xs
xsm
sm
md
lg

“อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นแท่นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ใกล้แคนดิเดตนายกฯ เป้าหมายชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ **ดรามา “หมอของขวัญ” จะโหนทุกกระแสไม่ได้! เมื่อมีแสง หิวแสง ได้แสง แต่โดนขุดโดนคุ้ยอาจจะอับแสงได้นะจ๊ะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว



**“อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นแท่นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ใกล้แคนดิเดตนายกฯ เป้าหมายชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์

มีพัฒนาการไปอีกระดับขั้น เมื่อ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ก่อนหน้านี้ เปิดตัวในฐานะ ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และมีการคาดหมายว่า เมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง คงรั้งตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค

ล่าสุด วานนี้ (20 มี.ค.) บรรดาแกนนำพรรค ยกขบวนกันไปที่ จ.อุดรธานี เพื่อจัดกิจกรรม “ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” งานนี้ “หมอชลน่าน” ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เท้าความถึงที่มาของพรรคเพื่อไทย ครอบครัวเพื่อไทย สืบสายพันธุ์ สืบสายเลือดจากไทยรักไทย พลังประชาชน มาถึงเพื่อไทย โดยครอบครัวเพื่อไทย จะเป็นนวัตกรรมใหม่ของภาคประชาชน ก่อนจะสรุปว่า หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย คือ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร

ไม่ใช่หัวหน้าพรรค ไม่ใช่แคนดิเดตนายกฯ แต่เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย!! ที่มีเป้าหมายแลนด์สไลด์ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อนำพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลให้ได้ และ “อุ๊งอิ๊ง” ย้ำว่า เผด็จการจะต้องหมดไป

มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาทันทีกับตำแหน่งใหม่ของ “อุ๊งอิ๊ง” อย่างเช่น เฟซบุ๊ก Atukkit Sawangsuk ของ นายอธึกกิต แสวงสุข หรือ นามปากกา “ใบตองแห้ง” โพสต์ข้อความระบุว่า

“ฟังแล้วก็ยังงงๆ เราคงไม่แปลกใจ ถ้าจะใช้สโลแกนแบบ อุ๊งอิ๊ง ความหวังใหม่ของเพื่อไทย... อุ๊งอิ๊ง อนาคตอันรุ่งโรจน์... อุ๊งอิ๊ง ผู้สืบสานความสำเร็จ บลาๆๆๆ

แต่บอกว่า เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย “ขุ่นแม๊” ในวัย 35 (ขณะที่บรรดา ส.ส. 50-60-70) นี่มันตลกๆ อยู่นะ แม้ไม่ถือเรื่องวัย แต่ทำไมต้องใช้คำว่า “หัวหน้าครอบครัว” ซึ่งมันไม่เข้ากับบุคลิก จุดเด่น หรือจุดขายอะไรเลย

แพทองธาร ชินวัตร
ขณะที่ “สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีต กกต. โพสต์ว่า...การเปิดตัวอุ๊งอิ๊ง เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย มีความหมายทางการเมืองอย่างไร 1. ครอบครัว ใหญ่กว่าพรรค 2. การเป็นสมาชิกครอบครัว ทำลายกำแพงข้อจำกัดของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ที่สมาชิกพรรคต้องเสียค่าสมาชิก 200 บาท/ปี เป็นสมาชิกครอบครัวไม่ต้องเสียเงิน 3. การเป็นสมาชิกครอบครัว จึงไม่มีข้อจำกัดใดๆ แต่กลายเป็นฐานสนับสนุนของพรรคในการเลือกตั้ง
4. ถือเป็นการเดินเกมทางการเมืองใหม่ของพรรคเพื่อไทย แต่ต้องระวังเรื่องการให้สิทธิประโยชน์แก่คนในครอบครัวเพื่อไทย เพราะยังถือว่าเป็นกิจกรรมทางการเมืองของพรรคอย่างหนึ่ง ที่ยังต้องถูกควบคุมโดย พ.ร.ป. พรรคการเมือง 5. มีคำทำนายว่า หัวหน้าครอบครัว คือ อีกก้าวที่เข้าใกล้ตำแหน่งผู้ที่พรรคเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี 6. “อุ๊งอิ๊ง” วันนี้ ดูไม่สดใส ไม่เฉียบเท่าการเปิดตัวครั้งที่แล้ว น่าจะเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง หากจะเป็นแบบข้อ 5 ยังต้องเทรนให้มีพลังแบบคุณพ่อและมีเสน่ห์แบบคุณอาอีกนิด”
ส่วน “แรมโบ้” เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เห็นว่า ที่ประกาศจะชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ คงเป็นเรื่องที่ยาก เพราะประชาชนรู้พฤติกรรมของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดี ทำตัวเป็นฝ่ายค้าน มุ่งแต่ช่วยเหลือพ่อและอา น.ส.แพทองธาร ให้พ้นผิด กลับประเทศไทย ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรจากพรรคเพื่อไทยเลย
“ที่น้องอุ๊งอิ๊ง บอกจะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ และระบบเผด็จการต้องหมดไปนั้น อยากจะทำความเข้าใจใหม่ว่า หากหมายถึง นายกฯ ประยุทธ์ ยืนยันว่า มาถูกต้องตามกติกาทุกอย่าง...

ทักษิณ ชินวัตร
... มีคนมากมายฝากมาบอกด้วยความห่วงใย และสงสารน้องอุ๊งอิ๊ง กลัวโดนชะตากรรมวิบากกรรมเหมือนคุณพ่อ และคุณอา เป็นที่สุด สิ่งที่คุณพ่อและคุณอากำลังจะทำให้น้องอุ๊งอิ๊งเข้ามาสู่อำนาจเพื่อที่จะออกกฎหมายโดยมิชอบหรือใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ส่วนตัวช่วยเหลือเรื่องคดีล้างมลทินนำคุณพ่อและคุณอากลับบ้านอีก...
แน่นอนว่าคำถามที่ “อุ๊งอิ๊ง” ต้องเจอ คือ จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย หรือไม่ ...คำตอบคือ ยุบสภาเมื่อไรค่อยว่ากัน
เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พูดหลายครั้งว่าอยากกลับมาเมืองไทย ในฐานะลูกสาวของนายทักษิณ มีเป้าหมายเรื่องนี้อย่างไร “น.ส.แพทองธาร” กล่าวว่า คุณพ่ออยากกลับมาเลี้ยงหลาน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพรรคเพื่อไทย ...เรื่องพ่อกลับบ้าน ไม่ใช่เป้าหมายหลัก วันนี้ปัญหาหลักของประเทศ คือ ปากท้อง คือเศรษฐกิจ และปัญหาของประชาชน ไม่ใช่ปัญหาของครอบครัวอิ๊ง ควรจะโฟกัสตรงนั้น
ถึงวันนี้ การที่ตั้ง “อุ๊งอิ๊ง” เป็น “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย” อาจเป็นไปตามที่ “สมชัย” วิเคราะห์ นั่นคือ การยกฐานะให้สูงขึ้นกว่าหัวหน้าพรรค เพื่อไม่ต้องถูกตั้งข้อครหา เมื่อเวลาได้รับการโปรโมตให้เป็นแคนดิเดดตนายกรัฐมนตรีของพรรคแบบไม่ต้องข้ามหัวใคร

ทั้งหมดน่าจะมีการวางแผนเอาไว้แล้วอย่างเหมาะเจาะพอดี กับการเปิดตัวแคมเปญใหม่ และมติใหม่ความหวังเก่าของ “ทักษิณ” นั่นเอง



นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว - สมชัย ศรีสุทธิยากร
**ดรามา “หมอของขวัญ” จะโหนทุกกระแสไม่ได้! เมื่อมีแสง หิวแสง ได้แสง แต่โดนขุดโดนคุ้ยอาจจะอับแสงได้นะจ๊ะ

กลายเป็นคนที่โลกโซเชียลฯ พูดถึงกันมากในช่วงนี้จนเป็นกระแสฮอตมาสองสามวันนี้ กรณี “หมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์” หรือ เคท ที่ชาวเน็ตเห็นว่า เธอนั้นขยันออกสื่อ พาตัวเองไปอยู่ในที่ที่มีแสงจนไม่ต่างกับพวก “หิวแสง” เพราะโหนได้ทุกเรื่องที่เป็นดรามา เรื่องที่สังคมกำลังให้ความสนใจ เรื่องไหนดังเป็นต้องมี “หมอของขวัญ” เข้ามาแสดงความเห็น อย่างเรื่อง คดีแตงโม นิดา เสียชีวิต มาถึงเรื่องดรามา พิมรี่พาย ยูทูบเบอร์สาว แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง ที่มีปัญหาการแสดงออกทางอารมณ์ระหว่างไลฟ์สด ซึ่งแต่ละเรื่องที่ หมอของขวัญ ไปคอมเมนต์มักโดนสังคมโซเชียลฯจัดทัวร์ลงตลอด

แม้ทัวร์จะลง แต่ดูเหมือน “หมอของขวัญ” จะไม่สะทกสะท้าน แถมฟาดกลับในหลายกรณี เพราะ อาจจะมองไปอีกมุมว่า แต่ละเรื่องก็ได้แสงเป็นการตอบแทน เพิ่มเติมความดังของเธอมากขึ้น คนรักชอบ ติดตามเป็นแฟนคลับเธอก็มีจำนวนไม่น้อย ซึ่งกลุ่มนี้ก็มองว่า หมอของขวัญ เป็นหมอสุดปัง หน้าตามสะสวย แถมฉลาด เป็นมากกว่าหมอ และ ช่วยสังคม

แต่ยิ่งหมอมีแสง ก็ยิ่งถูกขุด จนล่าสุดเพจหมอเพจหนึ่ง ได้ออกมาเผยข้อมูลเป็นภาพจดหมายจากแพทยสภา มีมติลงโทษ “หมอของขวัญ” พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตั้งแต่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2565 พร้อมกับระบุว่า มีวงในแจ้งว่าอาจไม่ได้พักแค่ 3 เดือน น่าจะเป็น 6 เดือน เพราะมีคดีรอพิจารณาอีกเพียบ สิริรวมแล้วอาจโดน 2-3 ปี

งานนี้ บรรดาชาวเน็ตไม่พลาดจัดทัวร์กระหน่ำหมอของขวัญซ้ำเหมือนเดิม โดยบางคนแสดงความเห็นถึงหมอของขวัญ รู้ทุกเรื่อง โหนทุกกระแส แต่เรื่องของตัวเองกลับทำเป็นไม่รู้เรื่อง ส่วนใหญ่แซะหมอของขวัญ ว่า ถึงว่าทำไมเกาะทุกกระแส ว่างงานนี่เอง หมอเกมแล้ว

หมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์
โดนจี้จุดในวิชาชีพ ที่หลายคนก็สงสัย “หมอของขวัญ” เป็นหมอจริงๆ หรือ เป็นหมอหาความ หาแสง อย่างเดียวอย่างนี้ หมอของขวัญ จึงต้องออกมาโพสต์ ระบุว่า ส่วนที่มีเพจหมอท่านหนึ่งโพสต์และเป็นข่าว เรื่องหมอกำลังจะถูกพักใบอนุญาตเป็นเวลาหลายปี อันนี้ต้องหยุดมโนและสร้าง Fake News นะคะ เคสที่เป็นเอกสารจากแพทยสภา เกิดขึ้นประมาณปี 2558 เคสนี้คนไข้ไม่ได้มีภาวะแทรกซ้อนอะไร และได้ตกลงเซ็นเอกสารยอมความจบไปหลายปีแล้ว

แต่พอหมอออกมา Call Out ทางการเมือง แพทยสภาก็ส่งจดหมายพักใบอนุญาต 3 เดือน มกราคม-มีนาคม 2565 ด้วยสาเหตุใดไม่อาจทราบได้ ด้วยความเคารพ แต่คำสั่งของแพทยสภา “ไม่ใช่คำสั่งถึงที่สุดนะคะ” ตอนนี้หมอได้ฟ้องเพื่อขอเพิกถอนคำสั่งของแพทยสภาต่อศาลปกครอง และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล จบนะคะ ไม่ออกทะเล

“หมอของขวัญ” โพสต์ก็หวังจะปิดเกมข่าว แต่ปรากฏว่า เพจหมอคู่กรณี ไม่จบด้วย โดยมีโพสต์ตามมาถึงหมอของขวัญ ว่า “ก็รอดูกันไป ทำผิด หลอกลวงคนไข้ ก็ชดใช้กรรมไป นอกจากนี้ แม้ทางคดีจะเคลียร์กับคู่กรณี/ผู้เสียหายไปแล้ว แต่ความผิดทางเวชปฏิบัติก็ไม่หายไปนะ ? อีกโพสต์ ระบุ “เพิ่งโดนตอนนี้ ก็เพราะมันมีหลายมูล หลายเหตุจนต้องพิจารณานานไง ปล. ผมก็มั่นใจในแหล่งข่าวของผม คิดจริงๆ เหรอ ว่า ทำไม่ดีแล้วจะไม่มีคนขุดได้” ตามด้วย “สาเหตุที่โดนพักใบอนุญาต เพราะอดีตเคยโดนตักเตือนแล้ว แต่ยังกระทำผิดหลายกระทงในคนไข้คนเดียว จึงได้มีการพิจารณาให้ถูกพัก”

ดรามานี้ทำให้หลายๆ คน อยากทำความรู้จักกับ “หมอของขวัญ” มากขึ้น ซึ่งตามโปรไฟล์ที่เปิดเผย ระบุว่า เธอจบปริญญาตรี คณะแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร จบอนุปริญญา วิทยาศาสตร์ผิวหนังจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งเวลส์ ประเทศอังกฤษ ได้วุฒิบัตรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์การแพทย์ความงาม ประเทศสหรัฐอเมริกา และ วุฒิบัตรศัลยกรรมเลเซอร์เฉพาะทาง ประเทศสหรัฐอเมริกา

จากที่มีวุฒิบัตรการันตี “หมอของขวัญ” จึงเปิดธุรกิจคลินิกศัลยกรรมความงาม “ของขวัญคลีนิก” โดยมีสาขามากกว่า 14 แห่ง ซึ่งก็ว่ากันว่า ธุรกิจเธอไปได้สวย และจากการพรีเซนต์ตัวเองในภาพลักษณ์ของหมอสาวหน้าตาดี แต่งตัวเซ็กซี่ พูดจาแรง แถมไฮโซ สื่อต่างๆ พากันรุมตอมให้ความสนใจ ยกให้หมอมาแรงในยุคหนึ่ง หรือเมื่อเกือบ 10 กว่าปีก่อน

งานนี้เรียกว่า “หมอของขวัญ” เธอนั้นเคยมีแสงในตัวเองมาก่อน ส่วนจะมาหิวแสงเอาแสงเพิ่มช่วงนี้ ด้วยการโหนทุกกระแสตามที่ชาวเน็ตแซะก็ดรามากันไป แต่ยังไงก็ตามของพรรค์นี้หมอของขวัญ ก็ย่อมรู้ดีกว่าใคร มีแสง หิวแสง ได้แสง แต่สุดท้ายโดนขุดโดนแซะเยอะๆ คนเราก็อาจจะอับแสงได้ในที่สุดนะจ๊ะ




กำลังโหลดความคิดเห็น