xs
xsm
sm
md
lg

จบไม่ลง! “ทอน” วัคซีนVIP ย้อนคำพูด “แม่” ลูกอุทิศเพื่อประเทศ? กางไทม์ไลน์ จงใจหมิ่นสถาบันฯ กรรมตามทัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ ย้อนคำพูด “แม่ทอน” ลูกอุทิศเพื่อประเทศ? ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
โซเชียลจวกยับ! ย้อนคำพูด “แม่ธนาธร” ชมลูกชายอุทิศตัวเพื่อประเทศ ไม่คิดกอบโกย? สาปแช่ง “ก๊วนด้อยค่าวัคซีน” หลงเชื่อจนต้องเสียพ่อ สุดท้ายก็แอบย่องไปฉีดกันหมด “ไทม์ไลน์” ชัด จงใจ “หมิ่นสถาบันฯ” กรรมตามทัน

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (9 ม.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น โซเชียลจวกยับ! ย้อนคำพูด “แม่ธนาธร” ชมลูกชายอุทิศตัวเพื่อประเทศ ไม่คิดกอบโกย แต่ยังรูดซิปปาก ไม่ตอบปมฉีดวัคซีน?

โดยระบุว่า จากกรณีที่มีประเด็นเรื่องการฉีดวัคซีนของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าอาจจะไม่โปร่งใส เนื่องจากในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพการฉีดวัคซีน ที่ รพ.แห่งหนึ่ง ในจังหวัดสมุทรปราการ เวลา 19.15 น.

ต่อมาเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นให้สังคมเกิดการตั้งคำถาม เนื่องด้วยในขณะนั้น มีประชาชนจำนวนมากยังต้องการที่จะได้รับการฉีดวัคซีน และทุกคนต่างลงคิวจนแน่น บางวันวัคซีนก็ไม่พอสำหรับคนที่มารอคิว แต่เหตุใดจึงเหลือไปถึง นายธนาธรได้ หรืออาจจะเป็นเพราะความเป็น VIP หรือมีเส้นสายภายใน รพ.ดังกล่าว แม้ว่าต่อมาทางทีมข่าว The truth ได้สอบถามไปยัง รพ. ก็พบว่า นายธนาธร ได้มาฉีดวัคซีนจริง ตามที่มีเอกสารหลุดออกมา

หลังจากที่กระแสบนทวิตเตอร์ได้มีการติด #วัคซีนVและออกมาจี้ให้นายธนาธร ชี้แจงเรื่องการฉีดวัคซีน ที่ปรากฏเอกสารออกมาว่อนโซเชียล ว่า เข้ารับการฉีดวัคซีนในเวลา 19.15 น. นั้น มีความผิดปกติหรือไม่ ทั้งนี้ ได้มีคอมเมนต์ของกลุ่ม 3 นิ้ว ที่เริ่มเสียงแตก ว่าแม้จะเชียร์นายธนาธร แต่ถ้ามีการลัดคิวฉีด หรือไม่โปร่งใส ก็รับไม่ได้เช่นกัน รวมทั้งไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เนื่องจากสำนักข่าวใหญ่ ไม่เล่นข่าวนี้เลยด้วยซ้ำ

ภาพ จาก เฟซบุ๊ก ดร.นิ้ว ขอบคุณภาพจาก ดร.นิว และเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ล่าสุดเฟซบุ๊กของ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” ได้โพสต์ภาพ ย้อนคำพูดของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ของนายธนาธร ที่เคยให้สัมภาษณ์สื่อ เมื่อครั้งลูกชายตนเองจะลงเล่นการเมือง ระบุว่า “ลูกชายของฉัน ฉันก็หวังว่าเขาจะเป็นเปาปุ้นจิ้นเมืองไทย ไม่มีการโกงกิน หรือเป็นสีจิ้นผิง ในเมืองไทยก็ได้ เขาอุทิศตัวมาช่วยประเทศ ไม่ใช่เข้ามากอบโกย…ฉันเลี้ยงลูกมาก็สอนลูก ให้ลูกซื่อสัตย์ ห้ามขโมยของเพื่อนที่โรงเรียนกลับบ้าน”

โดยขณะนี้ในโลกโซเชียลได้มีประชาชนจำนวนมาก เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ว่า เรื่องเล็ก ๆ ยังเอาเปรียบแย่งคนในพื้นที่ฉีดวัคซีน…แล้วเรื่องอื่น ๆ ล่ะไม่ต้องพูดถึงสินะ , อ่านแล้ว ขำจริง ๆ อยากจะให้เป็น เปาบุ้นจิ้น เป็นคนดีให้ได้ก่อนเถอะ บัดซบ , เป็นกันทั้งบ้าน ไม่มีความละอายปากกันเลย , หลอกได้แม้กระทั่งแม่ตัวเอง และบอกว่าเป็นคนเต็มคนให้ได้ก่อนค่ะ

ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น วัคซีน VIP ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 พากันสาปแช่ง “ก๊วนด้อยค่าวัคซีน” หลงเชื่อจนต้องเสียบิดา สุดท้ายก็แอบย่องไปฉีดกันหมด!?

เนื้อหาระบุว่า กำลังเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมาก เมื่อทางด้านของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้แอบไปฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ลอตแรกที่ผลิตจากสยามไบโอไซเอนซ์ ทั้งที่ตนเองและกลุ่มการเมืองฝั่งตัวเอง พยายามทำลายความน่าเชื่อถือ รวมถึงกลุ่มผู้ชุมนุมสามกีบมักจะออกมาด้อยค่า จนทำให้หลายๆคนต่างไม่กล้าฉีดเพราะเกรงว่าจะเกิดผลข้างเคียง ตามที่กลุ่มการเมืองนี้พยายามด้อยค่า

จนในที่สุดก็ความแตก เมื่อ นายธนาธร และครอบครัว รวมถึงฝั่งการเมืองที่มักจะออกมาโจมตีวัคซีนดังกล่าว ต่างพากันตบเท้าเข้าไปฉีด แถมยังเป็นช่วงที่ต้องฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงและผู้สูงอายุก่อนด้วยซ้ำ

ภาพ ชาวเน็ตสาปแช่ง “ก๊วนด้อยค่าวัคซีน” หลงเชื่อจนต้องเสียพ่อ ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ล่าสุด เรียกได้ว่า เป็นกระแสร้อนแรงยังไม่จบ เมื่อได้มีการติดแฮชแท็ก #วัคซีนVIP จนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ในช่วงเช้าวันที่ 9 มกราคม 2565 ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นไม่พอใจ ต่ออกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น โดยมีการโพสต์ข้อความด้วยถ้อยคำรุนแรง เช่น

“มีหมอต่างจังหวัดเอาวัคซีนที่เหลือก้นขวด โทรไปเรียกญาติพี่น้องมาฉีด เพราะไม่อยากเสียของ สามกีบด่าแหลก ปั่นกันจนหมอนั้นแทบหมดอนาคต ร้องห่มร้องไห้ แต่กับนายกฯโซเชียลและตั้งเป้าเป็นนายกฯทิพย์ในอนาคต 20 ปีข้างหน้า กลับไม่มีสามกีบมาเรียกร้องความเท่าเทียม”

“ที่สื่อส่วนใหญ่ไม่เล่นประเด็นการรับวัคซีนของเต็กหนุ่มวัย 40 กว่าปีคนนั้น มันแปลว่าระบบอุปถัมภ์ ระบบเส้นสาย ระบบอภิสิทธิ์ชน มีอยู่ในทุกภาคส่วนของสังคม ไม่เว้นแม้กระทั่งในสังคมของคนที่เรียกร้องความเท่าเทียม ความเสมอภาคอย่างเอาเป็นเอาตาย #ความเสมอภาคไม่มีอยู่จริง #วัคซีนVIP”

นอกจากนี้ ยังมีบางคนที่ต้องสูญเสียพ่อแม่ เพราะเชื่อคำพูดด้อยค่าของกลุ่มนักการเมืองที่ออกมาต่อต้าน และพยายามปลูกฝังความเชื่อว่า วัคซีนแอสตราเซเนกา อันตรายหากฉีดแล้วอาจจะมีผลข้างเคียงถึงชีวิต จึงไม่ยอมให้พ่อแม่ไปรับวัคซีน

“พวกคุณด้อยค่าวัคซีนให้น่ากลัวจนเพื่อนเราไม่ยอมพาพ่อแม่ไปฉีด เพื่อรอวัคซีนเทพ พ่อเพื่อนไม่ชินกับการป้องกันตัวใช้ชีวิตปกติ จนสุดท้ายนำเชื้อเข้ามาติดทั้งบ้าน พ่อเสียชีวิต คนงานในบ้านฉีด SV ทุกคนไม่มีใครติด แต่ตัวคุณเองกลับดอดไปฉีด AZ ที่คุณด่า เวรกรรมมีจริงนะ เราขอแช่ง!!”

ซึ่งก็มีหลายๆคนที่ออกมาพูดถึงในประเด็นที่กลุ่มการเมืองดังกล่าวพยายามปลุกปั่นข่าวในแง่ลบ เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทย แต่ตัวเองกลับลัดคิวไปฉีด

ภาพ “ไทม์ไลน์” ชัด จงใจ “หมิ่นสถาบันฯ” กรรมตามทัน ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน THE TRUTH โพสต์ประเด็น อดีตรองอธิการ มธ. เปิดชัดๆ ไทม์ไลน์ เวรกรรมตามทัน “ธนาธร” หลังโจมตีรัฐบาล กระทบสถาบันฯ

โดยระบุว่า ยังร้อนระอุไม่เลิก สืบเนื่องจากกรณีที่ได้มีการเปิดเผยถึงประวัติการฉีดวัคซีน ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จนกลายเป็นประเด็นสุดร้อนแรง

ล่าสุด รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก Harirak Sutabutr ระบุว่า

มีข่าวจาก face book ของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจเองว่า คณธนาธร ติดเชื้อโควิด-19 ดูเหมือนไม่ได้บอกว่าเป็นเชื้อ delta หรือ omicron แต่มีหลักฐานที่ได้รับการยืนยันว่า คุณธนาธร ได้ฉีดวัคซีน Astra Zeneca มาแล้ว 2 เข็ม เข็มแรกฉีดวันที่ 1 กค 64 เข็มที่ 2 ฉีดวันที่ 22 ธค 64 วัคซีนเข็มแรกเป็นวัคซีนล็อตแรกที่ผลิตโดยบริษัท Siam Bioscience ฉีดที่โรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ เวลา 19.15 น คุณธนาธรจึงน่าจะได้รับสิทธิพิเศษบางประการ เมื่อคำนึงถึงเวลาที่ฉีดเป็นเวลาค่ำ นอกเวลาฉีดวัคซีนตามปกติ และเนื่องจากยังไม่ถึงเวลาผู้ที่อายุน้อยกว่า 60 ปี ที่ไม่ได้เป็นบุคลากรทางการแพทย์จะได้รับวัคซีน ไม่ว่าจะเป็น Sinovac หรือ Astra Zeneca ก็ตาม

คงยังไม่ลืมกันว่า เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2564 คุณธนาธรได้พูดออก face book live ในหัวข้อ
“วัคซีนพระราชทาน ใครได้ใครเสีย”

ในการพูดในวันนั้น คุณธนาธรได้ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลไม่ได้ตัดสินใจเรื่องวัคซีนบนพื้นฐานของผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก เพราะรัฐบาลไม่ได้เจรจาเรื่องวัคซีนกับบริษัทอื่นๆ นอกจาก Astra Zeneca ซึ่งได้มอบหมายให้บริษัท Siam Bioscience เป็นผู้ผลิตในประเทศไทย บริษัท Siam Bioscience เป็นบริษัทที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงจัดตั้งขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงยาที่ต้องใช้เทคโนโลยีสูง ได้ในราคาที่ถูกลง

คุณธนาธรได้เปรียบเทียบว่าการทำข้อตกลงกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนเพียงบริษัทเดียว เปรียบเสมือนแทงม้าตัวเดียว อีกทั้งบริษัท Siam Bioscience มีผลประกอบการที่ขาดทุนมาโดยตลอด แต่ยังได้รับมอบหมายให้ผลิตวัคซีน คำถามที่คุณธนาธรต้องการถามคือ การทำเช่นนี้ เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทเอกชน และเป็นการสร้างคะแนนนิยมให้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ทำให้ประชาชนต้องเสียประโยชน์ คือ ได้รับวัคซีนช้าลง และไม่ได้วัคซีนที่มีคุณภาพหรือไม่ คุณธนาธรยังยกตัวอย่างประเทศต่างๆว่า ล้วนมีการฉีดวัคซีนได้เร็วกว่าประเทศเรา หากฉีดวัคซีนได้เร็ว เมื่อเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ประชาชนก็จะใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติ นักท่องเที่ยวจะเริ่มเข้ามา เศรษฐกิจจะฟื้นตัว

หลังจากวันนั้น ม็อบที่นำโดย เพนกวินและเบนจาก็ไปก่อความวุ่นวายประท้วงที่หน้าบริษัท Siam Bioscience และกลุ่ม 3 นิ้ว และสาวกของคุณธนาธรก็เริ่มปฏิเสธ Astra Zeneca และเรียกร้องให้รัฐบาลจัดหาวัคซีนแบบ mRNA มาเป็นวัคซีนหลักของประเทศแทน Astra Zeneca ให้ได้ และยังมีประชาชนจำนวนไม่น้อยหลงเชื่อจนไม่ยอมฉีดวัคซีนแบบอื่นนอกจาก mRNA เท่านั้น ประชาชนเหล่านั้นจึงยังไม่ยอมฉีดวัคซีน แต่เฝ้ารอวัคซีนเทพทั้ง 2 ยี่ห้อ มิไยที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่างออกมากระตุ้นเตือนว่า วัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่ฉีดได้เร็วที่สุด

ภาพ รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
หลังจากนั้น ประมาณเดือนมิถุนายน คุณธนาธร ก็ออกมาปรามาสอีกว่า Siam Bioscience ไม่มีทางส่งมอบวัคซีนให้รัฐบาลได้ทันตามกำหนดเวลาอย่างแน่นอน

เมื่อเวลาผ่านไปถึงวันนี้ คงเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า สิ่งที่คุณธนาธรพูดมาทั้งหมดล้วนไม่เกิดขึ้น การจัดหาวัคซีนและการฉีดวัคซีน เป็นไปตามเป้าหมายทุกประการ ประเทศไทยได้มีการฉีดวัคซีนได้มากกว่า 100 ล้านโดส ก่อนสิ้นปี 2564 ทั้งยังมีวัคซีน Pfizer ให้ฉีดอย่างเหลือเฟือ ส่วน Moderna ที่เอกชนสั่งเข้ามาสำหรับผู้ที่ต้องการจ่ายเงินก็มาถึงตามกำหนดเวลา ที่ไม่เป็นไปตามที่คุณธนาธรพูดก็คือ ผู้ที่ได้ฉีดวัคซีนเทพทั้ง 2 ยี่ห้อไปแล้วในต่างประเทศอย่างน้อย 2 โดส ก็ยังคงติดเชื้อกันเป็นว่าเล่นเมื่อเจอกับเชื้อโควิดที่กลายพันธุ์คือ delta และ omicron สรุปแล้วยังไม่มีประเทศใดเกิดภูมิคุ้มกันหมู่และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ อย่างที่คุณธาธรกล่าวไว้แต่อย่างใด

ชัดเจนเช่นเดียวกันว่า การที่คุณธนาธรโจมตีรัฐบาลในเรื่องวัคซีน เป้าหมายที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่รัฐบาล หากแต่ต้องการให้กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ตรงๆ ไม่ทราบว่าเวรกรรมตามทันหรือไม่ที่ทำให้คุณธนาธรต้องมาติดเชื้อโควิด 19 ครั้งนี้

หวังว่า คุณธนาธรจะไม่เป็นอะไรมาก หลังจากหายป่วยแล้ว เชื่อว่า คุณธนาธรและสาวกก็จะยังคงเดินหน้าจับผิดสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อไป เพียงหวังว่าคุณธนาธรพึงนึกถึงกฎแห่งกรรมให้มากไว้ จะได้ไม่ต้องพบกับวิบากกรรมต่างๆ อีกทั้งประเทศชาติก็จะได้วุ่นวายน้อยลงด้วย

แน่นอน, สิ่งที่สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนก็คือ คนไทยเริ่มตาสว่าง และไม่ปล่อยให้เรื่องนี้จบลงง่ายๆ แม้ว่าสื่อกระแสหลักหลายสำนักพยายามจะมองข้าม เพราะเห็นว่า ขบวนการต่อสู้ของ 3 นิ้วจะได้รับผลกระทบ เพราะถือว่า นายธนาธร คือหัวขบวนที่พวกเขาเชิดชู และตั้งความหวังเอาไว้สูง ในการต่อสู้ “ล้มเจ้า”

ยิ่งกว่านั้น การต่อสู้เรื่องวัคซีนด้วยการโจมตีรัฐบาลเพื่อกระทบชิ่งถึงสถาบันฯนั้น นายธนาธร อาจไม่ได้พุ่งเป้าไปที่วัคซีนที่รัฐบาลจัดการมาให้คนไทยอย่างแท้จริง และลึกๆ ก็อาจเชื่อว่า วัคซีนที่รัฐบาลจัดให้ประชาชน เป็นวัคซีนที่ดี จึงแอบย่องไปใช้อภิสิทธิ์ฉีดก่อนคนไทยทั่วไป นอกเหนือ กลุ่มเสี่ยงที่ต้องฉีดก่อน

หากแต่เป้าที่แท้จริงคือ การมุ่งไปที่สถาบันฯ อันเป็นเป้าหมายทางการเมืองของตัวเองกับพรรคพวก จึงดูเบาปัญหาที่จะตามมานั่นเอง อีกอย่างใครจะคิดว่า เวรกรรมมีจริง โดยเฉพาะคนที่ไม่เชื่อเรื่องเวรกรรม ไม่นับถือวัฒนธรรมไทยที่ผูกพันอยู่กับเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ คนไทยเชื่อว่า เวรกรรมมีจริง

เหนืออื่นใด ดูเหมือน “นายกฯโซเชียล” กำลังถูกโซเชียลเล่นงาน ไม่ต่างจาก “หมองู ตายเพราะงู” คนใช้โซเชียล ปลุกปั่นกระแส “ล้มเจ้า” ก็กำลังเผชิญชะตากรรม เช่นเดียวกัน หรือว่าไม่จริง!?


กำลังโหลดความคิดเห็น