุ่นใหม่ที่ “ศรัทธาสามนิ้ว” แต่ไม่เห็นด้วยกับการ “ปฏิรูปสถาบันฯ” และอาจหันเหความสนใจมาที่ “อุ๊งอิ๊ง” ก็เป็นได้
นี่คือ เหลี่ยม “ทักษิณ” ที่พักหลัง แม้แต่การเคลื่อนไหวผ่าน “คลับเฮาส์” ก็พยายามที่จะเอาใจคนรุ่นใหม่ ทั้งการกำหนดประเด็นให้โดนใจคนรุ่นใหม่ และการสนับสนุนการต่อสู้ของคนรุ่นใหม่
ตามแผนก็อย่าง “พิชิต ไชยมงคล” วิเคราะห์ไว้ “...เปรียบเสมือนการผสมเลือด ผสมรุ่น ระหว่าง ใหม่ กลาง เก่า ใหม่ คือ อุ๊งอิ๊ง ที่จะเป็นหัวขบวน กลาง ถึง เก่า ก็มี ส.ส.ในกำมืออยู่แล้ว ทั้ง ใหม่ กลาง เก่า ร้อยเป็นสายเครือเดียวกันได้ เพราะ ทักษิณ ชินวัตร”
ด้วยแผนนี้ “อุ๊งอิ๊ง” จึงกล้าพูดถึงการจัดตั้งรัฐบาลอย่างมั่นใจ ส่วนจะเป็นจริงหรือไม่ “ทักษิณ” อยู่ในฐานะเป็นเหรียญสองด้านที่ให้ทั้งคุณและโทษ อยู่ที่ด้านไหนจะมากกว่ากัน จะเป็นตัวบอกความสำเร็จหรือ ล้มเหลว ต้องดูกันยาวไป!