“ธนาธร” สร้างภาพนักสู้ ผู้ขจัดความเหลื่อมล้ำ!?

เมืองไทย 360 องศา

เป็นนักต่อสู้เพื่อสังคมนั้น มันไม่ง่ายจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องพิสูจน์ให้เห็นอีกด้วย ว่า เป็น “ของจริง” หรือว่า “ของปลอมลวงโลก” กันแน่ หรือบางคนอาจเพียงแค่ “เอาเท่” ขณะที่ตัวเองมีแบ็กกราวนด์เป็น “กลุ่มทุนสามานย์” มีพฤติกรรมย้อนแย้งมาตลอด ทั้งตัวเอง และคนสำคัญในครอบครัว ต่างก็ล้วนแต่มีคดีถูกกล่าวหากระทำผิดกฎหมาย ผิดจริยธรรม

นับตั้งแต่ต้นปีใหม่มานี้ สำหรับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่มีความพยายามสร้างภาพลักษณ์เป็น “นักต่อสู้” เพื่อความเป็นธรรม และเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เหมือนกับที่มีการสนับสนุน หรือถูกมองว่าอยู่เบื้องหลังคนสำคัญกับกลุ่ม “ม็อบสามนิ้ว” ที่เคลื่อนไหว เพื่อล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และอ้างถึงเรื่องการปฏิรูป การปฏิวัติสังคมว่ากันไป และต้องไม่ลืมว่า “สัญลักษณ์สามนิ้ว” ที่พวกเขาชูขึ้นมานั้น หมายถึง “เสรีภาพ ภราดรภาพ และเสมอภาค”
จะว่าไปแล้ว การเคลื่อนไหวของนายธนาธร เริ่มถูกจับตามองมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ที่มีข่าวว่าเขาพาครอบครัวไปต่างประเทศ โดยเป็นการไปท่องเที่ยวพักผ่อน ซึ่งก็ถูกเหน็บแนมจากฝ่ายตรงข้าม ทำนองเปรียบเทียบว่า “ตัวเองและครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อนต่างประเทศ สบายใจเฉิบ ขณะที่หลอกให้พวกเด็กๆ แกนนำม็อบสามนิ้ว ต้องฉลองปีใหม่อยู่ในคุก” อะไรประมาณนี้
แต่หลังจากนั้น เมื่อเขาเดินทางกลับมา ก็มีการโพสต์ลงโซเชียลฯ บอกว่า “ติดเชื้อโควิด” และต้องกักตัวตามมาตรการของรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งระบุว่า ติดเชื้อ แต่ไม่มีอาการ

อย่างไรก็ดี หลังจากนั้น ก็เกิดรายการที่เรียกว่า “โป๊ะแตก” หรือ ความลับแตกตามมา นั่นคือ เมื่อ “ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์” อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ออกมาเปิดโปง โดยอ้างข้อมูลว่า นายธนาธร ไปฉีดวัคซีน โดยฉีดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 64 เวลา 19.15 น. ที่โรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ ซึ่งหลายคนสงสัยว่า เวลาดังกล่าวนั้น ค่อนข้างน่าแปลกใจ

ต่อมา สำนักข่าว The Truth สอบถามไปยังแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถืออีกครั้ง โดยได้ตรวจสอบรายละเอียดแล้ว พบว่า ประวัติการฉีดวัคซีน ที่ ดร.อานนท์ นำมาเปิดเผยนั้น เป็นของ นายธนาธร จริงหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่า “เป็นความจริง”

โดย นายธนาธร เข้าไปฉีดวัคซีน “แอสตร้าเซนเนกา” ซึ่งผลิตโดย บจก.สยามไบโอไซเอนซ์ ในวันและเวลาดังกล่าวจริง โดยที่ไม่มีการลงทะเบียนล่วงหน้าแต่อย่างใด แต่เป็นการวอล์กอิน เข้าไปฉีด

นอกเหนือจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ข้อมูลการฉีดวัคซีนของ ส.ส.ในพรรคก้าวไกล โดยคนแรกคือ หัวหน้าพรรคก้าวไกล “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ฉีดวัคซีนเข็มแรก เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 เป็นวัคซีนซิโนแวค (C202104064) เข็มที่ 2 ฉีดเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564 วัคซีนซิโนแวค (C202104069) และเข็มที่ 3 ฉีดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2564 เป็นของแอสตร้าเซนเนก้า (210156)

ต่อมา “นายรังสิมันต์ โรม” ฉีดวัคซีนเข็มแรกจากเกาหลีใต้ เข็มแรกฉีดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 เป็น แอสตร้าเซนเนก้า (CTMAV509) ลอตที่ผลิตจากเกาหลีใต้ โดยกลุ่มบุคคลที่ได้ฉีด ลอตนี้ (พ.ค. 64) คือ บุคลากรทางการแพทย์ หรือประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เช่น สมุทรสาคร ภูเก็ต ฉีดเข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เป็น แอสตร้าเซนเนก้า (D007A) และเข็มที่ 3 ฉีดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2564 เป็น โมเดอร์นา (3005841)

“นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” ฉีดวัคซีนเข็มแรก เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 เป็นของซิโนแวค (C202104065) เข็มที่ 2 ฉีดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2564 เป็นวัคซีนซิโนแวค (C202105081) และเข็มที่ 3 ฉีดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 เป็นของแอสตร้าเซนเนก้า (A1092)

“นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร” เข้ารับวัคซีนเข็มแรก เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้า (A1003) เข็มที่ 2 ฉีดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 ของแอสตร้าเซนเนก้า (A1016) และเข็มที่ 3 เป็น วัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565

“น.ส.พรรณิการ์ วานิช” กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เข้ารับวัคซีนเข็มแรก เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2564 เป็นของแอสตร้าเซนเนก้า (A1009) และฉีดเข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2564 เป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (210003) และ เข็มที่ 3 ฉีดของโมเดอร์นา เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564

จากข้อมูลดังกล่าว จะเห็นได้ว่า ส.ส.พรรคก้าวไกล รวมไปถึงหัวหน้าพรรคและแกนนำคณะก้าวหน้า ได้เข้ารับการวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และ ซิโนแวค ซึ่งที่ผ่านมา ส.ส.คนดังกล่าว ก็ได้มีพฤติกรรมที่ออกมาด้อยค่าวัคซีนดังกล่าวหลายครั้ง

นั่นเป็นเรื่องข้อมูลในเรื่องการเข้ารับวัคซีนในไทม์ไลน์แปลกๆ คล้ายๆ กับพวก “อภิสิทธิ์ชน” ที่พวกเขามักยกขึ้นมาโจมตีอยู่ตลอดเวลา แต่หากโฟกัสไปที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หรือต้องรวมไปถึงคนในครอบครัวของเขาด้วย มีเรื่องให้ต้องพูดถึงกันในแบบตอกย้ำให้เห็นภาพอีกครั้ง จากภาพของ “นักต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม ความเสมอภาค และต่อต้านความเหลื่อมล้ำอภิสิทธิ์ชน” แต่พฤติกรรมเท่าที่เห็นล้วน “ย้อนแย้งหรือตรงกันข้าม” ทั้งสิ้น

หากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน “นายใจ อึ๊งภากรณ์” บุตรชาย “นายป๋วย อึ๊งภากรณ์” และนักเคลื่อนไหวทางสังคม ได้เคยตั้งคำถามกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่า “เป็นนักสร้างภาพ” โดยอ้างถึงกรณีที่บริษัทในเครือซัมมิท ที่ นายธนาธร เป็นรองประธานบริษัท เคยปราบปรามสหภาพแรงงาน ละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการรวมตัวของลูกจ้าง

จากนั้นก็มีปัญหาในเรื่องที่คนในครอบครัว เช่น นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกกล่าวหาในเรื่องการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ และต่อมาก็ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี และถัดมาก็มีกรณีพี่ชาย และคนในครอบครัวจ่าย “สินบนใต้โต๊ะ” กับเจ้าหน้าที่ในสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อแลกกับการเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินแปลงงามในย่านกลางเมือง ขณะที่ตัวเองกลับเคลื่อนไหวโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดเวลา รวมไปถึงการโจมตีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่ผลิตโดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ เพื่อกระทบไปถึงสถาบันฯ

ดังนั้น หากพิจารณาเฉพาะกรณีดังกล่าวมาเฉพาะเท่าที่จำได้ เพราะเป็นเรื่องที่สังคมพอจะจดจำได้ ก็จะมองเห็นในเบื้องต้นแล้วว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มีพฤติกรรมพูดอย่างทำอีกอย่าง เพราะทุกอย่างล้วนออกมาในทางตรงกันข้าม และถูกตั้งคำถามในเรื่อง “เสรีภาพ ภราดรภาพ และเสมอภาค” ที่เขาเคลื่อนไหวนั้น ล้วนเป็นเพียง “สร้างภาพ” สร้างราคาให้กับตัวเอง หรือว่านี่คือ อีกกลยุทธหนึ่งในการ “หาเสียง” หาคะแนนนิยมให้กับตัวเอง เพื่อหวังผลทางการเมืองบางอย่าง ทั้งที่ยังไม่เคยก้าวข้าม “น้ำเน่า” ได้เลย หรือบางทีอาจจะเน่ากว่าคนอื่นด้วยซ้ำไป !!