xs
xsm
sm
md
lg

“แรมโบ้” ซัด “เพื่อไทย” ฉวยโอกาสใช้ฉายาโจมตีรัฐบาล มั่นใจสื่อไม่ต้องการเป็นเครื่องมือใคร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แรมโบ้” ลั่น นายกฯ ทำทุกอย่างเพื่อประชาชน และประเทศชาติ แม้เจอวิกฤตรอบด้านก็ไม่เคยท้อ ซัด “เพื่อไทย” อย่าใช้โอกาสนำฉายารัฐบาลที่สื่อตั้งให้มาเป็นประเด็นการเมืองโจมตีนายกฯ และรัฐบาล มั่นใจสื่อไม่อยากให้นำไปเป็นเครื่องมือใครทั้งสิ้น


วันนี้ (27 ธ.ค.) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคเพื่อไทย วิพากษ์วิจารณ์ฉายารัฐบาลสะท้อนภาพการทำงานที่ผ่านมาจริง ว่า การตั้งฉายารัฐบาล ถือเป็นธรรมเนียบปฏิบัติของสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลทุกปีอยู่แล้ว ซึ่งในสมัย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นรัฐบาลยังถูกตัองฉายาเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ การตั้งฉายารัฐบาล ยื้อยุทธ์ ยังมีนัยที่ต้องยื้อ เพราะนายกฯ เป็นคนที่ทำงานแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมืองและพัฒนาประเทศมาโดยตลอด แก้ไขปัญหาจนสถานการณ์คลี่คลายลงโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ขณะเดียวกัน ได้แก้ไขปัญหาที่รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยได้ก่อหนี้สร้างปัญหาเอาไว้จากโครงการทุจริตมากมายอีกด้วย

“สื่อให้ฉายา นายกฯ ชำรุดยุทธ์โทรม ถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะมองว่าบ้านเมืองชำรุดมามากมายนายกฯต้องทำงานอย่างหนักมาโดยตลอดในการแก้ไขปัญหา ไม่เคยคิดถึงเรื่องของตัวเอง คิดถึงแต่ชาติบ้านเมืองและประชาชน ตนเองขอบคุณสื่อและประชาชนที่เข้าใจการทำงานของนายกฯว่าทุ่มเทตลอด ตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่นี้ ไม่เคยท้อแท้แม้งานหนัก ส่วนเรื่องสุขภาพก็เป็นไปตามวัย แต่ยังแข็งแรงทุกอย่างทั้งร่างกายและจิตใจยังมีความพร้อมที่จะทำงานเพื่อประชาชนต่อไป”

การบริหารราชการแผ่นดินตลอดทั้งปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ถือได้ว่า เป็นผู้ที่รับบทหนักที่สุดแห่ง ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาโควิด-19 การกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริหารราชการ หรือแม้แต่เรื่องทางการเมือง ถูกโจมตีรอบด้าน นายกฯก็นิ่งอดทน มีสติไม่เคยคิดตอบโต้ เพื่อให้เกิดการเสียบรรยากาศ มีแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างอดทนไม่เคยย่อท้อ

นายเสกสกล ระบุว่า ต้องขอขอบคุณบรรดาพี่น้องสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ที่ได้ตั้งฉายาให้กับ นายกรัฐมนตรี ซึ่งบรรดาสื่อคงทราบดีว่า ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้น รัฐบาล และ นายกฯ นั้นเจอกับสถานการณ์ที่ไม่ปกตินัก ตั้งแต่เรื่องของปัญหาการเมืองในประเทศไทย ที่มีกลุ่มการเมืองต้องการเอาชนะกันทางการเมือง จนลืมประชาชน ลืมประเทศ เล่นการเมือง จนทำให้ประเทศชาติเสียหาย จนกระทั่งมาเจอกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่ง ทุกประเทศทั่วโลกก็เจอกันหมดและรุนแรงเหมือนกันทั้งโลก พล.อ.ประยุทธ์ ต้องนำพารัฐบาล ภายใต้สถานการณ์ ที่ยากลำบากยิ่ง แต่ตัวนายกฯ ก็ไม่เคยหยุดที่จะคิด ทำ เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน และประเทศชาติ จนตอนนี้วิกฤติดังกล่าวนั้นค่อย ๆ คลี่คลาย ทำให้ประเทศได้รับการยกย่องให้ เป็นอันดับ 5 ของโลก ที่มีความมั่นคงด้านสุขภาพ ในขณะที่วิกฤตที่ถูกซ้ำเติม ตามมาก็คือวิกฤตเศรษฐกิจ ตั้งแต่ภาคครัวเรือนไปจนถึงภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเรื่องนี้นายกฯ ก็ตระหนักดี จึงได้มีโครงการต่าง ๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบต่างก็ได้ รับการช่วยเหลือ เยียวยา ดูแลอย่างทั่วถึง จนทำให้ต่างประเทศจัดให้ประเทศไทย ติดอันดับ 1 ตลาดเกิดใหม่ที่น่าลงทุนที่สุด (1st in Bloomberg’s Emerging) ในปี 2564 โดย Bloomberg Study สิ่งเหล่านี้พิสูจน์ได้ชัดว่ารัฐบาล ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ นั้นคิดทำ เพื่อประชาชน และประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง

นายเสกสกล กล่าวต่อว่า นอกจากปัญหาโควิด-19 และ เศรษฐกิจแล้ว สิ่งที่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งที่เป็นปัญหาเช่นกันคือสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย ที่มีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่กระทำทุกอย่างเพื่อให้ประเทศเกิดปัญหา สอดรับ สอดคล้องกับการเมืองในสภา ของฝ่ายค้าน ที่ไม่เคยเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหาให้กับประชาชน แต่มุ่งโจมตี ทำลายรัฐบาล อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จากสถานต่างๆ ตลอดปี 2564 แม้สื่อจะให้ฉายารัฐบาล และ นายกรัฐมนตรี ตนมองเป็นสีสันทางการเมือง แต่สิ่งที่จะได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ คือ ประชาชนได้ทราบดีว่า นายกรัฐมนตรีนั้น มุ่งหวังให้ประเทศชาติ และประชาชน กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด และ คิดทำ ทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติอย่างแท้จริงจะเห็นได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นดั่งหินผา ที่ยืนท้าทายต่อสู้กับวิกฤตต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่เคยท้อ ไม่ถอย คิด ทำทุกอย่างเพื่อประเทศชาติ และประชาชนที่ท่านรัก ไม่เลือกว่าเป็นคนอาชีพอะไร อยู่ภาคไหน แต่ทำให้กับทุกคน เพราะทุกคนคือคนไทย

นายเสกสกล ยังมองว่า พรรคเพื่อไทยไม่ควรใช้โอกาสนี้นำฉายาที่สื่อตั้งให้รัฐบาล นายกฯ หรือรัฐมนตรี มาเป็นประเด็นทางการเมือง หรือนำมากล่าวหาโจมตีนายกฯ ต้องให้เกียรติกับสื่อมวลชนด้วย เพราะตนเองมั่นใจว่าสื่อมวลชนเองก็ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยหรือพรรคฝ่ายค้าน นำเอาฉายาไปเป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของใครทั้งสิ้น

และก่อนหน้านี้ สมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ สื่อตั้งฉายารัฐบาล “พี่คนแรก” เพราะเอะอะอะไรก็พี่ เรื่องของพี่ต้องมาก่อน หรือ ฉายานางสาวยิ่งลักษณ์ ปูกรรเชียง เดินเซไปเซมา ไม่ตรงทาง ในการบริหารงาน และใบสั่งจากพี่ชาย-พี่สาว ทำงานไม่เห็นผลงานที่เป็นรูปธรรม มีปัญหาทางการเมืองก็มักจะตีกรรเชียง ลอยตัวหนีปัญหา แบบนี้ถือว่าสะท้อนการทำงานของรัฐบาลสมัยนั้นหรือไม่ โฆษกพรรคเพื่อไทยช่วยชี้แจงประเด็นนี้หน่อยจะได้ไหม” นายเสกสกล กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น