xs
xsm
sm
md
lg

เปิดข้อมูลวัคซีน “แกนนำก้าวไกล-ก้าวหน้า” หักหลังสามนิ้วเป็นว่าเล่น “ช่อ” ด่า “ทอน”? คนไร้ยางอายใช้เส้น-ลัดคิว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ เปิดข้อมูลวัคซีน “แกนนำก้าวไกล-ก้าวหน้า” หักหลังสามนิ้ว ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
เปิดข้อมูลรับวัคซีน “แกนนำก้าวไกล-ก้าวหน้า” ปากด้อยค่าแอสตร้า-ซิโนแวค แต่หักหลังสามนิ้วเป็นว่าเล่น “ช่อ-แนวร่วมสามนิ้ว” ด่าใคร? คนไร้ยางอายใช้เส้น-ลัดคิว คงไม่คิด กรรมจะตามสนองพวกตัวเอง หลังถูกจับโป๊ะ

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (8 ม.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น เปิดข้อมูลรับวัคซีน “แกนนำก้าวไกล-ก้าวหน้า” ปากด้อยค่าแอสตร้า-ซิโนแวค หักหลังสามนิ้วฉีดกันอื้อ!

โดยระบุว่า จากกรณีที่กำลังเป็นประเด็นตั้งคำถามอย่างกว้างขวาง เมื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ประกาศว่า ติดโควิด-19 หลังกลับจากต่างประเทศ จนนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูล ประวัติการฉีดวัคซีนของ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ว่า นายธนาธร มีการไปฉีดวัคซีน โดยฉีดในวันที่ 1 ก.ค. 64 เวลา 19.15 น. ที่ โรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ ซึ่งหลายคนสงสัยว่า เวลาดังกล่าวนั้นค่อนข้างน่าแปลกใจ

ภาพ ข้อมูลวัตซีน “แกนนำก้าวไกล-ก้าวหน้า” ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ต่อมา สำนักข่าว The Truth สอบถามไปยังแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถืออีกครั้ง โดยได้ตรวจสอบรายละเอียดแล้ว พบว่า ประวัติการฉีดวัคซีน ที่ ดร.อานนท์ นำมาเปิดเผยนั้น เป็นของ นายธนาธร จริงหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่า “เป็นความจริง”

โดย นายธนาธร เข้าไปฉีดวัคซีน “แอสตร้าเซนเนกา” ซึ่งผลิตโดย บจก.สยามไบโอไซเอนซ์ ในวันและเวลาดังกล่าวจริง โดยที่ไม่มีการลงทะเบียนล่วงหน้าแต่อย่างใด แต่เป็นการวอล์กอิน เข้าไปฉีด

ล่าสุด มีการเผยแพร่ข้อมูลการฉีดวัคซีนของ ส.ส.ในพรรคก้าวไกล โดยคนแรกคือ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ฉีดวัคซีนเข็มแรก เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 เป็นวัคซีนซิโนแวค (C202104064) เข็มที่ 2 ฉีดเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564 วัคซีนซิโนแวค (C202104069) และเข็มที่ 3 ฉีดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2564 เป็นของแอสตร้าเซนเนก้า (210156)

ต่อมา นายรังสิมันต์ โรม ฉีดวัคซีนเข็มแรก จากเกาหลีใต้ เข็มแรกฉีดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 เป็น แอสตร้าเซนเนก้า (CTMAV509) ลอตที่ผลิตจากเกาหลีใต้ โดยกลุ่มบุคคลที่ได้ฉีด ลอตนี้ (พ.ค. 2564) คือ บุคลากรทางการแพทย์ หรือ ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เช่น สมุทรสาคร ภูเก็ต ฉีดเข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เป็น แอสตร้าเซเนก้า (D007A) และเข็มที่ 3 ฉีดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2564 เป็น โมเดอร์นา (3005841)

นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ฉีดวัคซีนเข็มแรก เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 เป็นของซิโนแวค (C202104065) เข็มที่ 2 ฉีดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2564 เป็นวัคซีนซิโนแวค (C202105081) และเข็มที่ 3 ฉีดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 เป็นของแอสตร้าเซนเนก้า (A1092)

และ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เข้ารับวัคซีนเข็มแรก เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้า (A1003) เข็มที่ 2 ฉีดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 ของแอสตร้าเซนเนก้า (A1016) และเข็มที่ 3 เป็นวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565

และสำหรับของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เข้ารับวัคซีนเข็มแรกเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2564 เป็นของแอสตร้าเซนเนก้า (A1009) และฉีดเข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2564 เป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (210003) และเข็มที่ 3 ฉีดของโมเดอร์นา เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลดังกล่าว จะเห็นได้ว่า ส.ส.พรรคก้าวไกล รวมไปถึงหัวหน้าพรรคและแกนนำคณะก้าวหน้า ได้เข้ารับการวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวค ซึ่งที่ผ่านมา ส.ส.คนดังกล่าว ก็ได้มีพฤติกรรมที่ออกมาด้อยค่าวัคซีนดังกล่าวหลายครั้ง

ย้อนไปเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2564 นางอมรัตน์ ได้โพสต์ข้อความพร้อมกับรูปภาพฉีดวัคซีนโควิด ระบุว่า ซิโนแวคเข็มที่ 2 วันนี้การบริหารจัดการการฉีดวัคซีนที่อาคารรัฐสภาทำได้ดีมาก จนท.มีความเป็นมืออาชีพ ใช้เวลารวมทั้งสิ้นถึงกลับบ้านได้ประมาณ 1 ชม. #ไม่มีโรคประจำตัว

จากนั้น นางอมรัตน์ โพสต์ข้อความสั้นๆ ว่า “ฉีดให้มันจบๆ ไป” โดยเป็นการตอบผู้ที่เข้ามาถามว่า “ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงยอมฉีดยี่ห้อนี้” ซึ่งนางอมรัตน์ ตอบกลับว่า “ฉีดไปส่งเดชค่ะ ตามที่เค้าจัดให้ ขี้เกียจเรื่องเยอะ”

นอกจากนี้ ยังมีผู้แสดงความเห็นว่า “เสี่ยงเกินไปครับ โชคดีที่ไม่เป็นไรครับ” นางอมรัตน์ ตอบกลับว่า คงเพราะไม่กลัวเลยไม่รู้สึกว่าเสี่ยงอะไร และรู้สึกชีวิตตัวเองไม่ได้มีค่าอะไรมากมาย เลยส่งเดชไปไม่เป็นไรค่ะ”

ในขณะเดียวกัน ย้อนไปเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 64 หลังจากที่ นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผอ.ฝ่ายสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัท  สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ได้ออกมาชี้แจงทุกประเด็นเกี่ยวกับการผลิตและส่งมอบวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ของบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ที่ได้ส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ลอตแรก จำนวน 1.8 ล้านโดส ไปเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2564 ให้กับแอสตร้าเซนเนก้า โดยทางบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ถือเป็นโรงงานเดียวในไทยและเอเชียที่มีศักยภาพในการผลิตวัคซีน หลังจากได้ลงนามร่วมกันเมื่อเดือนธันวาคม 2563

ภาพ ข้อมูลวัตซีน “แกนนำก้าวไกล-ก้าวหน้า” ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ทำให้ ช่อ พรรณิการ์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว ว่า งงค่ะ เมื่อวานบอกว่าที่ส่งมอบ 1.8 ล้านโดส คือ ให้ไทย แต่วันนี้บอกส่งให้แอสตร้าเซนเนก้า แล้วแต่แอสตร้าจะไปจัดสรรให้ประเทศไหน สรุปว่าเดือนนี้ไทยได้กี่โดสกันแน่จากแอสตร้า?

แต่การที่ สธ.แถลงว่า เดือนนี้มีวัคซีนฉีดให้ประชาชน 6 ล้านโดส (ซึ่งเป็นตัวเลขแผนที่เคยระบุไว้ว่าเดือน มิ.ย. แอสตร้าต้องส่งวัคซีนให้ไทย 6 ล้านโดส) แต่เป็นซิโนแวคบวกแอสตร้า และตอนนี้ไทยยังมีซิโนแวคเหลือในมืออีกประมาณ 2 ล้านโดส บวกสั่งมาใหม่อีก 3 ล้านโดสในเดือนนี้ ก็หมายความว่า เดือนนี้เราน่าจะได้ฉีดซิโนแวคเป็นหลัก เพราะมีอยู่ถึง 5 ล้าน จาก 6 ล้านโดสที่เป็นโควตาวัคซีนเดือนนี้

ปล. อนุทินยังสั่งซิโนแวคมาอีก 11 ล้านโดส อาจเป็นการสำรองใช้เผื่อแอสตร้าส่งมอบได้ไม่ตรงตามแผนในเดือนถัดๆไปหรือไม่?

ปล.2 ใครที่คิดว่าวัคซีนอะไรก็เหมือนๆ กัน โปรดเข้าใจว่า ซิโนแวคซึ่งมีประสิทธิภาพประมาณ 50% ในการป้องกันโรค ย่อมไม่สามารถทำให้เกิดภูมิต้านทานหมู่ได้ หรือเกิดช้ากว่าวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง 70-95% เพราะต่อให้ฉีดครบ 100% ทั้งประเทศ ภูมิก็ไม่ขึ้นถึง 70-75% ดังมีตัวอย่างในชิลี ที่ปูพรมฉีดซิโนแวคให้ประชากรเกิน 60% ไปแล้วแต่กลับเจอระบาดซ้ำระลอกใหม่ ในขณะที่อิสราเอล สหรัฐฯ ฉีดวัคซีนให้ประชากรด้วยอัตราใกล้เคียงกัน และไม่เจอระบาดซ้ำ เพราะฉีดไฟเซอร์ โมเดอร์นา เป็นหลัก

ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น เปิดโพสต์ “ช่อ-แนวร่วมสามนิ้ว” ด่าใคร? คนไร้ยางอายใช้เส้น-ลัดคิวฉีดวัคซีน!

เนื้อหาระบุว่า หากย้อนไปเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีการจัดสรรวัคซีน โดยระบุข้อความว่า

ไฟเซอร์ที่จะเข้ามา 1.5 ล้านโดส สิ้นเดือนนี้ และ 20 ล้านโดส ในไตรมาส 4 จะต้องถูกจัดสรรให้ผู้ที่จำเป็น ไม่ใช่ผู้ที่ใช้เส้นสายและความไร้ยางอาย ประชาชนจะแน่ใจได้ว่า วัคซีนทั้งหมดถูกจัดสรรอย่างเป็นธรรม ก็ต่อเมื่อมีการเปิดเผยสต็อกวัคซีนอย่างโปร่งใส อัปเดตรายวัน #ขอซิโนแวคให้กองทัพ

ภาพ “ช่อ” ด่า “ทอน”? คนไร้ยางอายใช้เส้น-ลัดคิว ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ทั้งนี้ ยังมีแนวร่วมสามนิ้วหลายคน ได้ออกมาพูดถึงประเด็นของการลัดคิวฉีดวัคซีน โดยบอกว่า แกฟังนะ มันมีคนใช้เส้นสายเอาวัคซีนที่มีไปฉีดให้คนรู้จักและพรรคพวกตัวเองก่อน ตอนแรกมีแค่ รง คนพวกนี้ก็ฉีด sv พอ เริ่ม az ก็ขอฉีด az แล้วพอข่าวจะมีไฟเซอร์ ก็จะเอาก่อน เพราะแบบนี้มันถึงยังไม่ตกไปถึงคนไม่มีเส้นสายสักที เข็มแรกไม่มีทางถึง 80% ไม่ใช่ว่าไม่อยากฉีด แต่มันไม่เรียกให้ไปฉีด

การไม่ใช้พริวิเลจ/เส้นสาย/ความอีลีทในการลัดคิวรับวัคซีน มันเป็นบรรทัดฐานกับสามัญสำนึกอยู่แล้วไหมอะ ยิ่งให้ค่าความอีลีทต่อคิวแบบนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับที่ฝั่งสลิ่มชม ส.ส. ต่อแถวขึ้นเครื่อง ถือกระเป๋าเอง กดกาแฟเอง อะไรยังงั้นนะ

แน่นอน, สิ่งที่เห็นชัดแล้วในวันนี้ ก็คือ การเล่นการเมืองที่ยิ่งกว่าน้ำเน่าให้คนไทยเห็น ของคนที่เรียกตัวเองว่า คนรุ่นใหม่ นักการเมืองหัวก้าวหน้า และสมอ้างว่าตัวเองเป็นอนาคตของประเทศ

คำที่ด่าคนอื่น ไร้ยางอายใช้เส้น-ลัดคิว ที่แท้ก็คือพฤติกรรมตัวเองและพรรคพวก ซึ่งเท่ากับด่าและประจานตัวเองและพรรคพวก

คงไม่คิดว่า สิ่งที่ตัวเองเล่นสกปรกจะถูกจับได้ หรือ กรรมตามสนองในที่สุด ทั้งยังรวดเร็วกว่าที่คาดเอาไว้

วันนี้หลักฐานชัดจนแก้ตัวไม่ได้แล้วว่า ที่ด้อยค่าวัคซีนจนคนไทยจำนวนหนึ่งไม่กล้าฉีด หลายครอบครัว หลายคนรอฉีดวัคซีนคุณภาพ ที่พวกเขากล่าวอ้าง จนไวรัสลงปอดเสียชีวิตไปแล้วก็มี ใครกันที่ควรรับผิดชอบ

ถ้าคนเหล่านั้นอยู่มาถึงวันนี้ แล้วรู้ว่า หลงเชื่อคนบางกลุ่มที่ใช้ชีวิตของพวกเขาเล่นเกมการเมือง น่าคิดว่า เขาจะรู้สึกอย่างไร เจ็บปวดแค่ไหน?

ทั้งเห็นได้ชัดว่า คนเหล่านี้ทำได้ทุกอย่าง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเมือง หรือว่าไม่จริง!?


กำลังโหลดความคิดเห็น