“ขี้หมากองเดียว” โทนี่ หงายไพ่ ชู “อุ๊งอิ๊ง” ชิงนายกฯ!!

เมืองไทย 360 องศา

หากย้อนศรคำพูดของ “โทนี่แม้ว” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษหลบหนีคดีทุจริตหลายคดี ที่คุ้นชินกับคำว่า “ขี้หมากองเดียว” ในการพนันขันต่อแบบหยามเหยียดฝ่ายตรงข้าม แต่ไม่เคยทำได้จริงสักครั้ง

ขณะเดียวกัน ในมุมของพรรคเพื่อไทย เชื่อว่า คนไทยเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็เข้าใจว่า นายทักษิณ และครอบครัว เป็นเจ้าของ และคงมองว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนปัจจุบัน ไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ความหมายไม่ต่างจาก “หุ่นเชิด” เท่านั้น

สำหรับคอการเมืองที่ติดตามพรรคเพื่อไทยมานานย่อมเข้าใจ และมองออกได้ไม่ยาก ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยังคงมีอิทธิพลภายในพรรคการเมืองพรรคนี้มาตลอด ยังคงมีความพยายามกลับมามีอำนาจรัฐอย่างต่อเนื่อง หลังจากพลาดหวังจากการเลือกตั้งคราวที่แล้วเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา จนพรรคเพื่อไทย ต้องกลายเป็นฝ่ายค้านมาจนถึงปัจจุบัน

แต่ล่าสุด ก็เกิดความพยายามอีกครั้ง แต่คราวนี้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นภายในพรรคเพื่อไทย นั่นคือ “ผลักดันลูกสาวคนเล็ก” คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นตัวแทนของตัวเอง เพื่อหวังให้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงอีกคนหนึ่ง หลังจากก่อนหน้านี้ได้ผลักดันน้องสาว คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ในที่สุดก็ถูกขับไล่และต้องหลบหนีคดีที่เชื่อมโยงกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

การคาดหมายในแบบที่ว่า “กูว่าแล้ว” หรือแบบ “ขี้หมากองเดียว” ที่เริ่มจาก การให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็ก เข้ามามีบทบาทในพรรคเพื่อไทย ชิมลางในตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรคด้านการมีส่วนร่วมฯ ซึ่งในตอนนั้นคนทั่วไปก็มองออก และ “ฟันธง” กันแล้วว่า เธอนี่แหละ จะเป็น “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” ของพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไป และที่ผ่านมา ทั้ง นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่พูดทำทางนำร่องมาตลอดทำนองว่า “หมดยุคของคนรุ่นเก่า ต้องเปิดทางให้คนรุ่นใหม่” แต่อีกด้านหนึ่งก็มองว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก หากเป็นเรื่องของ “เจ้าของบริษัทจะมอบอำนาจการบริหารให้กับลูกสาว ซึ่งเป็นทายาท”

ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติมลฑาทิพย์ ฮอลล์ อ.เมืองฯ จ.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ได้จัดงาน “ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” โดยมีแกนนำ และ ส.ส.รวมทั้งสมาชิกพรรค เข้าร่วมกิจกรรมก็ได้มีการประกาศแต่งตั้งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็น “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย” ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่เป็นหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ลดฐานะลงมาเป็นแค่สมาชิก เท่านั้น

น.ส.แพทองธาร ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้กล่าวว่า ปัจจุบันพรรคเพื่อไทยเติบโต เปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด ฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย แม้หลายคนจะไม่ได้อยู่ในแวดวงการเมือง และย้ายบ้านไปบ้าง แต่ยังมีหลายคนที่ยังอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนี้ อยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน พรรคเพื่อไทยมีต้นทุนที่สำคัญที่สุด คือ ประสบการณ์การเป็นรัฐบาลมาหลายยุค เป็นจุดเด่นที่พรรคเพื่อไทยมีมากกว่าพรรคอื่น เป็นพรรคการเมืองที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยพรรคเดียวหลายสมัย พร้อมยอมรับว่า ที่ผ่านมา มีประสบการณ์ทั้งดี และร้าย พรรคเพื่อไทยพร้อมนำมาเป็นบทเรียนเพื่อทำปัจจุบัน และอนาคตที่ดีกว่า

“ประสบการณ์ของรัฐบาลไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าถึงเวลาแล้วที่พรรคเพื่อไทย จะต้องเปลี่ยนแปลงในเพื่อปรับตัวให้ทันกับความต้องการของพี่น้องประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไป ต้องเป็นพรรคเพื่อไทยในเวอร์ชันที่ดีกว่า” น.ส.แพทองธาร กล่าว

น.ส.แพทองธาร ยังได้กล่าวถึงเป้าหมาย 2 ประการ เพื่อให้พรรคเพื่อไทยเป็นความหวังของประชาชนอีกครั้ง คือ 1. สร้างการมีส่วนร่วมให้คนหลายรุ่นได้มาทำงานร่วมกัน เพื่อหาตรงกลาง ตอบสนองความต้องการของคนทุกรุ่นให้ได้มากที่สุด และ 2. เราต้องเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ระบอบเผด็จการต้องหมดไป โดยการเตรียมความพร้อมเอาไว้ หากไม่สามารถสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นโยบายจะดีแค่ไหน จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้

“อำนาจรัฐเท่านั้นที่จะเป็นทางออกในเวลานี้ และเป็นจุดที่พรรคเพื่อไทยต้องไปให้ถึง ยืนยันว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทย จะเติมเงินในกระเป๋าให้พี่น้องประชาชนได้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อีกครั้ง”

น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยต้องสร้างการมีส่วนร่วมกับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด ผ่านโครงการครอบครัวเพื่อไทย เหมือนกับที่ในสมัยไทยรักไทย มีสมาชิกพรรคกว่า 14 ล้านรายชื่อ กิจกรรม “ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม” จึงเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชน อย่างไม่ผูกมัด ไม่มีเงื่อนไขทางกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อไปสู่เป้าหมายการเลือกตั้ง แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน เราพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งอีกครั้งเมื่อถึงเวลา และ 14 ล้านเสียงในช่วงพรรคไทยรักไทย จะเกิดขึ้นอีกในครั้งนี้ พี่น้องประชาชนที่สนใจเข้าร่วมครอบครัวเดียวกันกับเรา ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม

“บ้านหลังใหญ่หลังนี้ จะขอต้อนรับทุกท่านด้วยหัวใจดวงเดิม ไม่ว่าท่านจะอยู่กับเรามานานแล้ว หรือเพิ่งเข้ามาอยู่ก็ตาม เราจะอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว จะสู้ด้วยกันอย่างเข้มแข็ง เราจะไม่ทิ้งกันค่ะ” น.ส.แพทองธาร กล่าว

และแม้ว่าเธอจะให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมา ว่า ไม่พูดถึงเรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ต้องการโฟกัสเรื่องปากท้องคนไทยก่อน ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะยังไม่ถึงเวลาเปิดตัว แต่ฟันธงแบบ “ขี้หมากองเดียว” ล่วงหน้า ว่า ต้องใช่แน่นอน เพราะเปิดตัวมาไกลแล้ว รอเพียงประกาศชื่อเท่านั้น

ฟังจากคำพูดของเธอก็ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะเป้าหมายก็คือ “ต้องการชนะการเลือกตั้ง และควบคุมอำนาจรัฐ” เท่านั้น และครั้งนี้ก็เป็นการใช้ “การเมืองระบบครอบครัวชินวัตร” เข้ามาขับเคลื่อนการเมือง และการเลือกตั้งครั้งต่อไปอย่างชัดเจนและเต็มตัว ขณะเดียวกัน ก็ถือว่า “เป็นความเสี่ยง” และการ “เดิมพัน” ครั้งสำคัญของ นายทักษิณ ชินวัตร เลยทีเดียว

เพราะอย่างที่รับรู้กัน ก็คือ เป้าหมายหลักของ นายทักษิณ ก็คือ “ต้องการกลับบ้านแบบไม่ต้องติดคุก” เท่านั้น หรือไม่ก็กลับมาในช่วงที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ที่หวังว่าใช้กลไกอำนาจรัฐในการช่วยเหลือทางด้านคดี อย่างน้อยก็มีหลักประกันในด้านการ “ประกันตัว” อะไรประมาณนั้น รวมไปถึงการ “นิรโทษกรรมสุดซอย” เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในยุคของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และกลายเป็นชนวนความวุ่นวายตามมา

แต่ความเสี่ยงดังกล่าวจะเกิดขึ้นก็ต้องหลังจากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งแบบ “แลนด์สไลด์” และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร “ลูกสาวคนเล็ก” เป็นนายกรัฐมนตรี เสียก่อน อย่างไรก็ดี ความคาดหวัง และ “ความฝัน” ย่อมมีกันทุกคน เพียงแต่ว่าจะเป็นจริงได้หรือไม่ต่างหาก อีกทั้งสถานการณ์ในเวลานี้เมื่อเทียบกับยุค นายทักษิณ และพรรคไทยรักไทย ในอดีต มันต่างกันลิบลับ สังคมรับรู้ธาตุแท้กันมากแล้ว ขณะเดียวกัน คู่ต่อสู้ก็เปลี่ยนไป มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว !!